
‘กองทัพไทย’ ทดสอบโดรนโจมตีฝีมือคนไทย พัฒนาสู่การผลิตใช้งานจริง ทั้งทิ้งระเบิด-พุ่งชนแบบ Kamikaze ผลอยู่ในเกณฑ์ดีมาก
25 ส.ค. 2568 – พ.อ.หญิง ฉัตรรพี พูนศรี รองโฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เปิดเผยว่า กองบัญชาการกองทัพไทยได้จัดการทดสอบผลงาน และขีดความสามารถของระบบอากาศยานไร้คนขับ (โดรน) เชิงรุก ณ สนามยิงปืนใหญ่ ศูนย์การทหารปืนใหญ่ เขาพุโลน จ.ลพบุรี
โดยโดรนที่นำมาทดสอบเป็นผลงานวิจัย และพัฒนาโดยกำลังพลของกองทัพไทย จาก 3 หน่วยงาน ได้แก่ โรงเรียนนายเรืออากาศ, สำนักวิจัยและพัฒนาการทางทหารกองทัพเรือ และกองบัญชาการกองทัพไทย ซึ่งร่วมกับบริษัท เดอะกน จำกัด และทีมอาจารย์จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
ซึ่งการทดสอบในครั้งนี้มีเป้าหมาย เพื่อเปิดโอกาสให้บุคลากรของกองทัพที่มีความรู้ความสามารถได้วิจัย และพัฒนาระบบโดรนด้วยตนเอง พร้อมทั้งส่งเสริมความร่วมมือกับภาคการศึกษาและภาคเอกชน เพื่อมุ่งสู่การพึ่งพาตนเองอย่างยั่งยืน
ในการทดสอบมีการนำเสนอโดรนโจมตี 2 รูปแบบ ได้แก่ โดรนทิ้งระเบิด และโดรนพุ่งชนแบบ Kamikaze ซึ่งผลการทดสอบอยู่ในเกณฑ์ดีมาก สามารถปฏิบัติได้ตามแผน โดยเฉพาะโดรนที่พัฒนาโดยบริษัท เดอะกน จำกัด สามารถโจมตีเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ
นอกจากนี้ ผลงานจากโรงเรียนนายเรืออากาศสามารถจำลองการโจมตีเป้าหมายเคลื่อนที่ได้อย่างแม่นยำ และโดรนจากสำนักวิจัยและพัฒนาการทางทหารกองทัพเรือก็สามารถปฏิบัติการได้ตามแผนเช่นกัน โดยทีมวิจัยจะนำผลการทดสอบไปพัฒนาต่อยอดเพื่อผลิตใช้งานจริงในกองทัพต่อไป พร้อมกันนี้ยังมีการสาธิตระบบต่อต้านอากาศยานไร้คนขับที่พัฒนาโดยคนไทย จากบริษัท DRC จำกัด และบริษัท ทีเน็ต จำกัด ซึ่งผลการปฏิบัติเป็นไปด้วยความเรียบร้อย.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ทภ.2 สรุปชายแดนไทย-กัมพูชา ปะทะเป็นระยะ โดรนฝ่ายตรงข้ามหนาแน่น
กองทัพภาคที่ 2 รายงานภาพรวมสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา พบการปะทะต่อเนื่องในหลายพื้นที่ ฝ่ายตรงข้ามใช้งานโดรนและอาวุธหนักหนาแน่น ขณะฝ่ายไทยยิงตอบโต้ทำลายที่ตั้งยิงและยานพาหนะได้หลายครั้ง สถานการณ์ยังอยู่ในการควบคุม
ทภ.2 มีหลักฐานเขมรละเมิดอนุสัญญาเจนีวา-กฎหมายมนุษยธรรม 3 ประการ
กองทัพภาคที่ 2 เปิดข้อมูลการสู้รบชายแดนไทย-กัมพูชาตลอด 13 วัน ระบุพบพฤติกรรมทางทหารของฝ่ายกัมพูชาที่เข้าข่ายละเมิดอนุสัญญาเจนีวาและกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ ชี้ชัดการใช้โบราณสถานเป็นฐาน การดึงพลเรือนร่วมปฏิบัติการ และการนำพลเรือนเข้าสู่พื้นที่การรบ
'ปานเทพ' เรียกร้องเอาผิดไส้ศึกส่งน้ำมันให้เขมร ชี้เข้าข่ายโทษประหาร!
ประธานมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน ระบุผู้ที่ส่งน้ำมันซึ่งเป็นยุทธปัจจัยให้กัมพูชา ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม เข้าข่ายช่วยข้าศึกทำร้ายทหารและพลเมืองไทย ขอให้ประชาชนช่วยแจ้งความดำเนินคดีตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 122 ซึ่งมีโทษสูงสุดถึงประหารชีวิต
‘จตุพร’ เตือนสงครามไทย-กัมพูชา ต้องไม่จบแบบโง่ๆ แค่ให้พ้นสิ้นปี
จตุพร พรหมพันธุ์ ระบุว่าสันติภาพจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อกัมพูชาคืนดินแดนไทยและหยุดยิงจริง ชี้หากสงครามจะยุติในช่วงสิ้นปี ต้องไม่จบแบบลวงโลกหรือซ้ำรอยการหยุดยิงรอบแรก พร้อมย้ำไทยไม่อาจแลกแผ่นดินกับสันติภาพจอมปลอม
ทบ.สอบโดรนไทยขาดสัญญาณปอยเปต พบหลักฐานทุ่นระเบิดดัดแปลง!
ทบ. รอสอบ “โดรนไทย” สัญญาณหายทางปอยเปต ถูกโจมตีหรือไม่ พบบันทึกพิกัด-ทุ่นระเบิดดักรถถังดัดแปลงสังหารบุคคล เช่นเดียวกับที่บ้านสาม
'บิ๊กเล็ก' สั่งคุมเข้ม! รับเขมรอาจจ้องก่อวินาศกรรม 'แท่นขุดเจาะน้ำมัน'
'รมว.กห.' ยอมรับกัมพูชาอาจพยายามก่อวินาศกรรมแท่นขุดเจาะน้ำมัน หลังพบโดรนบินอ่าวไทย สั่งทุกเหล่าทัพเพิ่มความเข้มงวดมาตรการดูแลความปลอดภัย ชี้เขมรทำลายโดรน D-20 เป็นเรื่องน่าเสียดาย

