'ชิดตะวัน' จวก 'เท้ง-อังคณา' ขาดองค์ความรู้กฎหมายระหว่างประเทศ ชี้เปิดเสียงผีไม่เข้าข่ายการทรมาน

14 ตุลาคม 2568 - จากกรณีนางอังคณา ลีนะไพจิตร สมาชิกวุฒิสภา นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและหัวหน้าพรรคประชาชน นายกัณวีร์ สืบแสง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคเป็นธรรม ให้ความเห็นในเชิงตำหนิการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงและประชาชน ที่เปิดคลิปผีในดินแดนไทยเพื่อขับไล่ชาวเขมรว่า เป็นกรณีละเมิดสิทธิมนุษยชน และกฎหมายระหว่างประเทศ

รศ.ดร.ชิดตะวัน ชนะกุล อาจารย์ด้านเศรษฐศาสตร์การเมือง และผู้ทรงคุณวุฒิด้านกฎหมาย อธิบายในเรื่องดังกล่าวว่า การให้ความเห็นของสมาชิกรัฐสภาตามรายชื่อข้างต้น เป็นกรณีขาดองค์ความรู้เกี่ยวกับสนธิสัญญาระหว่างประเทศ อีกทั้งเข้าข่ายเป็นการกระทำการที่ฝ่าฝืนบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560

โดย United Nations Convention against Torture and Other Cruel, Inhuman or Degrading Treatment or Punishment ได้นิยามคำว่า การทรมาน หมายถึง การกระทำใดๆ ที่ก่อให้เกิดความเจ็บปวดหรือความทุกข์ทรมานอย่างรุนแรง ไม่ว่าทางร่างกายหรือจิตใจแก่บุคคลใดโดยเจตนา เพื่อวัตถุประสงค์ต่างๆ อย่างไรก็ดี บทบัญญัตินี้ไม่รวมถึงความเจ็บปวดหรือความทุกข์ทรมานที่เกิดขึ้นจาก ที่เป็นอยู่โดยธรรมชาติ หรือเป็นผลสืบเนื่องมาจากการลงโทษที่ชอบด้วยกฎหมาย

การเปิดเสียงผีในช่วง 2 คืนที่ผ่านมาบนแผ่นดินไทย เพื่อขับไล่คนเขมรออกจากดินแดนอันเป็นเขตอธิปไตยของราชอาณาจักรไทย จึงไม่มีประเด็นใดที่เข้าข่ายเป็นการทรมานตามคำนิยามของอนุสัญญาข้างต้น นอกจากนี้ คลิปเสียงผีโหยหวนที่เปิดบนแผ่นดินของประเทศไทย ไม่อาจเทียบได้กับการที่ชาวกัมพูชาละเมิดอธิปไตยของประเทศไทย ด้วยการยึดดินแดนของไทยมาแล้ว 4 ทศวรรษ ประกอบกับก่อนหน้านี้ไม่กี่เดือน กัมพูชาก็ได้ทำสงครามกับประเทศไทย ด้วยการยิงปืนใหญ่จากกัมพูชาโจมตีที่อยู่อาศัยและสถานที่ประกอบการของพลเรือน ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับการสู้รบ จนทำให้เด็กนักเรียนและคนไทยผู้บริสุทธิ์ได้รับบาดเจ็บ พิการ และล้มตายเป็นจำนวนมาก

เมื่อพิจารณารัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 มาตรา 52 ประกอบมาตรา 3 วรรค 2 มีสาระโดยสรุปว่า คณะรัฐมนตรี รัฐสภา หน่วยงานรัฐ มีหน้าที่พิทักษ์รักษาเขตที่ประเทศไทยมีสิทธิอธิปไตย เกียรติภูมิ ผลประโยชน์ของชาติ และความมั่นคงแห่งรัฐ ดังนั้น รัฐบาล สมาชิกรัฐสภา และเจ้าหน้าที่รัฐไทย มีหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญที่ต้องดำเนินการทุกวิถีทาง เพื่อให้คนกัมพูชาที่ละเมิดอธิปไตยของไทยออกจากเขตแดนของไทย ถ้าหากไม่ปฏิบัติ ก็เข้าข่ายเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่

การที่สมาชิกรัฐสภาตามรายชื่อข้างต้น ให้ความเห็นในเชิงตำหนิ ปราม เพื่อนำไปสู่การระงับยับยั้งการดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ทั้งทหารและพลเรือนที่ไปเปิดหนังผีขับไล่ชาวกัมพูชาว่า เป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน ละเมิดสัญญาระหว่างประเทศ โดยไม่พิจารณาข้อกฎหมายระหว่างประเทศ และข้อเท็จจริงว่า ประเทศกัมพูชาได้ฉีกอนุสัญญาเจนีวา ซึ่งเป็นสนธิสัญญาระหว่างประเทศที่ห้ามการโจมตีพลเรือนและสถานที่พลเรือนโดยเด็ดขาดในภาวะสงคราม จึงเป็นกรณีการให้ความเห็นของสมาชิกรัฐสภาโดยขาดองค์ความรู้ ที่ทำให้ประเทศชาติเสียหาย ซึ่งนอกจากจะเข้าข่ายเป็นกรณีไม่ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 แล้ว ยังเป็นการริเริ่มที่จะขัดขวางโดยลดความชอบธรรมในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงานของรัฐไทยที่ได้ดำเนินการตามกฎหมายอีกด้วย

