หาดใหญ่ยังวิกฤติ! นักวิชาการธรรมศาสตร์ เสนอให้ส่วนกลางจับมือ อปท. ทุกพื้นที่เร่งค้นหาผู้ประสบภัย เหตุรู้จักพื้นที่ดีที่สุด แนะภารกิจศูนย์บัญชาการฯ จัดระบบช่องทางการสื่อสาร เปิดลงทะเบียนหน่วยงาน-พื้นที่รับผิดชอบ จัดระบบกระจายสิ่งของจำเป็น ลดความทับซ้อน เพิ่มความครอบคลุมช่วยเหลือประชาชน
26 พฤศจิกายน 2568 - รศ. ดร.สามชาย ศรีสันต์ ประธานบริหารหลักสูตรบัณฑิตศึกษา วิทยาลัยพัฒนศาสตร์ ป๋วย อึ๊งภากรณ์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) กล่าวถึงเหตุการณ์น้ำท่วมหาดใหญ่ จ.สงขลา ตอนหนึ่งว่า ปัญหาหนึ่งที่พบมากในการจัดการภัยพิบัติของประเทศไทยคือการทำงานแบบแยกส่วน ตัวอย่างเช่น การเปิดช่องทางการติดต่อสื่อสารขอความช่วยเหลือหรือให้ความช่วยเหลือ โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จะติดต่อผ่านแอปพลิเคชัน หรือหน่วยงานอื่นๆ อาทิ หน่วยงานทางทหารหลายแห่งเปิดรับข้อมูลผ่านทางเพจ Facebook รวมถึงระบบการรับบริจาคและการกระจายสินค้า-สิ่งของจำเป็นให้ผู้ประสบภัยที่ยังติดค้างอยู่ในที่พักอาศัย ก็พบว่ามีการทำงานแบบแยกส่วนกัน
ทั้งนี้ ปัจจุบันมีการตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์น้ำท่วม จ.สงขลา แล้วเป็นที่เรียบร้อย และมีการกำหนดโครงสร้างการทำงาน และมอบภารกิจให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อกำหนดแผนการทำงานแล้ว ฉะนั้นนอกจากภารกิจเร่งด่วนคือการอพยพแล้ว ศูนย์บัญชาการฯ ควรต้องจัดระบบช่องทางการสื่อสาร และหน่วยงานต่างๆ ที่ให้ดำเนินการควรรายงานข้อมูลและสถานการณ์ให้ความช่วยเหลือต่อศูนย์บัญชาการกลางด้วย เพื่อให้ข้อมูลทั้งหมดถูกนำมาวิเคราะห์ ประมวล และจัดลำดับความเร่งด่วน เพื่อสั่งการโดยส่วนกลางอย่างเป็นเอกภาพ ทั่วถึง ไม่ทับซ้อน
พร้อมกันนี้ ศูนย์บัญชาการฯ ควรที่จะเร่งจัดระบบการขนส่งและกระจายสินค้าด้านโลจิสติกส์ (Logistics) และต้องมีการลงทะเบียนหน่วยงานที่เข้ามาให้ความช่วยเหลือ ทั้งภาครัฐ เอกชน ประชาสังคม ฯลฯ เพื่อให้ทราบถึงความเพียงพอของสิ่งของ กำลังคน และความครอบคลุมพื้นที่รับผิดชอบ โดยสิ่งของที่จำเป็นสำหรับผู้ประสบภัยนอกจากข้าวสาร อาหาร น้ำดื่ม ยารักษาโรคแล้ว ยังครอบคลุมถึงเรือ ส้วมเคลื่อนที่ อุปกรณ์ให้แสงสว่าง ที่ชาร์จแบตโซล่าเซลล์ ถุงใส่สิ่งปฏิกูล ฯลฯ ด้วย
“ปัญหาใหญ่ในการเข้าไปให้ความช่วยเหลือในขณะนี้คือ พื้นที่ห่างไกลไม่มีสัญญาณโทรศัพท์และถูกตัดน้ำตัดไฟ ตรงนี้จำเป็นอย่างยิ่งที่ส่วนกลางจะต้องทำงานร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ซึ่งรู้จักพื้นที่ที่ดีที่สุด เพื่อค้นหาผู้ประสบภัยในพื้นที่รับผิดชอบของตนเอง รวมถึงการเตรียมความพร้อมและประกาศพื้นที่ศูนย์พักพิงรองรับผู้ประสบภัย ซึ่งอาจใช้บทเรียนจากการตั้งศูนย์พักคอยในช่วงโควิดปี 2563 และศูนย์พักพิงผู้ประสบภัยน้ำท่วมช่วงปี 2554” รศ. ดร.สามชาย กล่าว
นอกจากนี้ สิ่งที่ศูนย์บัญชาการฯ ควรทำคือการรายงานสถานการณ์ให้ประชาชนทราบผ่านช่องทางต่างๆ เป็นประจำทุกวัน โดยสิ่งที่ควรรายงานคือสถานการณ์น้ำท่วม ณ ปัจจุบัน ความต้องการความช่วยเหลือ จำนวนเคสและพื้นที่ซึ่งควรแสดงบนแผนที่ และอัปเดตสถานะการได้รับความช่วยเหลือ รวมไปถึงการนำเสนอแผนการทำงาน และการคาดการณ์สถานการณ์วันถัดไปด้วย
