'บิ๊กตู่' ร่วมดินเนอร์ 16 พรรครัฐบาล อิ่มหนำหลากเมนู ไร้เงาตัวแทนกลุ่มธรรมนัส

17 มี.ค.2565 - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับบรรยากาศการนัดรับประทานอาหารของพรรคร่วมรัฐบาล ที่สโมสรราชพฤกษ์ กทม. ตามคำเชิญของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ในเวลา 19.00 น. หลังจากเมื่อวันที่ 8 มี.ค. พล.อ.ประยุทธ์ ได้จัดเลี้ยงอาหารค่ำพรรคร่วมรัฐบาลไปแล้วครั้งหนึ่ง แต่ขาดพรรคเล็กร่วมรัฐบาล โดยบรรยากาศก่อนถึงเวลาสื่อมวลชนได้ทยอยมาสังเกตการณ์ด้านนอก

ต่อมาเวลา 17.45 น.นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ในฐานะผอ.พรรคพลังประชารัฐ และในฐานะผู้ประสานงานพรรคเล็ก ได้เดินทางมาถึงเป็นคนแรก เพื่อมาดูแลความเรียบร้อย จากนั้น นายเทวัญ ลิปตพัลลภ หัวหน้าพรรคชาติพัฒนา เดินทางมาถึง

ตามด้วยเวลา 18.55 น. นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์พรรคชาติไทยพัฒนา​ นายประภัทร โพธสุธน เลขาธิการพรรคชาติไทยพัฒนา นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ในฐานะเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย นายอนุชา นาคาศัย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกรรมการบริหารพรรคพปชร. นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ขณะที่ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี รมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ติดภารกิจ

สำหรับพรรคเล็กที่มารวม อาทิ พลังท้องถิ่นไท รวมพลังประชาชาติไทย พรรคชาติพัฒนา รักษ์ผืนป่าประเทศไทย ครูไทยเพื่อประชาชน ไทรักธรรม พลังธรรมใหม่ โดยได้มีการจัดโต๊ะยาวเพียงโต๊ะเดียวให้บรรดาพรรคเล็กได้นั่งใกล้ชิดกับ พล.อ.ประยุทธ์ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย พร้อมเปิดโอกาสให้พูดคุยอย่างเต็มที่

ต่อมาเวลา 20.29 น. พล.อ.ประยุทธ์ เดินทางมาถึงสโมสรราชพฤกษ์ โดยมี นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงานในฐานะผอ.พรรคพลังประชารัฐ มาต้อนรับ ขณะที่บรรยากาศงานเลี้ยงล่าสุด พรรคร่วมฯที่เข้าร่วมทั้งสิ้น 16 พรรค ประกอบด้วย พรรคพลังประชารัฐ พรรคประชาธิปัตย์ พรรคภูมิใจไทย พรรคชาติไทยพัฒนา พรรคไทรักธรรม พรรคเพื่อชาติไทย พรรคพลังธรรมใหม่ พรรคชาติพัฒนา พรรคพลังชาติไทย พรรคครูไทยเพื่อประชาชน พรรคพลังท้องถิ่นไท พรรคประชาภิวัฒน์ พรรครวมพลังประชาชาติไทย พรรครักษ์ผืนป่า พรรคเศรษฐกิจใหม่ และพรรคพลเมืองไทย โดยมีหัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรคเข้าร่วม

ขณะที่ นายสุรทิน พิจารณ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปไตยใหม่ ติดภารกิจต่างจังหวัด ได้แจ้งกับ พล.อ.ประวิตร แล้ว เช่นเดียวกับ นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา ติดภารกิจต่างจังหวัด ส่ง นายเทวัญ ลิปตพัลลภ หัวหน้าพรรคชาติพัฒนา มาแทน ส่วนพรรคเศรษฐกิจไทย ที่มี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา เป็นแกนนำไม่ได้มาร่วมเนื่องจากยังไม่มีหัวหน้าและเลขาธิการพรรค

ด้านนายชัชวาลล์ คงอุดม หัวหน้าพรรคพลังท้องถิ่นไทย เปิดเผยว่า จะสะท้อนปัญหาของประชาชน เพื่อให้นายกรัฐมนตรีลงไปช่วยเหลือผ่านการจัดสรรงบประมาณให้กับท้องถิ่นอบต.และอบจ.เนื่องจากมองว่าจะช่วยเหลือประชาชนได้รวดเร็วมากกว่ารองบฯกลาง เช่นการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบในปัญหาปากท้อง เศรษฐกิจ ราคาสินค้า ราคาน้ำมันแพง เสนอขอการช่วยเหลือลดค่าของชีพค่าก๊าซหุงต้ม สิ่งอำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับเมนูอาหารภายในงาน อาทิ กระเพาะปลาสด ปลาหิมะ เกี๊ยวกุ้ง ติ่มซำ ของหวานบัวลอยน้ำขิง

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

รัฐบาลจะดันทุรังแจกเงินดิจิทัล 5 แสนล้าน ถามคนไทย 4 ข้อ จะเลือกข้อไหนดี

นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กกรณีรัฐบาลเดินหน้า โครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต ว่า

'สุวัจน์' หวนคืนชื่อเดิม 'พรรคชาติพัฒนา' แต่งตั้ง สส.แจ้ เป็นรองหัวหน้าพรรค

พรรคชาติพัฒนากล้า เปิดการประชุมใหญ่สามัญ ประจำปี 2567 นำโดยนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า , นายเทวัญ ลิปตพัลลภ หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ,

'ชัยเกษม' ออกตัวไม่เกี่ยวปรับครม. ผู้บริหารพรรคจะใช้ให้ทำอะไรก็ได้ สบายๆ

นายชัยเกษม นิติสิริ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย เดินทางมาไหว้ศาลพระภูมิเจ้าที่ ศาลตา ศาลยาย โดยผู้สื่อข่าวได้สอบถามว่า การเดินทางมาไหว้วันนี้เกี่ยวอะไรกับการปรับ ครม.หรือไม่

'อนุทิน' ไม่กังวลแบงก์ชาติท้วงแจกเงินดิจิทัล ชี้หากไม่ถูกกฎหมาย กฤษฎีกา-สภาพัฒน์ต้องแจ้งมา

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.)ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ธนาคารแห่งประเทศไทย มีหนังสือเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาเกี่ยวกับการเดินหน้าโครงการดิจิทัลวอลเล็ต

ไทยในสายตาต่างชาติ: สมัยรัชกาลที่เจ็ด (ตอนที่ 20: การเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475 ในสายตาผู้ช่วยทูตทหารฝรั่งเศส)

(ต่อจากตอนที่แล้ว) ในรายงานลงวันที่ 24 กันยายน 1932 (พ.ศ. 2475) ของพันโท อองรี รูซ์ ผู้ช่วยทูตทหารบกและทหารเรือประจำสยาม ประจำสถานอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำสยาม มีความว่า