ชุมชนดงบัง ต.ดงเมืองแอม อ.เขาสวนกวาง จ.ขอนแก่น เป็นชุมชนต้นแบบที่เอาตัวรอดและปรับแผนการพัฒนาชุมชนรับมือกับทุกวิกฤตได้อย่างยั่งยืน มีทั้งการปลูกต้นหม่อนกว่า 400 ไร่ เพื่อนำมาเลี้ยงตัวไหม และนำเส้นไหมส่งขายเป็นวัตถุดิบคุณภาพสำหรับชุมชนทอผ้าทั่วประเทศ ส่วนใบหม่อนนำมาทำชาใบหม่อนเครื่องดื่มสมุนไพรเพื่อสุขภาพ จากปลูกพืชเชิงเดี่ยวชาวบ้านดงบังปรับตัวมาทำเกษตรผสมผสานปลูกพืชผักปลอดภัย พืชผักนานาชนิดในสวนส่งตรงถึงโรงพยาบาล โรงเรียน ห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร และร้านกาแฟชิคๆ เพิ่มรายได้ให้กับชุมชนในยามวิกฤตและส่งต่อสุขภาพที่ดีให้กับผู้บริโภค
นอกจากผักปลอดสารพิษที่เป็นผลิตภัณฑ์โดดเด่นของชุมชนดงบังแล้ว ชาวบ้านพัฒนาต่อยอดแปรรูปข้าวบรรจุถุงภายใต้แบรนด์ “ข้าวหอมมะลิดงบัง” แล้วยังมีร้านค้าชุมชนพัฒนาเป็นร้านค้าธงฟ้าประชารัฐพลิกโฉมนำระบบการบริหารจัดการร้านรูปแบบใหม่ทันสมัยตอบโจทย์ลูกค้า โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ เกิดเม็ดเงินเข้าท้องถิ่น กระตุ้นเศรษฐกิจชุมชนไม่ให้ซบเซา

เส้นทางสู่ความสำเร็จของชุมชนดงบังวันนี้ กลายเป็นโมเดลให้ชุมชนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือได้ศึกษาเรียนรู้แนวทางพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืนผ่านการสร้างงาน สร้างอาชีพ และสร้างมาตรฐานสินค้าผลิตภัณฑ์ชุมชนในหลากหลายมิติ ซึ่งชุมชนดีมีรอยยิ้มขอนแก่นภายใต้โครงการพัฒนาชุมชน บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ทำงานพัฒนาร่วมกับชุมชนสู่การยกระดับชุมชนเข้มแข็ง พึ่งพาตัวเองได้ ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
นางสาวรังษิยา กันซวง เจ้าหน้าที่พัฒนาธุรกิจชุมชนอาวุโส ชุมชนดีมีรอยยิ้มขอนแก่น กล่าวว่า ชาวบ้านดงบังส่วนใหญ่มีอาชีพหลัก คือ ทำนา ทำไร่ ปลูกผัก ปลูกหม่อนเลี้ยงไหม และทอผ้า จากการลงพื้นที่วางแผนพัฒนาร่วมกับชุมชน ชาวบ้านทำเกษตรเชิงเดี่ยวปลูกมันสำปะหลังและอ้อย ครัวเรือนประสบปัญหามีภาวะหนี้สินจากต้นทุนทำเกษตรที่สูง ทั้งค่าแรงและค่าปุ๋ยเคมี เดิมชาวบ้านเคยรวมกลุ่มทำเกษตรปลอดภัย แต่ล้มเลิกไปเพราะขาดแคลนน้ำทำเกษตร ซึ่งปี 2562 ชุมชนดีมีรอยยิ้มขอนแก่นร่วมกับชุมชนจัดตั้งกลุ่มปลูกผักปลอดภัยขึ้นมา เพื่อให้ชาวบ้านเห็นด้วยในการลดต้นทุนทำเกษตร ลดค่าใช้ในครัวเรือน นำมาสู่การจัดแบ่งพื้นที่สาธารณะรอบหนองสุ่มปลูกผักปลอดภัยรวม 3 ไร่ จากนั้นพัฒนามาเป็นกลุ่มวิสาหกิจชุมชนปลูกผักปลอดสารเคมี อ.เขาสวนกวาง วางแผนปลูก จัดหาแหล่งน้ำทำเกษตรเพิ่มเติม

