"เสี่ยกลาง-เจ้าสัวคีรี" เข้ามอบเงินผ่าน ผบ.ทบ.-มทภ.2 ให้ทหารชายแดนไทย-กัมพูชา "กัลฟ์" ตั้งกองทุน 100 ล้านบาทเป็นขวัญกำลังใจทหารและครอบครัว ขณะที่ "บีทีเอส" มอบ 50 ล้านบาทช่วยเหลือเยียวยากำลังพล "สารัชถ์" เผยแรงบันดาลใจจากบิดาซึ่งเป็นทหาร อยากช่วยกองทัพ พร้อมหวังขัดแย้งสิ้นสุดโดยเร็ว
7 สิงหาคม 2568 - ที่กองทัพบก บริษัท กัลฟ์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF นำโดย นายสารัชถ์ รัตนาวะดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กัลฟ์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ได้จัดตั้งกองทุนมูลค่า 100 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือและเยียวยาทหารที่ได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิตจากการปฏิบัติภารกิจด้านความมั่นคงในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยมีเป้าหมายหลักในการยกระดับคุณภาพชีวิต และมอบขวัญกำลังใจแก่เหล่าทหารและครอบครัว ให้สามารถกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างเข้มแข็ง โดยมี พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก และ พลโท บุญสิน ภาคกลางแม่ทัพภาคที่ 2 เป็นผู้รับมอบ
นอกจากการจัดตั้งกองทุนแล้ว แล้ว GULF ยังคงเดินหน้าสานต่อภารกิจเพื่อสังคมในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชาอย่างต่อเนื่อง สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการเป็นส่วนหนึ่งของการดูแลสังคมและยืนหยัดเคียงข้างผู้เสียสละเพื่อประเทศชาติ โดยที่ผ่านมาทีมกัลฟ์อาสา ได้ร่วมกันจัดทำและส่งมอบถุงยังชีพ ‘GULF Care’ จำนวนกว่า 2,000 ชุด ให้แก่ทหารที่ปฏิบัติภารกิจด้านความมั่นคง รวมถึงประชาชนที่ได้รับผลกระทบในศูนย์พักพิงตามจังหวัดต่างๆ เช่น บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี และยังได้สนับสนุนงบประมาณเพื่อการบริหารจัดการภายในศูนย์พักพิงอีกด้วย ที่สำคัญ GULF ยังได้มอบเงินช่วยเหลือจำนวน 1.2 ล้านบาท ให้แก่ทหารที่ได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบกับระเบิดในระหว่างปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนเพื่อปกป้องอธิปไตยในพื้นที่ช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี
นายสารัชถ์ กล่าวถึงแรงบันดาลใจที่มอบเงิน 100 ล้านบาท ให้กับกองทัพบก ว่า คุณพ่อของตนก็เป็นทหาร พอมีเหตุการณ์เกิดขึ้นมา ตนได้มีโอกาสพูดคุยกับกองทัพ ซึ่งกลุ่มบริษัทของตนมีธุรกิจในเรื่องของโทรคมนาคม ดาวเทียม ที่นำไปช่วยกองทัพช่วงแรก ซึ่งตอนนั้นแม่ทัพภาคที่ 2 ได้ติดต่อมา เรื่องของสัญญาณโทรศัพท์ในพื้นที่ห่างไกลที่ไม่สามารถติดต่อได้ เราจึงนำสัญญาณดาวเทียมไปช่วย
หลังจากนั้นไม่ได้คาดคิดว่าสถานการณ์จะรุนแรงขึ้น ซึ่งตอนที่มีทหารบาดเจ็บขาขาด ตนก็ได้นำเงินไปบริจาคให้กลับครอบครัว แต่พอมีเหตุการณ์เสียชีวิตของทหาร และทหารที่บาดเจ็บมากขึ้น จึงได้ปรึกษากับกลุ่มบริษัทและครอบครัว ว่าเราในฐานะที่เป็นบริษัทของคนไทย ที่มีกำลังอะไรก็ตามที่สามารถเข้าไปช่วยกองทัพหรือความมั่นคงได้ ก็ยินดีจะเข้าไปช่วย
