คุ้นๆ 'ชลน่าน' ตั้งข้อหารัฐบาล 608 อัปยศ ล้มเหลว ครอบงำ พังพินาศ ไร้วิสัยทัศน์ ทุจริตเฟื่องฟู

"ชลน่าน” เปิดฉากตั้งข้อหารัฐบาลบกพร่อง 6 ด้าน ตั้งฉายารัฐบาล608 –สภากล้วย ซัด ทำของแพง หนี้ท่วม ปล่อยนโยบายกัญชาเสรี ยาเสพติดเกลื่อนเมือง ซัด อัปยศฝ่ายบริหารครอบงำนิติบัญญัติ สั่งกดปุ่มโหวตหาร 500 ขู่เรื่องถึงศาล ฐานปฏิปักษ์การปกครอง เชื่อ นั่งร้านบางคนโดนสอย

19 ก.ค.2565- เวลา 09.25 น. ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาฯคนที่หนึ่ง เป็นประธานการประชุม เพื่อพิจารณาวาระด่วน คือ พิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล จำนวน 11 คน โดยนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ในฐานะวิปฝายค้าน กล่าวว่า สำหรับคิวการอภิปรายรัฐมนตรีในวันนี้ ซึ่งเป็นวันแรก จะเริ่มที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน นายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส)

จากนั้นเวลา 09.40 น. นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯ แถลงญัตติการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรี ตอนหนึ่งว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม

ปล่อยให้พวกพ้องและบุคคลแวดล้อมของจนเองกระทำการทุจริตและประพฤติมิชอบอย่างกว้างขวาง ไม่ใส่ใจที่จะป้องกันและปราบปราม มีการใช้เงินและการต่อรองผลประโยชน์เพื่อความอยู่รอดทางการเมืองของตนเอง อันเป็นการทำลายระบบรัฐสภาและหลักการประชาธิปไตย จนทำให้ระบบรัฐสภาตกต่ำสั่นคลอนและกลไกในระบบรัฐสภาเสียหาย

นพ.ชลน่าน กล่าวอีกว่า การอภิปรายครั้งนี้จะแสดงให้เห็นถึงความบกพร่อง 6 ด้าน 1.บกพร่องด้านความเป็นผู้นำ เป็นผู้นำไร้ความสามารถ ลวงโลก บุคลิกภาพมีปัญหาทั้งกับตัวเอง ครอบครัว และประชาชน ถ้าพล.อ.ประยุทธ์ เป็นแบรนด์สินค้าหนึ่ง ถ้าได้ฟังฝ่ายค้านอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ เชื่อว่าประชาชนจะไม่ใช้สินค้ายี่ห้อนี้อีกต่อไป เพราะเป็นผู้นำไร้ความชอบธรรมตั้งแต่เข้าสู่อำนาจ และการใช้อำนาจก็ยังขาดความชอบธรรม ทั้งยังไม่สามารถหารายได้ให้ประชาชนและประเทศ ทำไม่เป็น อีกทั้งยังเป็นผู้นำไร้วิสัยทัศน์ หลายสถานการณ์บ่งชี้เช่นนั้น ผลจากการบริหารแผ่นดินชี้ให้เห็นถึงภาพรวม แต่ที่ชัดเจน คือ บังอาจตั้งตัวเองเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจประเทศ

นพ.ชลน่าน กล่าวต่อว่า 2.เศรษฐกิจพังพินาศ ล้มเหลว จนทั้งแผ่นดิน ทุกข์ เครียดทั้งแผ่นดิน ของแพง หนี้สินท่วมหัว นำมาซึ่งความสิ้นหวังของประชาชน รัฐบาลชุดนี้ คือรัฐบาล 608 ไร้ความรู้ไร้ความสามารถ ทนต่อการเปลี่ยนแปลงไม่ได้ มิหนำซ้ำอมโรคป่วย กู้เกือบเต็มเพดานทุกปี กลุ่มทุนเติบโต แต่ประชาชนร้อยละ 99 จนลง มีการเอื้อประโยชน์ให้นายทุนและพวกพ้องแต่คนรับกรรมคือประชาชน ใกล้เลือกตั้งจัดงบประมาณกระจุกตัว โดยเฉพาะถนน และแหล่งน้ำ งบพัฒนาแหล่งน้ำในภาคใต้ ภาคอีสาน 3.สังคมพินาศพังทลาย สร้างความแตกแยก แบ่งฝักฝ่าย ยาเสพติดเต็มบ้านเต็มเมือง ไม่ดูแลลูกหลาน ถามว่าเอื้อประโยชน์ให้ใคร ปล่อยให้มีนโยบายสุ่มเสี่ยง อย่างนโยบายกัญชาเสรี เป็นผู้นำยิ่งใหญ่ แต่ถูกบีบคอ เรียกค่าไถ่ได้ตลอดเวลา ประเทศอุดมไปด้วยยาเสพติด แล้วบ้านเมืองจะพัฒนาได้อย่างไร 4.ความพินาศด้านสาธารณสุข ล้มเหลวแก้วิกฤติโควิด-19 สร้างความสูญเสียทางเศรษฐกิจ