“เราทำเวทีร่วมกับชาวบ้าน ถ้าไม่แก้ปัญหาเรื่องน้ำจะไปต่อไม่ได้ เดิมชาวบ้านรอน้ำฝนจากฟ้าอย่างเดียว นำมาสู่การประสานดึงภาครัฐสนับสนุนน้ำบาดาลโซล่าเซลล์ ปัจจุบันมีน้ำเพียงพอทำเกษตร นอกจากวางแผนปลูกผัก 16 รายการ ยังจัดระบบขนส่งที่มีประสิทธิภาพ ควบคู่กับการพัฒนาตลาด การจัดการออเดอร์ สินค้าส่วนหนึ่งได้มาตรฐานรับรอง GPA ปัจจุบันจำหน่ายให้กับ รพ.ขอนแก่น, โรงเรียน,ร้านอาหาร มีรายได้ 60,000 บาทต่อเดือน ส่วนหน้าหนาวรายได้จะเพิ่มถึงหนึ่งแสนบาทจากการปลูกผักสลัด” นางสาวรังษิยา เผยผลสำเร็จ

จนท.พัฒนาธุรกิจชุมชนอาวุโส กล่าวอีกว่า อนาคตวางแผนจะขยายตลาดค้าปลีกกลุ่มลูกค้าในชุมชนเพื่อสร้างความตระหนักบริโภคพืชผักปลอดภัยเพื่อสุขภาพ รวมถึงหากสมาชิกกลุ่มเพิ่มขึ้น ผลผลิตมากขึ้นจะวางเป้าหมายร่วมกันยกระดับขยายตลาดสู่ห้างค้าปลีกและค้าส่งในพื้นที่ต่อไป รวมถึงจะต้องสร้างโรงคัดแยกผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐาน ปัจจุบันกลุ่มวิสาหกิจฯ มีสมาชิกฯ 63 คน จากช่วงเริ่มต้นมี 12 คน มีการขยายผล ขยายเครือข่าย พื้นที่ปลูกเพิ่มขึ้นจากกลุ่มปลูกผักปลอดสารตำบลคำม่วง และบ้านห้วยยางศรีวิไล ชาวบ้านเข้าร่วมกลุ่มเพิ่มเติม เพราะเห็นโอกาสในการสร้างรายได้ ลดต้นทุนชีวิต

ส่วนการปลูกหม่อนเลี้ยงไหมเพื่อให้คนในชุมชนมีรายได้มากขึ้น เดิมชุมชนจัดตั้งวิสาหกิจชุมชนทอผ้าไหมครบวงจรบ้านดงบัง ม.4 ผลิตสินค้าผ้าทอเป็นลวดลายดั้งเดิมของท้องถิ่น ผลิตภัณฑ์ขายได้เฉพาะในชุมชน ซึ่งใน จ.ขอนแก่น มีชุมชนจำนวนมากทอผ้าไหมขายอยู่แล้ว ชุมชนดีมีรอยยิ้มขอนแก่นช่วยวางแผนพัฒนาชุมชนปลูกหม่อนเลี้ยงไหมทอผ้านำมาสู่การปรับเปลี่ยนทิศทางสู่การปลูกหม่อนเลี้ยงไหมขาย ซึ่งจะสร้างรายได้ให้กับชุมชนอย่างต่อเนื่อง
“วันนี้เกิดแปลงปลูกหม่อนเลี้ยงไหมรวมพื้นที่กว่า 10 ไร่ ซึ่งชาวบ้านปลูกและใช้ประโยชน์ร่วมกัน บริหารจัดการเป็นระบบ การผลิตเส้นไหมดงบังทำด้วยมือทุกขั้นตอน เกิดเส้นไหมคุณภาพ มีความแข็งแรงมากกว่าเส้นไหมโรงงาน เป็นที่ต้องการของกลุ่มช่างทอ เราช่วยส่งเสริมช่องทางการตลาดของกลุ่ม โดยจัดส่งเส้นไหมเป็นวัตถุดิบให้ชุมชนดีมีรอยยิ้มที่ทำผลิตภัณฑ์ผ้าทอในรูปแบบต่างๆ และโครงการประชารัฐทั่วทุกภูมิภาค เกษตรกรมีรายได้ประมาณ 8,000-10,000 บาทต่อเดือนต่อคน ปัจจุบันมีสมาชิกกลุ่มฯ 74 คน ในจำนวนนี้ 24 คน ยึดปลูกหม่อนเป็นอาชีพหลัก” นางสาวรังษิยา กล่าว

