นายกฯประกาศเจตนารมณ์เวทีผู้นำ COP26 บรรลุเป้าหมายปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ในปี 2065

นายกฯ กล่าวถ้อยแถลงต่อที่ประชุมระดับผู้นำ COP26 ประกาศเจตนารมณ์ไทยพร้อมยกระดับการแก้ไขปัญหาภูมิอากาศอย่างเต็มที่ด้วยทุกวิถีทาง ย้ำต้องหยุดทำร้ายธรรมชาติเพราะไม่มีโลกใบที่สองเหมือนโลกนี้อีกแล้ว

2 พ.ย.2564 -วันที่ 1 พฤศจิกายน เวลา 16.00 น. (ตามเวลาท้องถิ่นที่เมืองกลาสโกว์ ซึ่งตรงกับเวลา 23.00 น. ของไทย) ณ ศูนย์การประชุม The Scottish Event Campus พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้กล่าวถ้อยแถลงต่อที่ประชุมระดับผู้นำ (World Leaders Summit) ในการประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (United Nations Framework Convention on Climate Change Conference of the Parties: UNFCCC COP) (COP26) ณ เมืองกลาสโกว์ สหราชอาณาจักร นาย ธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีได้กล่าวถึงสาระสำคัญการกล่าวถ้อยแถลงของนายกรัฐมนตรี ดังนี้

นายกรัฐมนตรีได้แสดงวิสัยทัศน์ต่อที่ประชุมยืนยันไทยให้ความสำคัญสูงสุดกับการแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ไทยพร้อมร่วมมือกับทุกประเทศ ทุกภาคส่วนเพื่อบรรลุเป้าหมายสำคัญของโลกเพื่ออนาคตของลูกหลานของพวกเราทุกคน

นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงเหตุผลสำคัญที่ไปร่วมการประชุมสุดยอดเรื่องภูมิอากาศของสหประชาชาติที่กรุงปารีสเมื่อปี ค.ศ. 2015 เพราะไทยปล่อยก๊าซเรือนกระจกออกเพียงร้อยละ 0.72 ของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั่วทั้งโลก แต่ไทยเป็น 1 ใน 10 ประเทศที่ได้รับผลกระทบร้ายแรงที่สุดจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ไทยจึงอยู่ในกลุ่มแรกที่ให้สัตยาบันเป็นภาคีของความตกลงปารีส และไทยได้ปฏิบัติตามคำมั่นที่ให้ไว้กับประชาคมโลกอย่างต่อเนื่อง แข็งขัน

ในส่วนของไทย ได้กำหนดเป้าหมาย NAMA (Nationally Appropriate Mitigation Actions) ภายใต้กรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ในภาคพลังงานและขนส่งอย่างน้อย ร้อยละ 7 ภายในปี ค.ศ. 2020 แต่ไทยสามารถทำได้เกินเป้าหมายที่ตั้งไว้ถึงกว่า 2 เท่า ก่อนกำหนดเวลาถึง 1 ปี เพราะในปี ค.ศ. 2019 ไทยลดก๊าซเรือนกระจกได้แล้วถึงร้อยละ 17 นอกจากนี้ ไทยยังเป็นประเทศแรก ๆ ที่จัดส่งเป้าหมายการมีส่วนร่วมของประเทศ (Nationally Determined Contributions : NDC) และได้ส่งยุทธศาสตร์ระยะยาวในการพัฒนาแบบปล่อยก๊าซเรือนกระจกระดับต่ำให้กับ UNFCCC รวมถึงได้จัดทำแผนงานต่าง ๆ ในระดับประเทศ และระดับท้องถิ่น

ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้ประกาศเจตนารมณ์ว่าไทยพร้อมยกระดับการแก้ไขปัญหาภูมิอากาศอย่างเต็มที่ด้วยทุกวิถีทาง เพื่อบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน ภายในปี ค.ศ. 2050 และบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือน กระจกสุทธิเป็นศูนย์ได้ในปี ค.ศ. 2065 และด้วยการสนับสนุนจากความร่วมมือระหว่างประเทศ และกลไกภายใต้ กรอบอนุสัญญาฯ ไทยจะยกระดับ NDC ของเราขึ้นเป็นร้อยละ 40 ได้ ซึ่งลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ได้ภายในปี ค.ศ. 2050

นายกรัฐมนตรีได้กล่าวถึงการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเอเปคของไทยในปี 2565 (ค.ศ. 2022) ว่าไทยได้กำหนดให้แนวคิดเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว หรือ BCG เป็นการพัฒนาเศรษฐกิจที่ไม่ทำลายระบบนิเวศ เป็นวาระหลักในการประชุมฯ