นักวิชาการธรรมศาสตร์ กล่าวว่า เหตุการณ์น้ำท่วม จ.สงขลา และการจัดการอพยพอย่างเร่งด่วนนั้น สะท้อนถึงความสำคัญของแผนรับมือน้ำท่วมระดับชุมชนและหมู่บ้าน ฉะนั้นหลังเหตุการณ์นี้ กระทรวงมหาดไทย (มท.) ควรต้องจัดให้มีการทำแผนรับมือระดับชุมชนและหมู่บ้านในทุกพื้นที่ที่เคยถูกน้ำท่วม และให้ อปท. จัดทำแผนรับมือในระดับตำบล และเทศบาล และบูรณาการเข้ากับแผนในระดับจังหวัด เตรียมจัดสรรงบประมาณสำหรับการรับมือกับน้ำท่วมให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ และรัฐบาลควรจัดตั้งหน่วยงานขึ้นมาดูแล จัดการภัยพิบัติน้ำท่วมโดยเฉพาะ
นอกจากนี้ ควรมีการจัดหาอุปกรณ์ช่วยเหลือฉุกเฉินไว้สำหรับทุกๆ พื้นที่ที่มีความเสี่ยงจะถูกน้ำท่วม โดยเฉพาะพื้นที่พังพิง ซึ่งควรมีการเตรียมเอาไว้ให้พร้อมทุกเมื่อ เช่น ควรมีการเก็บข้อมูลและเตรียมพร้อมให้เพียงพอสำหรับครัวเรือนที่เคยถูกน้ำท่วมตั้งแต่ 1 เมตรขึ้นไป ทุกครัวเรือน และเมื่อเกิดเหตุ ควรมีการส่งผู้ป่วย คนชรา ผู้พิการ ไปยังที่ปลอดภัยซึ่งมีการเตรียมไว้ล่วงหน้าทั้งสถานที่ บุคลากรทางการแพทย์ และอุปกรณ์ช่วยชีวิตเบื้องต้น
“ปัญหาน้ำท่วมไม่ใช่ปัญหาแค่เรื่องการจัดการน้ำ แต่เกี่ยวข้องกับสภาพภูมิอากาศ การใช้ที่ดิน การใช้น้ำ การบริหารระบบชลประทาน ระบบโลจิสติกส์ การจัดระเบียบองค์กรภาคประชาชน การพัฒนาชุมชน การจัดการงานอาสาสมัคร ฯลฯ ฉะนั้นการบรรเทาภัยพิบัติ สาธารณภัย และการบริหารจัดการน้ำจึงเป็นเพียงส่วนหนึ่งของการจัดการภัยพิบัติน้ำท่วมเท่านั้น การเตรียมแผนรับมือกับน้ำท่วมจึงไม่ใช่เพียงการแจ้งเตือนภัยล่วงหน้า แต่คือการทำงานเชื่อมร้อยกันในทุกๆ ด้านอย่างเป็นระบบ” นักวิชาการธรรมศาสตร์ กล่าว.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ผบ.ตร. ยกย่องหัวใจตำรวจภาคใต้ เสียสละช่วยเหลือประชาชน แม้ตนเองเป็นผู้ประสบภัย
ผบ.ตร. ยกย่องหัวใจตำรวจภาคใต้ "ผู้เสียสละ" เร่งช่วยเหลือประชาชน แม้ตนเองเป็นผู้ประสบภัย ย้ำ "ตำรวจคือครอบครัวเดียวกัน" พร้อมดูแลสวัสดิการเต็มที่
'แม่ทัพกุ้ง' ลงใต้ ให้กำลังใจชาวหาดใหญ่ เยี่ยมเจ้าหน้าที่จิตอาสาเร่งฟื้นฟูเมือง
"แม่ทัพกุ้ง" อดีตแม่ทัพภาคที่ 2 ลงใต้ส่งกำลังใจให้ชาวคอหงส์ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา หลังประสบอุทกภัยครั้งใหญ่
ปภ. รายงานยังมีน้ำท่วมภาคใต้ 7 จังหวัด เร่งระบายน้ำพื้นที่น้ำท่วมขังและเยียวยาผู้ประสบภัย
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานสรุปสถานการณ์ยังมีอุทกภัยภาคใต้ 7 จังหวัด ปภ. บูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งฟื้นฟูทำความสะอาด กำจัดขยะ ในพื้นที่น้ำลดและเร่งระบายน้ำและเยียวยาผู้ประสบภัย
โอนเงินเยียวยาน้ำท่วม สำเร็จแล้ว 4.9 พันล้าน 5 แสนครัวเรือน
'ภราดร' เผยยอดโอนเงินเยียวยาผู้ประสบอุทกภัย ช่วง 1-4 ธ.ค. โอนสำเร็จแล้ว 548,126 ครัวเรือน วงเงินรวม 4.9 พันล้านบาท
รัฐบาลยกเว้น 'ค่าไฟ' พ.ย. 420 ล้าน เยียวยาน้ำท่วมสงขลา
นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การเยียวยาและฟื้นฟูพื้นที่ประสบอุทกภัย โดยเฉพาะในจังหวัดสงขลา เดินหน้าไปอย่างมาก โดยปัจจุบันสามารถนำประชาชนกลับบ้านไปได้กว่า 90%


