โฆษกรัฐบาลเผย บสย.ช่วย SMEs รายย่อยกว่า 2.1 หมื่นราย ค้ำสินเชื่อรวมเกือบ 2 หมื่นล้านบาทในครึ่งปีแรก พร้อมเปิดมาตรการใหม่ครึ่งปีหลังอัดฉีด 5 หมื่นล้าน หวังเพิ่มสภาพคล่องกลุ่มเปราะบาง19 กรกฎาคม 2568 - นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในช่วงเวลาเกือบ 1 ปี รัฐบาลให้ความสำคัญต่อการพัฒนาและเพิ่มประสิทธิภาพ SMEs ของไทยประมาณ 75% ของประเทศ โดยได้ประสานไปยังกระทรวงการคลัง เพื่อออกนโยบายต่าง ๆ เร่งผลักดันและช่วยเหลือ SMEs ให้สามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างยั่งยืน ล่าสุด บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ได้เปิดเผยยอดค้ำประกันสินเชื่อครึ่งปีแรก 2568 (ม.ค.-มิ.ย.) รวม 1.9 หมื่นล้านบาท โดยสามารถช่วย SMEs รายย่อย ให้สามารถเข้าถึงสินเชื่อ 21,348 ราย ก่อให้เกิดผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจกว่า 8 หมื่นล้านบาท
โดยกลุ่มผู้ประกอบการรายย่อย Micro SMEs 81% (ค้ำประกันเฉลี่ย 1.4 แสนบาท/ราย) และอีก 19% เป็น SMEs ทั่วไป (ค้ำประกันเฉลี่ย 4.25 ล้านบาท/ราย) ซึ่งก่อให้เกิดสินเชื่อในระบบกว่า 2.6 หมื่นล้านบาท รักษาการจ้างงานได้ราว 1.88 แสนตำแหน่ง และสร้างผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจได้มากกว่า 8.04 หมื่นล้านบาท สำหรับธุรกิจค้ำประกันสูงสุด 3 ลำดับแรก ได้แก่ การบริการ 31.4% อาหารและเครื่องดื่ม 10.7% และเกษตรกรรม 8%
ซึ่งธุรกิจ 3 ประเภทดังกล่าวครองสัดส่วนค้ำประกันรวมถึง 50% สะท้อนให้เห็นถึงอุตสาหกรรมหลักที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2568 โดยเฉพาะอุตสาหกรรม “ท่องเที่ยว เกษตรและอาหารแปรรูป และ medical and wellness” ที่เป็นอุตสาหกรรมที่ภาครัฐกำลังเดินหน้าเร่งกระตุ้นการลงทุนและผลักดันเป็นอุตสาหกรรมอนาคตของประเทศ
นายจิรายุกล่าวอีกว่า โครงการหลักอย่างโครงการ “บสย. SMEs ยั่งยืน” นั้นพบว่า ตั้งแต่ ก.ค. 2567 – มิ.ย. 2568 มียอดค้ำประกัน 3.8 หมื่นล้านบาท ช่วย SMEs เข้าถึงสินเชื่อ 4.8 หมื่นราย โดยเป็นกลุ่มที่ไม่เคยใช้บริการ บสย. (ลูกค้าใหม่) ถึง 74% และผู้ใช้บริการส่วนใหญ่เป็นกลุ่ม Micro SMEs ถึง 86%
"ตอกย้ำความสำเร็จในการช่วยเหลือ “กลุ่มเปราะบาง” รายย่อย พ่อค้า แม่ค้า อาชีพอิสระ และกลุ่มที่ต้องการเข้าถึงสินเชื่อเช่าซื้อรถกระบะใหม่ ที่มีปัญหาขาดหลักทรัพย์ค้ำประกัน และขาดคนค้ำประกัน สามารถเข้าถึงสินเชื่อในระบบได้มากขึ้น" นายจิรายุ กล่าว
นายจิรายุ กล่าวว่า สำหรับมาตรการช่วงครึ่งปีหลัง โดยเฉพาะในช่วงไตรมาสที่ 3 (ก.ค. - ก.ย. ) ได้ดำเนินการออก “มาตรการพิเศษ” ภายใต้มาตรการ “บสย. พร้อมค้ำ” วงเงินรวม 5 หมื่นล้านบาท ประกอบ 2 โครงการใหม่ คือ
1. โครงการค้ำประกันสินเชื่อ SMEs Power Trade & Biz วงเงิน 3 พันล้านบาท ค้ำประกันต่อราย 5 แสนบาท – 10 ล้านบาท สำหรับกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากสงครามการค้า และซัพพลายเชนที่เกี่ยวข้อง รวมถึงกลุ่มที่ได้ผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจ
2. โครงการค้ำประกันสินเชื่อ SMEs Micro Biz วงเงิน 2 พันล้านบาท ค้ำประกันต่อราย 1 หมื่นบาท – 5 แสนบาท ที่ตอบโจทย์กลุ่มรายย่อย (Micro SMEs) ค้าขายออนไลน์ อาชีพอิสระ ฯลฯ ที่ต้องการเงินทุนหมุนเวียน แต่ขาดคนค้ำและขาดหลักทรัพย์ค้ำประกัน
นายจิรายุกล่าวว่า จุดเด่นทั้ง 2 โครงการ คือ ฟรี! ค่าธรรมเนียมค้ำประกัน 3 ปีแรก ปีต่อไปชำระต่ำเพียง 1.5% ต่อปี ค้ำประกันสูงสุด 7 ปี มุ่งเสริมสภาพคล่อง และลดภาระทางการเงินได้ รวมทั้งยังช่วยกระตุ้นให้สถาบันการเงินปล่อยสินเชื่อในรายที่ต้องการสภาพคล่องเพิ่มเติม แต่ขาดหลักทรัพย์ค้ำประกันด้วยการจ่ายเคลม (จ่ายค่าประกันชดเชย) สูงถึง 37% (SMEs Power Trade & Biz) และ 42% (SMEs Micro Biz) ต่อพอร์ตการค้ำประกันเมื่อเทียบกับการค้ำประกันปกติที่ระยะเวลา 10 ปี
"ขอยืนยันว่ารัฐบาลจะเดินหน้าช่วยเหลือ SMEs อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะมาตรการที่เกี่ยวกับด้านเงินทุนให้กับ SMEs ไทย เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับบรรดาผู้ประกอบการ เจ้าของกิจการ ให้สามารถอยู่รอด เพิ่มประสิทธิภาพการแข่งขัน และเติบโตขึ้นได้อย่างยั่งยืน"นายจิรายุระบุ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
‘ดีพร้อม’อัดสินเชื่อช่วยเอสเอ็มอี
‘ธนกร’ สั่ง ‘ดีพร้อม’ เร่งเดินหน้า Quick Big Win อัดฉีดสินเชื่อ ‘เงินไว by DIPROM’ ช่วยเอสเอ็มอีและผู้ประกอบการรายย่อยดอกเบี้ย 50 สตางค์ กระตุ้นโค้งสุดท้ายปลายปี ดีมานด์พุ่ง!! 30%