ซึ่งในตอนท้ายของการประชุมนายกรัฐมนตรีได้เรียกร้องให้ทุกประเทศร่วมกันดูแล รักษาโลก เพราะ “เราทุกคนไม่มี ‘แผนสอง’ ในเรื่องการรักษา เยียวยาสภาพภูมิอากาศ เพราะเราจะไม่มี ‘โลกที่สอง’ ซึ่งเป็นบ้านของพวกเราเหมือนโลกนี้อีกแล้ว”

ทั้งนี้ ภายหลังนายกรัฐมนตรีร่วมการประชุมฯ เวลา 19.00 น. (ตามเวลาท้องถิ่นที่เมืองกลาสโกว์ ซึ่งตรงกับวันที่ 2 พฤศจิกายน เวลา 02.00 น. ของไทย) ณ พิพิธภัณฑ์ศิลปะ Kelvingrove นายกรัฐมนตรีได้ร่วมงานเลี้ยงรับรองสำหรับผู้นำที่รัฐบาลสหราชอาณาจักรเป็นเจ้าภาพ และมีพระบรมวงศานุวงศ์ของสหราชอาณาจักรเข้าร่วมในโอกาสดังกล่าวด้วย.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ดร.ณัฏฐ์' ชี้เกมเปลี่ยนม้ากลางศึก นายกฯ คนใหม่อาจเป็น 'ประยุทธ์' หรือ 'ชัยเกษม'

"ดร.ณัฏฐ์ วงศ์เนียม" วิเคราะห์ศาลรัฐธรรมนูญมีแนวโน้มชี้ขาดให้ “แพทองธาร” หลุดเก้าอี้นายกฯ 29 ส.ค.นี้ เปิดเกมการเมืองร้อนแรง พรรคเพื่อไทยยังคุมเสียงข้างมาก แต่ตัวเลือกนายกฯ คนต่อไปอยู่ระหว่าง “ชัยเกษม นิติสิริ” กับ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” ซึ่งแม้เป็นองคมนตรีแต่ยังไม่ขาดคุณสมบัติ

ดิจิทัลฟุตปริ้นท์ 'พ่อนายกฯ' หลอน 'อิ๊งค์' เคยแนะ 'ประยุทธ์' ถอย ไม่รอศาลตัดสิน

ในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์ คำพูดของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่เคยพูดไว้ว่า "ผมเป็น พล.อ.ประยุทธ์ จะไม่รอศาลตัดสิน ถอยแล้วหล่อกว่า

ดร.ณัฏฐ์ ชี้ปมศาลรธน.ไม่รับคำร้องตั้ง 'ธรรมนัส' ไม่เกี่ยวจริยธรรมร้ายแรง

นักกฎหมายมหาชน เตือน รัฐบาลแพทองธาร เสี่ยงซ้ำรอย “เศรษฐา” หากเดินหน้าดันชื่อ “ธรรมนัส” เข้าครม. ชี้คำวินิจฉัยศาลรธน.กรณีเดิม ไม่ได้ตัดสินเนื้อหา จึงไม่เป็นบรรทัดฐานในการตั้งรัฐมนตรีได้

ศาลรัฐธรรมนูญ ไม่รับคำร้องวินิจฉัย 'พล.อ.ประยุทธ์' พ้นนายกฯ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเป็นเอกฉันท์มีคำสั่งไม่รับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัยในคดีที่นายพีรพงษ์ ทรัพย์กิจธนากุล ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของพล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา

โฆษก พปชร. เผย 2 ป. ต่อสายให้กำลังใจ 'บิ๊กป้อม'

พล.ต.ท. ปิยะ ต๊ะวิชัย โฆษกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เปิดเผยว่า จากกรณีที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค พปชร. ลื่นล้มเล็กน้อย จนเป็นข่าวที่สร้างความตกใจให้กับผู้ใกล้ชิดหลายฝ่าย โดยเฉพาะ

'ปชน.' ซัดเพื่อไทยทรยศประชาชน ผ่านมา 2 ปี ยังไม่ทำอะไร 'บิ๊กตู่' ปมเหมืองทองอัครา

นายอิทธิพล ชลธราศิริ สส.ขอนแก่น พรรคประชาชน อภิปรายถึงเหมืองทองอัครา ที่สมัยพล.อ.ประยุทธ์ ​จันทร์โอชา เป็นนายกฯ สส.พรรคเพื่อไทย ทั้งนายสุทิน คลังแสง สส.บัญชีรายชื่อ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว สส.น่าน และน.ส.จิราพร สินธุไพร