โดยสิ่งที่เราไปช่วยคือครอบครัวของทหาร และทหารที่เสียชีวิต บาดเจ็บ ทุพพลภาพ ซึ่งคนไทยทุกคนมีความรักชาติ ก็อยากให้ความขัดแย้งมันสิ้นสุดลงไป แต่ระหว่างที่มันมีอยู่อะไรก็ตามที่เราเป็นคนไทย เราช่วยกับกองทัพได้ ช่วยทหารที่อยู่แนวหน้าได้ ก็เป็นสิ่งที่ทุกคนพึงกระทำ โดยวันนี้ได้ตั้งกองทุนจำนวน 100 ล้านบาท มอบให้กับทหารที่เสียชีวิตและบาดเจ็บ แต่จะไม่เกี่ยวกับเรื่องของยุทโธปกรณ์
นายสารัช ยังกล่าวเพิ่มเติม ว่า วันนี้จากการติดตามก็เห็นว่าคนไทยมีความเป็นห่วงเรื่องของอธิปไตยของประเทศไทย และห่วงความปลอดภัยของชาวบ้านที่อยู่ตามแนวชายแดน ห่วงสวัสดิภาพความปลอดภัยของทหารที่อยู่แนวหน้า เชื่อว่าทุกคนมีความรักชาติอยากจะช่วยคนละไม้คนละมือ ช่วยเท่าที่ช่วยได้หรือบริจาคเงินคนละนิดละหน่อย เชื่อว่าทหารแนวหน้าจะมีกำลังใจมากขึ้น
ด้าน แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวว่าในนามกองทัพบกและกองทัพภาคที่ 2 ขอบคุณบริษัทกัลฟ์ ที่ได้มอบงบประมาณช่วยเหลือน้องๆลูกหลานทหารแนวหน้า ที่ได้รับผลกระทบจากการปฎิบัติภารกิจครั้งนี้ หลังจากนี้ทางกองทัพจะตั้งคณะกรรมการ เพื่อนำเงินงบประมาณที่ได้ ไปใช้ให้เกิดประโยชน์อย่างสูงสุด ตามวัตถุประสงค์ของบริษัท
นายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ รถไฟฟ้าบีทีเอส นำคณะผู้บริหารของบริษัทฯ “มอบเงินสนับสนุนกองทัพ 50 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือ และเยียวยากำลังพลของกองทัพ” โดยมีพลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เป็นผู้แทนรับมอบ ณ ห้อง จปร.ชั้น 2 อาคารพิพิธภัณฑ์เฉลิมพระเกียรติกองทัพบก หลังจากเมื่อวานนี้ (6 สิงหาคม 2568) ได้มอบเงินสนับสนุนให้รัฐบาล 50 ล้านบาท นำไปเยียวยาประชาชน ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชารวมเป็นเงินทั้งหมด 100 ล้านบาท
สำหรับเงินสนับสนุนจำนวน 50 ล้านบาทที่มอบให้กับกองทัพบก กองทัพเรือ และกองทัพอากาศจะนำไปช่วยเหลือและเยียวยากำลังพลที่ได้รับบาดเจ็บ ทุพพลภาพ หรือเสียชีวิตจากสถานการณ์ความไม่สงบบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ตลอดจนนำไปดูแลครอบครัวของกำลังพลที่ได้รับผลกระทบ และหากวงเงินสนับสนุนยังเหลืออยู่ บริษัทฯ ยินดีให้นำไปใช้ตามความเหมาะสม เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด
นาวคีรี กล่าวว่าดีใจที่ได้มีโอกาสแสดงถึงความจริงใจ และห่วงใยต่อทั้งสามเหล่าทัพ ที่ได้กรุณาเสียสละเพื่อประชาชนและประเทศชาติของเรา โดยได้มอบเงินก้อนแรกให้กับทางรัฐบาล วันนี้มีโอกาสมามอบให้กับกองทัพ ต้องขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่งที่ได้ให้เกียรติเรา เป็นโอกาสที่อยากให้ทุก ๆ คน ช่วยกันสนับสนุนและแสดงความจริงใจให้กองทัพ เชื่อว่ากองทัพของเรามีความสามารถ มีความแข็งแกร่งที่จะรักษาประเทศชาติของเราอย่างแน่นอน