นพ.ชลน่าน กล่าวด้วยว่า 5.ความพินาศด้านการเมือง ระบบรัฐสภาถูกทำลายย่อยยับ เป็นระบบที่สถาปนา สภากล้วยขึ้นมา มีการใช้เงินแลกเสียงโหวตทุกครั้งที่มีการลงมติที่สำคัญๆ การโหวตอภิปรายไม่ไว้วางใจโดนตีแพร่ 3ป.ขอเท่าไหร่ พรรคร่วมรัฐบาลเท่าไหร่ ตัวเลขอยู่ที่หลักล้าน ภาษาชาวบ้านเรียก 3อย่างบาท 3 คนล้าน เป็นไปได้อย่างไร นายกฯจงใจเป็นปฏิปักษ์ทำลายระบบรัฐสภา และการเมืองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เรื่องนี้ถึงศาลแน่นอนกับพฤติการณ์ที่ทำอยู่

“เรื่องนี้น่าอัปยศอดสูที่สุด เราแบ่งแยกอำนาจการปกครอง เราจะไม่ก้าวล่วงหน้าที่ซึ่งกันและกัน ฝ่ายนิติบัญญัติมีหน้าที่ออกกฎหมาย ลงมติ ท่านไม่มีสิทธิ์ก้าวล่วงสั่งการตามที่ท่านต้องการได้ ทำลายหลักการพื้นฐานการปกครอง เป็นความผิดที่ร้ายแรง เป็นปฏิปักษ์ต่อระบอบการปกครอง ครอบงำชี้นำพรรคการเมืองที่สมยอมเป็นไปได้ยอ่างไร เปลี่ยนระบบเลือกตั้งมาเป็นแบบคู่ขนาน แต่ก่อนคืนวันสุดท้ายยังเป็นหาร 100 พอเช้าอีกวัน สั่งการจากทำเนียบรัฐบาล ให้หาร500 เข้าใจว่าเป็นความต้องการของท่าน เพื่อทำลายพรรคคู่แข่ง ตามเจตนารมณ์ที่ยึดอำนาจเข้ามาไม่เสียของ ทำลายพรรคเพราะคิดว่าเป็นของคนคนเดียวคนนั้น จับหนูตัวเดียวเผาบ้านตัวเอง พังพินาศหมด ที่สำคัญเป็นไปตามคำร้องขอของส.ส.ในสภาแห่งนี้ แม้จะขัดใจพี่ใหญ่ของท่าน เราสร้างแม่เป็นวัว แต่มีใครคนหนึ่งแอบไปผสมพันธุ์ ลูกหรือกฎหมายลูกมันจึงออกมาเป็นควาย ใช้วิธีแบบนี้พรรคเล็กพรรคน้อยตายหมด ยกเว้นพรรคที่มีคะแนนนิยมที่จะรอด แต่รอดในสัดส่วนที่น้อย ยังมีเวลาไปใช้ศาลรัฐธรรมนูญที่มีอำนาจหน้าที่สามารถทักท้วงมายังรัฐสภาได้ ว่าแก้ไขกฎหมายลูกมาตรา 23 ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ” หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ระบุ

