
เมื่อวันที่ 1 พ.ค.ที่ผ่านมา มีการจัดงานวันแรงงานแห่งชาติ ประจำปี 2565 ขึ้นที่กระทรวงแรงงาน หลังจากว่างเว้นมา 2 ปี เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) โดยในปีนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เดินทางมาเป็นประธานในพิธีเปิดด้วยตัวเอง พร้อมด้วย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลกระทรวงแรงงาน

โดย พล.อ.ประยุทธ์ได้ขึ้นกล่าวสุนทรพจน์กับแรงงานว่า รัฐบาลตระหนักถึงบทบาทของผู้ใช้แรงงานทุกคน ไม่เคยทอดทิ้งและเอาใจใส่ทุกท่านอยู่เสมอ ในฐานะที่เป็นกำลังสำคัญขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ เป็นโอกาสดีที่จะกระตุ้นเตือนให้ทุกภาคส่วนตระหนักถึงสิทธิ ความเสมอภาค สวัสดิการและความปลอดภัยในอาชีพ และได้รับความต้องการที่แท้จริงนำไปพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ และยกระดับคุณภาพชีวิตให้มีความสุขมั่นคง
“รัฐบาลให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เสมอมา ที่ผ่านมารัฐบาลเรามีความมุ่งมั่นจะผลักดันให้กระทรวงแรงงานเป็นกระทรวงสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศเต็มรูปแบบในเวทีการค้าโลก ดังนั้น การพัฒนาแรงงานเพื่อให้มีรายได้ที่เพิ่มขึ้น มีชีวิตที่ดีและความสุขอย่างยั่งยืน เป็นเป้าหมายสำคัญที่จะต้องดำเนินการไปพร้อมกับการพัฒนาประเทศ”

ด้านนายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวย้ำว่า รัฐบาลภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ และ พล.อ.ประวิตร ในฐานะดูแลและกำกับกระทรวงแรงงาน ตระหนักถึงความสำคัญของพี่น้องผู้ใช้แรงงาน ถึงแม้ว่าประเทศไทยและประเทศทั่วโลกยังคงประสบปัญหาการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 กระทรวงแรงงานยังมุ่งมั่นส่งเสริมให้แรงงานมีงานทำ และได้รับการพัฒนาแรงงานให้มีศักยภาพสูงในทุกมิติสอดคล้องกับทิศทางการพัฒนาประเทศ ส่งเสริมให้ผู้ใช้แรงงานได้รับความคุ้มครองอย่างทั่วถึงให้มีความปลอดภัยในทำงาน รวมถึงการสร้างหลักประกันทางสังคมแก่แรงงานนอกระบบ กลุ่มเปราะบาง ยกระดับการประกันสังคมเพื่อให้แรงงานได้รับประโยชน์สูงสุด เร่งรัดปรับปรุงแก้ไขกฎหมายให้สอดคล้องกับบริบทสถานการณ์ปัจจุบัน และรองรับการเปลี่ยนแปลงในอนาคต นำไปสู่ความมั่นคง ความมีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน

สำหรับความคืบหน้าการดำเนินการตามข้อเรียกร้องวันแรงงานในปีนี้ทั้ง 8 ข้อนั้น นายสุชาติระบุว่า กระทรวงแรงงานให้ความสำคัญกับการดำเนินการตามข้อเรียกร้องและข้อเสนอแนะของแรงงาน โดยจะนำข้อเรียกร้องมาดำเนินการอย่างเป็นขั้นตอน มีการหารือกับผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่มเพื่อพัฒนาการให้บริการพี่น้องแรงงาน และได้ประสานแจ้งให้คณะกรรมการจัดงานวันแรงงานแห่งชาติทราบถึงความคืบหน้าแล้ว เพราะตระหนักดีว่าทุกข้อเสนอแนะจะนำมาซึ่งการปรับปรุงการดำเนินการของกระทรวงแรงงานอย่างมีประสิทธิภาพ อันจะส่งผลไปสู่การแก้ไขปัญหาเพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่พี่น้องแรงงานมีความยั่งยืนในการพัฒนาประเทศสืบไป

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานเปิดเผยว่า สำหรับการดำเนินการของกระทรวงแรงงานในช่วงที่ผ่านมา ได้แก่ การปฏิรูปประกันสังคมในส่วนของการขยายอายุผู้ประกันตน มาตรา 40 เพื่อให้สอดรับกับสังคมผู้สูงอายุ จากเดิมไม่เกิน 60 ปี เป็นไม่เกิน 65 ปีบริบูรณ์ โดยกระทรวงแรงงานได้ดำเนินการแก้ไขเพิ่มเติมไว้ในร่างพระราชบัญญัติประกันสังคม (ฉบับที่..) พ.ศ. ... ปัจจุบันร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้อยู่ระหว่างเสนอเข้าคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบในหลักการ

