ผู้ประกันตนติดโควิดไม่ต้องกังวล 'สุชาติ' สั่ง สปส.เตรียมเตียงรองรับ รักษาฟรี

23 ก.พ.2565 - นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในขณะนี้ ทำให้ผู้ติดเชื้อมีจำนวนเพิ่มขึ้นนั้น ท่านนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่กำกับดูแลกระทรวงแรงงาน ได้มีความห่วงใยพี่น้องลูกจ้าง ผู้ประกันตน และเน้นย้ำให้ตระหนักถึงการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันตนเองไม่ให้การ์ดตก ขณะเดียวกันในส่วนของกระทรวงแรงงาน ไม่ได้นิ่งนอนใจ ผมได้สั่งการให้สำนักงานประกันสังคม เตรียมความพร้อมรองรับสถานการณ์ ซึ่งเรามีความพร้อมในเรื่องของบุคลากรทางการแพทย์ของโรงพยาบาลในเครือข่ายประกันสังคม การให้บริการทางการแพทย์แก่ผู้ประกันตนที่ในระบบประกันสังคม มาตรา 33 และมาตรา 39 ที่ติดโควิด-19 ให้ได้รับการดูแลและรักษาฟรีได้ทันท่วงที

พร้อมทั้งความพร้อมในการบริหารจัดการเตียง ซึ่งเป็นของ Hospitel เพื่อรองรับสถานการณ์ไว้แล้ว ซึ่งในแต่ละวันจะมีผู้ประกันตนหมุนเวียนเข้าออกอยู่ตลอดเวลา เมื่อผู้ประกันตนรักษาหายและแพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้ก็จะทำให้เตียงว่างลงอีก ขณะเดียวกันสำนักงานประกันสังคมจะประสานหาเตียงสำรองเพิ่มเติม เพื่อให้สามารถรองรับการรักษาผู้ประกันตนได้อย่างเพียงพอ จึงขอให้ผู้ประกันตนไม่ต้องกังวลและมั่นใจได้ว่ากระทรวงแรงงาน จะสามารถบริหารจัดการเตียงและรองรับการรักษาผู้ประกันตนจากทีมแพทย์และพยาบาลของโรงพยาบาลในเครือข่ายประกันสังคมได้เป็นอย่างดี

นายสุชาติ กล่าวต่อว่า ลูกจ้าง/ผู้ประกันตนที่มีข้อสงสัยหรือต้องการความช่วยเหลือ สามารถติดต่อได้ที่สายด่วนกระทรวงแรงงาน โทร 1506 กด 6 มีคณะทำงานประสานสถานพยาบาล Hospitel เพื่อเป็นช่องทางรองรับบริการให้ผู้ประกันตนได้เข้าถึงการรักษาอย่างทันท่วงที รวมทั้งเป็นช่องทางติดต่อให้กับผู้ประกันตนที่ไม่สามารถหาสถานที่ตรวจและสถานพยาบาลเข้ารับการรักษาในกรณีติดเชื้อได้ ซึ่งหลังการรับแจ้งเรื่องแล้ว เจ้าหน้าที่จะรีบประสานส่งตัวผู้ติดเชื้อ เข้าสู่ระบบการรักษาจะอยู่ที่โรงพยาบาล หรือ Hospitel ก่อนลำดับแรก โดยเน้นให้ผู้ประกันตนที่ป่วยเข้ารับการรักษาใน Hospitel

“ดังนั้นขอให้ผู้ประกันตนไม่ต้องกังวลและมั่นใจได้ว่า รัฐบาล กระทรวงแรงงาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะสามารถให้การดูแลทุกคนที่ติดเชื้อโควิด-19 อย่างเท่าเทียม มีเตียงรองรับเพียงพอแน่นอน เพื่อให้ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที ซึ่งในเรื่องนี้ท่านนายกรัฐมนตรี เป็นห่วงใยและได้กำชับให้ช่วยเหลือดูแลพี่น้องแรงงานดุจคนในครอบครัว โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลังและเราจะก้าวข้ามวิกฤตนี้ไปด้วยกัน” นายสุชาติ กล่าวในท้ายสุด

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

“รองนายกฯ สุชาติ” เป็นประธาน กก.สิ่งแวดล้อมแห่งชาติ เห็นชอบ EIA โครงการสำคัญ แก้ปัญหาอุทกภัย–เสริมบริหารจัดการน้ำ

นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ครั้งที่ 6/2568 เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2568 ณ ห้องประชุม 301 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล

ทส. ร่วมติดตามความก้าวหน้าโครงการพัฒนาเกาะสีชัง ตามพระบรมราโชบาย จ.ชลบุรี มุ่งยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน ควบคู่การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน

วันนี้ (17 ธันวาคม 2568) เวลา 09.00 น. นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

รองนายกฯ สุชาติ เป็นประธานประชุมคณะกรรมการมรดกโลก เดินหน้าผลักดันแหล่งวัฒนธรรมไทยสู่เวทีโลก

วันที่ 16 ธันวาคม 2568 เวลา 15.00 น. ณ ห้องประชุม 1001 ชั้น 10 สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม อาคารทิปโก้ และผ่านระบบประชุมทางไกล นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรี

รองนายกฯ “สุชาติ” สั่งการ กรมอุทยานฯ ผนึก DSI–กรมป่าไม้ ทลายโกดังไม้เถื่อนหนองคาย รวบ 4 ผู้ต้องหา ยึดไม้หวงห้ามกว่า 275 ลบ.ม.

เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2568 นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้สั่งการให้กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช บูรณาการร่วมกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) และกรมป่าไม้ เร่งปราบปรามขบวนการลักลอบตัดและค้าไม้ผิดกฎหมายอย่างเข้มข้น หลังพบพฤติการณ์เชื่อมโยงขบวนการค้าไม้ข้ามชาติ

รองนายกฯ สุชาติ ขอบคุณเจ้าหน้าที่ สบอ.16 เชียงใหม่ รวมพลังบริจาคโลหิต หนุนทหารกล้าแนวหน้าชายแดนไทย-กัมพูชา

นายกริชสยาม คงสตรี ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 (เชียงใหม่) ได้นำคณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ผู้พิทักษ์ป่า รวมจำนวน 100 นาย เข้าร่วมกิจกรรมบริจาคโลหิต ณ โรงพยาบาลสวนดอก อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อส่งต่อชีวิต ความหวัง และกำลังใจให้แก่ “ทหารกล้าแนวหน้า” ที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเสี่ยงภัย

ราชกิจจาฯ ประกาศปรับฐานค่าจ้างคำนวณเงินสมทบประกันสังคม ม.33 เริ่ม 1 ม.ค. 2569

กฎกระทรวงใหม่กำหนดค่าจ้างขั้นต่ำ-ขั้นสูง ใช้เป็นฐานคำนวณเงินสมทบผู้ประกันตนมาตรา 33 โดยปรับเพดานสูงสุดเป็นลำดับ จาก 17,500 บาท เพิ่มเป็น 23,000 บาทในระยะถัดไป มีผลตั้งแต่ต้นปี 2569