ขณะที่พลโทบุญสิน กล่าวถึงความรู้สึกหลังรับมอบเงินสนับสนุนจากบีทีเอสว่า ต้องขอบคุณคุณคีรี และคณะผู้บริหารบริษัทบีทีเอสเป็นอย่างยิ่งที่ได้นำงบประมาณมามอบให้กับทางกองทัพบก และกองทัพภาคที่สอง โดยจะนำงบประมาณดังกล่าวไปใช้ให้เกิดประโยชน์อย่างคุ้มค่าที่สุดผ่านคณะกรรมการที่สามารถตรวจสอบได้ และชัดเจนในการปฏิบัติ ซึ่งเป็นน้ำใจของพี่น้องคนไทยทุกคน
สำหรับเงินสนับสนุนจากดังกล่าว พลโทบุญสินระบุว่า ส่วนหนึ่งจะนำไปพัฒนาเทคโนโลยีของกองทัพ และอีกส่วนหนึ่งจะนำไปช่วยเหลือพี่น้องทหารที่ได้รับผลกระทบจากการปฎิบัติภารกิจในครั้งนี้ ทั้งผู้เสียชีวิตและผู้ที่ได้รับบาดเจ็บโดยทั่วถึง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
นายกฯ ลั่นหากเกิดเหตุชายแดนหลังยุบสภา รัฐบาลรักษาการยังมีอำนาจสนับสนุนเต็มที่
นายกฯ ย้ำไม่มีปัจจัยบอกเหตุ ก็ต้องมีแผนป้องกัน โดยเฉพาะตามแนวชายแดน มั่นใจผู้ว่าฯ ดูแลได้ หากอยู่ในช่วงยุบสภา ปฎิเสธข่าวการเจรจาที่ออตตาวาไม่เป็นผล
กรมพระศรีสวางควัฒนฯ พระราชทานเงิน 121 ล้าน สร้างรั้วชายแดน บังเกอร์ หลุมหลบภัย ถนนตรวจการณ์
ศาสตราจารย์ ดร.สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี เสด็จออก ณ ห้องประชุม ชั้น 11 อาคารอัครราชกุมารี โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ พระราชทานพระวโรกาสให้ คุณหญิง
นายกฯ สั่งผู้ว่าฯ 7 จว.ชายแดนไทย-กัมพูชา ต้องมีความพร้อมเต็มที่ ดูแล-อพยพประชาชน
นายกฯ มอบนโยบายชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน สั่งผู้ว่าฯ 7 จังหวัดเตรียมแผนดูแลประชาชน เผย ยืมสตาร์ลิงค์ทหารไว้สื่อสารแล้วเปรียบ ”ชรบ.“ เป็นกำแพงมหึมาดูแลแนวหลังให้ปลอดภัย - สร้างความสบายใจให้ทหารไม่ต้องพะวงหลังห่วงครอบครัว ชี้ ใครคิดรบกับไทยคงประสาทไม่ดี
โถ! ทภ.2 เรียกร้องกัมพูชาหยุดวางทุ่นระเบิด ย้ำธำรงความสัมพันธ์ฉันมิตรเพื่อนบ้าน
รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า จากการรวบรวมหลักฐานเชิงประจักษ์ในพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา ที่พื้นที่เกิดเหตุเมื่อปี พ.ศ. 2568
หวิดเสียขาที่ 8! ทภ.2 แจงทุ่นระเบิดที่ห้วยตามาเรีย เป็นของเก่ากัมพูชาวางไว้
กองทัพภาคที่ 2 ชี้แจงเหตุการณ์เสียงระเบิดในพื้นที่ห้วยตามาเรีย มีรายละเอียดดังนี้ เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2568 เวลา 14.20 น. หน่วย ร้อย.ร.1622 ซึ่งปฏิบัติภารกิจในพื้นที่
กัลฟ์ประกาศผลคัดเลือก “บ้านปากนาย จ.น่าน” จากกิจกรรมชี้เป้าพื้นที่ขาดแคลนไฟฟ้า โครงการ GULF Sparks, Life Starts พร้อมเดินหน้าติดตั้งโซลาร์เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตชุมชน
บริษัท กัลฟ์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF ประกาศพื้นที่ที่ได้รับการคัดเลือกจากกิจกรรม “เชิญชวนประชาชนชี้เป้าพื้นที่ขาดแคลนไฟฟ้า” ภายใต้โครงการ “GULF Sparks, Life Starts