ส่วนการเร่งรัดออกกฎหมายคุ้มครองแรงงานนอกระบบนั้น ได้เสนอร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพชีวิตและคุ้มครองแรงงานนอกระบบ พ.ศ. ... เพื่อให้แรงงานนอกระบบสามารถเข้าถึงสิทธิพื้นฐานในการประกอบอาชีพ มีความปลอดภัยในการทำงาน มีหลักประกันทางสังคม มีการรวมกลุ่มจัดตั้งองค์กร ได้รับความคุ้มครองและส่งเสริมพัฒนาเพื่อให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี ซึ่งได้ผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีแล้วเมื่อวันที่ 28 ธ.ค.64 และอยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเพื่อเสนอต่อสภาผู้แทนราษฎรต่อไป
นอกจากนี้ ยังมีการรับรองอนุสัญญาไอแอลโอ ฉบับที่ 87 และฉบับที่ 98 ซึ่งได้มีการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้อง 2 ฉบับแล้ว ได้แก่ ร่างพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ พ.ศ. ... ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบในหลักการแล้วเมื่อวันที่ 5 ก.พ.62 และร่างพระราชบัญญัติแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ พ.ศ. ... ที่คณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบในหลักการเมื่อวันที่ 29 ก.ย.63 เมื่อมีผลบังคับใช้แล้วจะนำเสนอให้รัฐบาลให้สัตยาบันรับรองอนุสัญญาดังกล่าวได้

ส่วนการกำหนดให้สถานประกอบกิจการที่มีลูกจ้างรับเหมาค่าแรงปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ.2541 นั้น กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานได้จัดทำแนวปฏิบัติของพนักงานตรวจแรงงาน กำชับเจ้าหน้าที่ให้ปฏิบัติตามมาตรา 11/1 อย่างเคร่งครัด และชี้แจงนายจ้างให้ปฏิบัติต่อลูกจ้างรับเหมาค่าแรงให้ถูกต้องตามกฎหมาย
ขณะที่ข้อเรียกร้องให้รัฐบาลขยายวงเงินเพื่อลดหย่อนภาษีเงินได้ที่ลูกจ้างได้รับก้อนสุดท้ายนั้น กระทรวงแรงงานได้แต่งตั้งคณะทำงานศึกษาการจัดตั้งกองทุนประกันความเสี่ยง พิจารณาแก้ไขกฎหมายเกี่ยวกับการจ่ายค่าชดเชยและงดจ่ายภาษีกรณีเงินออกจากงาน และขยายวงเงินเพื่อลดหย่อนภาษีเงินได้ หากมีการแก้ไขจะมีผลบังคับใช้ทั้งลูกจ้างภาคเอกชนและรัฐวิสาหกิจ โดยบูรณาการการทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการแก้ไขพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ.2541 ซึ่งได้ดำเนินการจัดประชุมหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แต่งตั้งคณะทำงานที่เป็นคณะกรรมการไตรภาคีขึ้นมาศึกษาปัญหาและอุปสรรคที่อาจจะเกิดขึ้นจากการแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องของแต่ละหน่วยงาน

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานยังเปิดเผยด้วยว่า ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 กระทรวงแรงงานได้มีมาตรการต่างๆ ออกมาเพื่อช่วยเหลือเยียวยาผู้ใช้แรงงาน และผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการป้องกันโควิด-19 ดังนี้ โครงการเยียวยานายจ้างและผู้ประกันตนมาตรา 33, 39 และ 40 ในพื้นที่ 29 จังหวัด ซึ่งมีการเยียวยานายจ้างจำนวน 192,911 ราย และผู้ประกันตนมาตรา 33, 39 และ 40 รวม 12.33 ล้านราย รวมเป็นเงิน 103,738.55 ล้านบาท ขณะเดียวกันยังมีโครงการเยียวยาผู้ประกันตนในกิจการสถานบันเทิง และผู้ประกอบอาชีพอิสระที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการของรัฐ ผู้ประกันตนมาตรา 33, 39 และ 40 ในพื้นที่ทั่วประเทศ รายละ 5,000 บาท จำนวน 147,714 ราย เป็นเงิน 738.57 ล้านบาท
ในส่วนของธุรกิจ SMEs ได้มีโครงการส่งเสริมและรักษาระดับการจ้างงานในธุรกิจ SMEs โดยมีสถานประกอบการเข้าร่วมโครงการจำนวน 394,703 แห่ง สามารถรักษาการจ้างงานให้แก่ผู้ประกันตนมาตรา 33 ได้กว่า 4,032,948 ราย เกิดเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ 37,521.69 ล้านบาท โดยรัฐบาลอุดหนุนนายจ้างจ่ายเงินเดือนลูกจ้าง 3,000 บาทต่อเดือน 3 เดือนเพื่อรักษาการจ้างงาน