นพ.ชลน่าน กล่าวทิ้งท้ายว่า 6.คอร์รัปชั่นจนประเทศพังพินาศ เป็นยุคทุจริตเฟื่องฟู ติดอันดับความโปร่งใสประเทศตกต่ำสุดรอบ10ปี เป็นรัฐบาลที่หาเงินจากภาษีประชาชนให้ตัวเองเพื่อไปใช้ประโยชน์การเลือกตั้ง กว้านซื้อส.สอย่างไรก็ตาม ตนหวังลึกๆมติสภาจะสร้างปาฏิหาริย์ ให้แตกต่างจากระบบเสียงข้างมากในอดีต ที่ฝ่ายเสียงข้างมากรอสัญญาณให้โหวต แต่ครั้งนี้จะมีปาฏิหาริย์ ใครบางคนโดนสอย นั่งร้านจะถูกสอย แม้จะไม่ถูกสอย การเปิดโปงทุจริตคอรัปชั่น เอื้อประโยชน์ให้พวกพ้องและตัวเอง สิ่งเหล่านี้จะบ่งชี้บอกไปยังประชาชนถึงเวลาต้องตัดสิน เสียงในสภาไม่ชนะศรัทธาของประชาชน เชื่อมั่นอำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชนชาวไทย โดยเฉพาะคนที่ดูถูกอำนาจประชาชน จะถูกสั่งสอนในสนามเลือกตั้ง ท่านไม่ตายในสภา ใส่รถฉุกเฉินยังรักษาชีวิตได้ แต่ตายในสนามเลือกตั้งแน่นอน ฝากส.ส.ที่มาจากประชาชน ต้องคำนึงถึงความต้องการประชาชน และหวังว่า พล.อ.ประยุทธ์ควรไปจากสภาแห่งนี้ได้แล้ว อย่าอยู่เป็น 608ทำลายประเทศต่อไป.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'หมอชลน่าน' เคลื่อนไหวแล้ว โพสต์เฟซบุ๊กครั้งแรก ชี้แจงทุกประเด็นหลังหลุดเก้าอี้

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว อดีตรมว.สาธารณสุข โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า ก่อนอื่นผมต้องขอบคุณ เพจแพทย์ชนบท ที่โพสตให้กำลังใจผม และท่านรัฐมนตรีสมศักดิ์ เทพสุทิน แต่ก็มีบางอย่างที่ผมคิดว่า

ปลอบ 'ชลน่าน-ปานปรีย์' อย่าน้อยใจ ถือว่าชะตายังดีที่ยังไม่ต้องอยู่ในคุกเหมือน 'บุญทรง'

นายไพศาล พืชมงคล นักกฎหมาย และอดีตกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี) โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ก ว่า

'หมอวรงค์' ฟันธง! เพื่อไทยกำลังตกต่ำ ทำลาย 'หมอชลน่าน' จนหมดราคาเป็นเพียงลูกจ้างบริษัท

นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า พรรคเพื่อไทยกำลังตกต่ำ โดยส่วนตัว ผมกับหมอชลน่าน

‘จตุพร’ ซัดอำนาจเบื้องหลังปรับครม. ยังมีจิตปกติหรือไม่ แนะไปตรวจสุขภาพจิต

‘จตุพร’เย้ยอำนาจเบื้องหลังปรับ ครม.ยังมีจิตปกติหรือไม่ แนะรีบไปตรวจสุขภาพจิต อ้างเขี่ยทิ้งชลน่าน สะท้อนเอาแต่ใจตัวเอง ไม่มีมาตรฐานอารมณ์ ส่วน ‘ปานปรีย์’ลาออก รมต.ต่างประเทศ บอกความนัยคนจริง ยึดหลักการ สั่งซ้ายหันขวาหันไม่ได้

‘เทพไท’ เชื่อมีอาฟเตอร์ช็อก หลัง ‘ปานปรีย์’ ไขก๊อก จับตาจะเกิดอะไรขึ้นเร็วนี้

เทพไท ชื่นชมการตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยวของนายปานปรีย์ มหิทธานุกร ในการลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ

'ชลน่าน' เผยคืบหน้าแอมโมเนียรั่วที่บางละมุง มีผู้ป่วย 160 ราย อาการหนัก 9

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ ภายหลังเข้าพบ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ประมาณ 30 นาที ว่า ไปเรียนนายกรัฐมนตรี ถึงสถานการณ์โรงน้ำแข็ง ที่อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี ที่มีแก๊สรั่ว ซึ่งเบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นแอมโมเนีย