“ไทยไม่ได้เพลี่ยงพล้ำในเวทีโลก แต่ไทยกำลังเพลี่ยงพล้ำให้กัมพูชา เพราะมีสมาชิกรัฐสภาไทยจำนวนไม่น้อยให้ความเห็นโดยขาดองค์ความรู้เกี่ยวกับกฎหมายระหว่างประเทศ อีกทั้งกระทำการที่เข้าข่ายฝ่าฝืนบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย”

อาจารย์อยากฝากอะไรถึงคุณกัน จอมพลัง ที่ไปเปิดเสียงผีเพื่อขับไล่ชาวกัมพูชาหรือไม่?

รศ.ดร.ชิดตะวัน กล่าวอีกว่า คุณกัน จอมพลัง คุณวีระ สมความคิด และท่านอื่นๆ พยายามแสวงหาวิธีการที่ละมุนละม่อม เพื่อบีบคั้นกดดันคนกัมพูชาที่ยึดครองประเทศไทยให้ออกจากแผ่นดินไทย การที่ชาวไทยที่รักชาติเหล่านี้ไปร่วมกันขับไล่พลเมืองของประเทศคู่สงคราม ให้ออกจากเขตอธิปไตยของไทย จึงเป็นกรณีการปฏิบัติหน้าที่ในฐานะคนไทยตามมาตรา 50 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 ที่บัญญัติว่า ประชาชนไทยมีหน้าที่ป้องกันประเทศ พิทักษ์รักษาเกียรติภูมิและผลประโยชน์ของชาติ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าชื่นชมที่คนไทยที่รักชาติเหล่านี้ได้เสียสละ ทุ่มเท ใช้ชีวิตเป็นเดิมพัน เพื่อพิทักษ์รักษาแผ่นดินและเกียรติภูมิของชาติ

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

นายกฯ ลั่นหากเกิดเหตุชายแดนหลังยุบสภา รัฐบาลรักษาการยังมีอำนาจสนับสนุนเต็มที่

นายกฯ ย้ำไม่มีปัจจัยบอกเหตุ ก็ต้องมีแผนป้องกัน โดยเฉพาะตามแนวชายแดน มั่นใจผู้ว่าฯ ดูแลได้ หากอยู่ในช่วงยุบสภา ปฎิเสธข่าวการเจรจาที่ออตตาวาไม่เป็นผล

นายกฯ สั่งผู้ว่าฯ 7 จว.ชายแดนไทย-กัมพูชา ต้องมีความพร้อมเต็มที่ ดูแล-อพยพประชาชน

นายกฯ มอบนโยบายชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน สั่งผู้ว่าฯ 7 จังหวัดเตรียมแผนดูแลประชาชน เผย ยืมสตาร์ลิงค์ทหารไว้สื่อสารแล้วเปรียบ ”ชรบ.“ เป็นกำแพงมหึมาดูแลแนวหลังให้ปลอดภัย - สร้างความสบายใจให้ทหารไม่ต้องพะวงหลังห่วงครอบครัว ชี้ ใครคิดรบกับไทยคงประสาทไม่ดี

โถ! ทภ.2 เรียกร้องกัมพูชาหยุดวางทุ่นระเบิด ย้ำธำรงความสัมพันธ์ฉันมิตรเพื่อนบ้าน

รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า จากการรวบรวมหลักฐานเชิงประจักษ์ในพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา ที่พื้นที่เกิดเหตุเมื่อปี พ.ศ. 2568

หวิดเสียขาที่ 8! ทภ.2 แจงทุ่นระเบิดที่ห้วยตามาเรีย เป็นของเก่ากัมพูชาวางไว้

กองทัพภาคที่ 2 ชี้แจงเหตุการณ์เสียงระเบิดในพื้นที่ห้วยตามาเรีย มีรายละเอียดดังนี้ เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2568 เวลา 14.20 น. หน่วย ร้อย.ร.1622 ซึ่งปฏิบัติภารกิจในพื้นที่

‘คนจีน’ถึงคราวซวย! เหยียบทุ่นระเบิดเขมร

กองทัพภาคที่ 1 เผยชาวจีนเหยียบทุ่นระเบิดเขมรที่ชายแดนจังหวัดสระแก้ว หลังลักลอบเข้าเมือง ด้านสถานทูตจีนติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด ระบุชายชาวจีนอาการทรงตัว

เผยผลตรวจ 'ทุ่นระเบิด' ชาวจีนเหยียบขาขาด ขณะลอบข้ามชายแดนบ้านหนองจาน

จากเหตุการณ์ชาวจีนลักลอบข้ามแดนเหยียบทุ่นระเบิดที่ บ.หนองจาน หน่วยปฏิบัติการเพื่อระเบิดด้านมนุษยธรรมที่ 1 ร่วมกับตำรวจพิสูจน์หลักฐาน ภูธรจังหวัดสระแก้ว ได้ลงเพื้นที่ในช่วงบ่ายวันนี้ (29 พ.ย.) ซึ่งผลการพิสูจน์ทราบ พบเข็มแทงชนวน