และเพื่อเป็นการบรรเทาผลกระทบ กระทรวงแรงงานได้ลดเงินสมทบ 3 เดือนให้แก่นายจ้างและผู้ประกันตนตามมาตรา 33 ผู้ประกันตนตามมาตรา 39 และลดเงินประกันสังคมมาตรา 40 จำนวน 6 เดือน รวมแล้วได้มีการลดอัตราเงินสมทบจำนวน 6 ครั้ง สามารถลดค่าครองชีพผู้ประกันตนกว่า 23.92 ล้านคน นายจ้าง 488,276 ราย ทำให้มีเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจกว่า 146,488 ล้านบาท
นอกจากนี้ ในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ยังมีการเปิดจุดตรวจโควิด ในโครงการ “แรงงาน..เราสู้ด้วยกัน” โดยเป็นการตรวจโควิดฟรีที่สนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง กรุงเทพฯ และมีการเปิดจุดตรวจโควิด-19 ทั้งประจำและเชิงรุก ในโรงงานในพื้นที่ 23 จังหวัด โดยให้บริการผู้ใช้แรงงานไปทั้งสิ้น 409,972 คน รอดำเนินการจัดหาเตียงในลักษณะ Hospitel กว่า 48,000 เตียง เพื่อรองรับผู้ใช้แรงงานที่ป่วยจากโควิด-19 พร้อมทั้งมีการผลักดันโควตาวัคซีนโควิด-19 สำหรับผู้ใช้แรงงาน โดยปัจจุบันมีการดำเนินการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ไปแล้วกว่า 4 ล้านโดส
กระทรวงแรงงานยังได้ทำโครงการ Factory Sandbox เพื่อป้องกันการระบาดในโรงงาน โดยมีโรงงานเข้าร่วมโครงการ 730 แห่ง มีผู้ใช้แรงงานเข้าร่วมกว่า 4 แสนคน ทำให้โรงงานไม่ต้องปิดตัวลง ส่งผลให้การส่งออกปี 2564 ขยายตัวสูงสุดในรอบ 11 ปี มูลค่ารวมกว่า 2.71 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานกล่าวด้วยว่า สำหรับการเตรียมความพร้อมในการจัดตั้งธนาคารแรงงานเพื่อสร้างหลักประกันความมั่นคง โดยตั้งคณะอนุกรรมการศึกษาความเป็นไปได้ในการจัดตั้งธนาคารประกันสังคม ได้มีการประชุมไปแล้ว 3 ครั้ง และผ่านความเห็นชอบของคณะกรรมการประกันสังคมแล้ว.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'ไอติม' เลี่ยงยื่นซักฟอก ใช้กลไกอื่นตรวจสอบรัฐบาลแทน
'พริษฐ์' ปัดตอบยื่นซักฟอกรัฐบาล ขอใช้กลไกอื่นของสภาตรวจสอบเข้มข้นแทน เชื่อถกแก้ รธน. วาระ 2 จบภายใน 3 วัน นัดประชุมวิปฝ่ายค้านวางกรอบ 9 ธ.ค.
รัฐบาลยกเว้น 'ค่าไฟ' พ.ย. 420 ล้าน เยียวยาน้ำท่วมสงขลา
นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การเยียวยาและฟื้นฟูพื้นที่ประสบอุทกภัย โดยเฉพาะในจังหวัดสงขลา เดินหน้าไปอย่างมาก โดยปัจจุบันสามารถนำประชาชนกลับบ้านไปได้กว่า 90%
'อนุทิน' สวน พท. ใครทำงานห่วย ยุครัฐบาลนิด-อิ๊งค์ ติดโพลอันดับ 2
'อนุทิน' สวนเพื่อไทย ถ้าทำงานห่วย คนตั้งก็แย่สิ ยุครัฐบาล 'อิ๊งค์ - เศรษฐา' ผลโพลชี้ชัดนั่งแท่นอันดับ 2 ทิ้งห่าง พท. หัวเราะให้คะแนนตัวเอง 'เดี๋ยวจะหาว่าคุย'
นายกฯ ประธานพิธีเจริญพระพุทธมนต์ ทำบุญตักบาตร ถวายพระราชกุศล 'ร.9'
นายกฯ เป็นประธานในพิธีเจริญพระพุทธมนต์ ทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศล เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ 'ในหลวง ร.9' วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ 5 ธ.ค. 2568
'สส.ปชน.' จี้ ก.แรงงาน ต้องไกล่เกลี่ยข้อพิพาท นายจ้างไดกิ้น 'ปิดงาน' หาข้อยุติโดยเร็ว
นายเซีย จำปาทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก กรณีเกิดข้อพิพาทระหว่างบริษัท ไดกิ้น กับสหภาพแรงงานฯ ว่า นายจ้างไดกิ้น “ปิดงาน” กระทรวงแรงงานต้องประสานไกล่เกลี่ยหาข้อยุติโดยเร็ว
หยิกเล็บเจ็บเนื้อ! 'ภท.-พท.' โต้เดือดพัวพัน 'เบน สมิธ'
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า กรณีเบน สมิธ : ภูมิใจไทย-เพื่อไทย หยิกเล็บเจ็บเนื้อ