นอกจากนี้ เพื่อสร้างศักยภาพของกลุ่มปลูกหม่อนเลี้ยงไหมให้เข้มแข็งขึ้น เหล่าจิตอาสาไทยเบฟกว่า 100 คนร่วมกันสร้างโรงเรือนกลุ่ม มีการวางแผนรอบการผลิต วางแผนการตลาดอย่างเป็นระบบตามวิถีชุมชนที่เข้มแข็ง ส่วนแนวทางการพัฒนาในอนาคตชุมชนดีมีรอยยิ้มขอนแก่นจะร่วมกับชุมชนพัฒนาระบบน้ำในพื้นที่แปลงรวมเพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนน้ำทำเกษตร ปัจจุบันได้ยื่นขอรับการสนับสนุนโครงการบ่อบาดาลพลังงานแสงอาทิตย์กับหน่วยงานรัฐ หากผ่านการพิจารณา มีน้ำใช้เพียงพอ จะทำให้ชุมชนมีผลผลิตตลอดทั้งปี หนุนการพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน
ภายในชุมชนมีวิสาหกิจชุมชนแปรรูปข้าวครบวงจรบ้านดงบัง ชุมชนดีมีรอยยิ้มร่วมแนะนำและพัฒนาต่อยอดแปรรูปข้าวบรรจุถุงภายใต้แบรนด์ “ข้าวหอมมะลิดงบัง” จากเดิมมีโรงสีชุมชนบริการสีข้าวเพียงอย่างเดียว ทุกวันนี้การจำหน่ายผลิตภัณฑ์ข้าวหอมมะลิถือเป็นธุรกิจหลัก สร้างรายได้ให้ชุมชน มีการบริหารจัดการต้นทุน กำไร นำมาพัฒนาสาธารณประโยชน์ภายในชุมชน ซ่อมแซมถนน ปรับปรุงวัดโรงเรียน ขั้นตอนต่อไปมีแผนพัฒนาผลิตข้าวกล้องโดยเชื่อมโยงกับชุมชนข้างเคียง ซึ่งจะขับเคลื่อนแผนพัฒนาต่อด้านช่องทางการตลาดของกลุ่ม ส่งเสริมกลุ่มวิสาหกิจแปรรูปข้าวออกบูธหน่วยงานต่างๆ เพื่อสร้างการรับรู้ผลิตภัณฑ์ชุมชนในวงกว้าง

นอกจากนี้ มีการพัฒนาและปรับปรุงร้านค้าชุมชนให้ทันสมัยร่วมกับชุมชนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน จัดระบบการซื้อ-ขายใหม่ นำระบบบาร์โค้ดมาใช้ครั้งแรก ซึ่งจะจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค และผลิตภัณฑ์จากกลุ่มต่างๆ มาจำหน่ายในร้าน รายได้จะเข้ากองทุน สมาชิกจะได้รับเงินปันผล คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ภายในเดือนตุลาคมนี้
การเติบโตของชุมชนบ้านดงบัง เจ้าหน้าที่พัฒนาธุรกิจชุมชนอาวุโส ไทยเบฟ เน้นย้ำว่า เกิดจากความร่วมไม้ร่วมมือของคนในชุมชนอย่างแท้จริง กลุ่มต่างๆ ที่เกิดขึ้นล้วนมีโครงสร้างการบริหารจัดการอย่างชัดเจน สมาชิกรู้หน้าที่ของตนเอง ใส่ใจและเต็มที่กับทุกการทำงานเพื่อพัฒนาชุมชน พัฒนามาตรฐานสินค้าผลิตภัณฑ์ชุมชน พัฒนาตัวเองตลอดเวลา ส่งผลให้ธุรกิจชุมชนเดินต่อไปได้ สร้างเศรษฐกิจชุมชนให้เข้มแข็ง
บ้านดงบังถือเป็นโมเดลชุมชนต้นแบบการพัฒนาอย่างยั่งยืนและเป็นแหล่งเรียนรู้การเกษตรและแปรรูปผลิตภัณฑ์จากชุมชนที่ประสบความสำเร็จ ทั้งยังเป็นศูนย์กลางถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านปลูกผักปลอดภัย ปลูกหม่อนเลี้ยงไหมและการทอผ้าให้แก่ชุมชนอื่นๆ และตั้งใจสืบสาน ต่อยอด อาชีพเกษตรกรให้อยู่คู่กับชุมชนอีสานและประเทศไทยตลอดไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'ไทยเบฟ'หนุนช้างศึกชิงเจ้าอาเซียน เปิด'อะคาเดมี่'เป็นสนามซ้อม ตั้งเป้าคว้าทองซีเกมส์2025
บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) หรือ “ไทยเบฟ” ผู้สนับสนุนหลักวงการฟุตบอลไทยมากว่า 25 ปี มุ่งมั่นสร้างรากฐานความยั่งยืนของกีฬาในทุกมิติ ตั้งแต่ระดับเยาวชน ผ่านโครงการต่างๆ พร้อมถ่ายทอดแนวคิด Sportsmanship เพราะ มากกว่ากีฬา คือ น้ำใจนักกีฬา พร้อมส่งทัพช้างศึกฟุตบอลทีมชาติไทยชุด U-23 และสนับสนุนสนามซ้อม “ไทยเบฟ ฟุตบอล อะคาเดมี่” ตั้งเป้าทวงบัลลังก์แชมป์ในการแข่งขันมหกรรมกีฬา “ซีเกมส์” ครั้งที่ 33 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ โดย “ไทยเบฟ” ร่วมผลักดันและพัฒนาวงการกีฬาของไทยบนเวทีนานาชาติ ในฐานะ Official Bronze Sponsor
"ไทยเบฟ" ได้รับรางวัลในสาขาความเป็นเลิศด้านผู้นำ และความเป็นเลิศด้านการพัฒนาที่ยั่งยืน จากเวที TMA Excellence Awards 2025
บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ได้รับรางวัลระดับ Distinguished สาขาความเป็นเลิศด้านผู้นำ (Leadership Excellence Award) และ สาขาความเป็นเลิศด้านการพัฒนาที่ยั่งยืน
“ผ้าห่มผืนเขียว” สัญลักษณ์ของรอยยิ้ม และความอบอุ่น สู่สังคมแห่งการ “ให้” ที่ยั่งยืน
ส่งท้ายการเดินทางของคาราวาน “ผ้าห่มผืนเขียว” โครงการ “ไทยเบฟ...รวมใจต้านภัยหนาว” ปีที่ 26 ที่ได้ออกเดินทางส่งมอบรอยยิ้ม และความอบอุ่นครอบคลุมพื้นที่ 15
ไทยเบฟ ระดมจัดส่งน้ำดื่ม และสิ่งของจำเป็น ช่วยเหลือผู้ประสบมหาอุทกภัย อย่างต่อเนื่อง
บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) (“ไทยเบฟ”) ร่วมส่งน้ำใจช่วยเหลือผู้ประสบมหาอุทกภัยอย่างต่อเนื่อง โดยผสานความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐและเครือข่ายในจังหวัดต่าง ๆ เพื่อเร่งระดมความช่วยเหลือ และบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ
มรดก 2 พันล้านเดือด! ลูกชายตระกูล 'ทองแท่งไทย' แจ้งจับหมอ-อัยการ-ทนาย
ครอบครัวทองแท่งไทยเปิดศึกเดือด ระบุขั้นตอนทำพินัยกรรมของนักธุรกิจผู้ล่วงลับ อ้างมีหลายจุดน่าสงสัย ทั้งเอกสารแพทย์และสถานที่จัดทำ ก่อนลูกชายคนโตพาทนายเข้าแจ้งความเมืองขอนแก่น พร้อมยื่นศาลขอให้พินัยกรรมเป็นโมฆะและร่วมจัดการมรดก
บุรีรัมย์บุกธนบุรี/กาญจน์ไปขอนแก่น 'เมืองไทยคัพ'รอบ32ทีม เตะ27-28ธ.ค.นี้
วันที่ 28 พฤศจิกายน 2568 เวลา 14.00 น. ณ. ห้องประชุมเมืองไทยประกันภัย อาคารเมืองไทยภัทร คอมเพล็กซ์ “Tower A” ชั้น 14 สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ จัดพิธีจับสลากประกบคู่การแข่งขันฟุตบอล เมืองไทย คัพ ฤดูกาล 2025/26 รอบ 32 ทีม


