TMAC สรุปข้อมูล 11 วัน กู้วัตถุระเบิดชายแดนไทย-กัมพูชา จำนวน 483 รายการ

TMAC สรุปข้อมูล 11 วัน กู้สรรพาวุธ ชายแดนไทย-กัมพูชาใน 4 จังหวัดได้กว่า 480 รายการ เกือบครึ่งอยู่ที่จังหวัดสุรินทร์ ส่วนใหญ่เป็นกระสุน BM-21 พร้อมแจ้งเตือนประชาชนระวังการปนเปื้อนของทุ่นระเบิดตกค้าง

12 สิงหาคม 2568 - พลเอก ศักดิ์สิทธิ์ แสงชนินทร์ ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ ศูนย์บัญชาการทางทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย และคณะเดินทางตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายแก่กำลังพลชุดปฏิบัติการเก็บกู้และทำลายทุ่นระเบิด สนับสนุนภารกิจในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังสุรนารี ซึ่งจัดกำลังจากหน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดด้านมนุษยธรรมที่ 1-4 รวม 9 ชุดปฏิบัติการ ณ หน่วยทหารช่างสนาม กองกำลังสุรนารี ตำบลบ้านพลวง อำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์

ระหว่างวันที่ 1–11 สิงหาคม 2568 ศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ (TMAC) จำนวน 15 ชุดปฏิบัติการ ร่วมกับชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด (EOD) ตำรวจภูธร สนับสนุนกองกำลังสุรนารีและตำรวจภูธรภาค 3 ดำเนินภารกิจสำรวจ พิสูจน์ทราบ เก็บกู้และทำลายสรรพาวุธระเบิดในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากการโจมตีของฝ่ายกัมพูชา

ผลการปฏิบัติ สามารถเก็บกู้สรรพาวุธได้รวมทั้งสิ้น 483 รายการ ครอบคลุมพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดน ได้แก่

-จังหวัดบุรีรัมย์ พบ BM-21 จำนวน 36 นัด, ลูกปืนใหญ่ 36 นัด, ลูก ค. 21 นัด, วัตถุระเบิดอื่น ๆ 13 รายการ รวม 95 รายการ

-จังหวัดสุรินทร์ พบ BM-21 จำนวน 206 นัด, ลูกปืนใหญ่ 3 นัด, ลูก ค. 36 นัด, วัตถุระเบิดอื่น ๆ 19 รายการ รวม 234 รายการ

-จังหวัดศรีสะเกษ พบ BM-21 จำนวน 38 นัด, ลูกปืนใหญ่ 88 นัด รวม 120 รายการ

-จังหวัดอุบลราชธานี พบ BM-21 จำนวน 35 นัด รวม 34 รายการ

การปฏิบัติภารกิจของศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ TMAC ดังกล่าวแสดงถึงความพร้อมและประสิทธิภาพของหน่วยงานด้านความมั่นคงไทยในการลดภัยคุกคามและปกป้องความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่ชายแดน

การแจ้งเตือนและให้ความรู้แก่ประชาชนในพื้นที่เป้าหมายที่มีการปนเปื้อนของทุ่นระเบิดที่หลงเหลือทั้งทุ่นระเบิดสังหารบุคคล รวมทั้งระเบิดดักรถถัง และ กระสุนของอาวุธหนัก เช่น RPG กระสุนปืนใหญ่ เครื่องยิงลูกระเบิด ที่ยิงตกแล้วแต่ยังไม่ระเบิด

โดยการปฏิบัติงานของศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ ทั้ง 15 ชุดปฏิบัติการ ในขณะนี้ยังคงมุ่งหมายที่จะสำรวจและเก็บกู้ทำลายขีปนาวุธและอาวุธหนักที่ส่งผลกระทบกับประชาชนเป็นลำดับแรกเพื่อเตรียมการสำหรับการเดินทางกลับภูมิลำเนาของประชาชนอย่างปลอดภัย

ทั้งนี้ หากประชาชนพบเห็นวัตถุระเบิด วัตถุต้องสงสัย หรือสิ่งผิดปกติในพื้นที่ ขอให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ หรือหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ทันที เพื่อให้ดำเนินการเก็บกู้และทำลายอย่างปลอดภัย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ปิดด่าน 5 เดือน การค้าชายแดนคลองใหญ่เสียหาย 5 พันล้าน สินค้าเถื่อนทะลัก วอนรัฐบาลเยียวยา

เศรษฐกิจการค้าชายแดนคลองใหญ่ทรุดหนัก เสียหาย 5 พันล้าน ท่องเที่ยววูบปิดท่าเรือหนี ผู้ประกอบการจี้รัฐเยียวยา หลังปิดด่าน 5 เดือน ขณะสินค้าเถื่อนทะลักเข้า-ออก

นายกฯ ลั่นหากเกิดเหตุชายแดนหลังยุบสภา รัฐบาลรักษาการยังมีอำนาจสนับสนุนเต็มที่

นายกฯ ย้ำไม่มีปัจจัยบอกเหตุ ก็ต้องมีแผนป้องกัน โดยเฉพาะตามแนวชายแดน มั่นใจผู้ว่าฯ ดูแลได้ หากอยู่ในช่วงยุบสภา ปฎิเสธข่าวการเจรจาที่ออตตาวาไม่เป็นผล

นายกฯ สั่งผู้ว่าฯ 7 จว.ชายแดนไทย-กัมพูชา ต้องมีความพร้อมเต็มที่ ดูแล-อพยพประชาชน

นายกฯ มอบนโยบายชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน สั่งผู้ว่าฯ 7 จังหวัดเตรียมแผนดูแลประชาชน เผย ยืมสตาร์ลิงค์ทหารไว้สื่อสารแล้วเปรียบ ”ชรบ.“ เป็นกำแพงมหึมาดูแลแนวหลังให้ปลอดภัย - สร้างความสบายใจให้ทหารไม่ต้องพะวงหลังห่วงครอบครัว ชี้ ใครคิดรบกับไทยคงประสาทไม่ดี

โถ! ทภ.2 เรียกร้องกัมพูชาหยุดวางทุ่นระเบิด ย้ำธำรงความสัมพันธ์ฉันมิตรเพื่อนบ้าน

รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า จากการรวบรวมหลักฐานเชิงประจักษ์ในพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา ที่พื้นที่เกิดเหตุเมื่อปี พ.ศ. 2568

หวิดเสียขาที่ 8! ทภ.2 แจงทุ่นระเบิดที่ห้วยตามาเรีย เป็นของเก่ากัมพูชาวางไว้

กองทัพภาคที่ 2 ชี้แจงเหตุการณ์เสียงระเบิดในพื้นที่ห้วยตามาเรีย มีรายละเอียดดังนี้ เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2568 เวลา 14.20 น. หน่วย ร้อย.ร.1622 ซึ่งปฏิบัติภารกิจในพื้นที่

‘คนจีน’ถึงคราวซวย! เหยียบทุ่นระเบิดเขมร

กองทัพภาคที่ 1 เผยชาวจีนเหยียบทุ่นระเบิดเขมรที่ชายแดนจังหวัดสระแก้ว หลังลักลอบเข้าเมือง ด้านสถานทูตจีนติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด ระบุชายชาวจีนอาการทรงตัว