
9 ม.ค. 2566 – ความคืบหน้ากรณีนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ “ทนายตั้ม” เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ โพสต์ภาพชายหญิงคู่หนึ่งลงเพจเฟซบุ๊ก “ษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ” พร้อมระบุว่ามีชายรายหนึ่งมาขอความช่วยเหลือ หลังพบว่าภรรยาเป็นชู้กับอดีตรองนายกรัฐมนตรี ทำให้สังคมต่างวิพากษ์วิจารณ์ว่าอดีตรองนายกฯ ผู้นี้เป็นใครนั้น
ล่าสุด ช่วงสายวันนี้ นายษิทรา แถลงว่า เรื่องนี้ไม่ได้เกิดขึ้นมานานเป็นปีอย่างที่มีนักการเมืองบางท่านให้สัมภาษณ์ เหตุเกิดเมื่อเดือน ธ.ค. 65 คุณ ก. มีภรรยา จดทะเบียนสมรสกัน โดยภรรยาทำงานที่โรงแรม 5 ดาวแห่งหนึ่ง ซึ่งภายหลังมีท่าทีเปลี่ยนไป ก่อนไปเปิดโทรศัพท์ดู กระทั่งเจอข้อความในไลน์ และอะไรอีกหลายอย่างกับผู้ชายอีกคน รวมถึงภาพลับของทั้งคู่ ทำให้ช็อก และเมื่อรู้ว่าชายอีกคนเป็นใครก็ตกใจกว่า เพราะเป็นถึงอดีตรองนายกฯ
ซึ่งหากดูจากรูปย้อนหลัง เหตุนี้น่าจะเกิดตั้งแต่ ต.ค. 65 คุณ ก. จึงมาหาผม ว่าจะทำอะไรได้บ้าง เพราะภรรยาไม่ยอมหย่า ผมจึงแนะนำว่าฟ้องหย่าได้ พร้อมกับอธิบายข้อกฎหมายเพิ่มเติมว่า เคสนี้ไม่ใช่คดีอาญา แต่เป็นเรื่องทางแพ่งที่ใครมายุ่งกับภรรยาของเราที่จดทะเบียนสมรส เราสามารถฟ้องชู้สาว เรียกค่าทดแทนจากภรรยา และคนที่เป็นชู้ รวมถึงฟ้องหย่าได้ จากนั้นก็มีการว่าจ้างกันเป็นทนายความ ผมก็ฟ้องให้แล้ว ในช่วงปลายปีที่ผ่านมา โดยฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหาย รวมถึงฟ้องหย่าด้วย
ทนายตั้ม กล่าวว่า ตอนแรกก็ไม่ได้คิดว่าจะเอาเรื่องที่มาเป็นข่าว แต่เมื่อคุณ ก. ทำการฟ้องแล้ว กลับถูกระรานโดยชายฉกรรจ์ที่ตามมาที่คอนโดฯ นอกจากนั้นเมื่ออดีตรองนายกฯ ท่านนี้ทราบเรื่องแล้ว ก็พยายามที่จะตีตัวออกห่างภรรยา คุณ ก. รวมถึงทวงสิ่งของต่างๆ คืน แม้จะเป็นการให้โดยเสน่หา แต่สุดท้ายก็มีการไปแจ้งความว่า ภรรยา คุณ ก. ยักยอกไป จากนั้นก็มีเหตุให้ไปโรงพักกัน ปรากฏว่าตำรวจมีการแจ้งกับอดีตรองนายกฯ ทำให้มีการนำชายฉกรรจ์มาล้อมที่โรงพัก ทำให้คุณ ก. รู้สึกไม่ปลอดภัย
โดยเรื่องนี้ผมได้ร้องเรียนไปที่ รอง ผบ.ตร. แล้วด้วย ทำให้คุณ ก. อยากให้เรื่องนี้เผยแพร่ต่อสื่อฯ เนื่องจากว่า หากเขาเป็นอะไรขึ้นมา จะได้รู้ว่าใครเป็นคนทำ เพราะเขาไม่มีศัตรูคนอื่น อีกทั้งคนนี้เป็นถึงอดีตรองนายกฯ ควรมีจริยธรรม ไม่ควรมายุ่งกับคนที่มีสามีแล้ว แต่ที่บอกชื่อไปตรงๆ ไม่ได้ รวมถึงไม่ไปเอ่ยถึงพรรค หรืออยู่ในนายกฯ สมัยไหน เพราะเราก็ต้องเซฟตัวเองด้วย
นอกจากนี้ อดีตรองนายกฯ คนนี้ เกี่ยวข้องกับกระทรวงมหาดไทย แต่จะเกี่ยวข้องยังไงก็ต้องไปทำการบ้านกันต่อด้วย และชอบตีกอล์ฟ รวมถึงไม่มียศทางตำรวจ อายุมากแล้ว ส่วนอักษรย่อ “ย.” ก็แปลความหมายได้หลายอย่าง
“เรื่องนี้มันละเอียดอ่อน มองได้สองมุมว่าเป็นเรื่องส่วนตัว ชู้สาว แต่อีกมุมหนึ่งคือเป็นถึงอดีตรองนายกฯ แต่อีก 1-2 เดือนจะขึ้นศาลแล้ว ก็เปิดเผยได้ว่าผมไปขึ้นศาลกับใคร ซึ่งลูกความผมมีหลักฐานชัดเจน ไม่ว่าเขาจะออกมาโกหกอย่างไร ก็ดูเป็นคนไม่น่าเชื่อถือแล้ว แต่คนคนนี้ไม่เกี่ยวข้องกับพรรคเพื่อไทยมาตั้งแต่ปี 2561 แล้ว และเรื่องนี้เกิดขึ้น หลังจากที่ออกจากพรรคเพื่อไทยมาแล้ว ซึ่งตอนนี้ก็ไม่มีตำแหน่งทางการเมือง รวมถึงไม่เกี่ยวข้องกับพรรคการเมืองแล้วด้วย และหลังจากเกิดเรื่องนี้ ไม่ได้มีพรรคการเมืองไหนติดต่อมาทางผม” ทนายตั้ม ระบุ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
หยิกเล็บเจ็บเนื้อ! 'ภท.-พท.' โต้เดือดพัวพัน 'เบน สมิธ'
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า กรณีเบน สมิธ : ภูมิใจไทย-เพื่อไทย หยิกเล็บเจ็บเนื้อ
เพื่อไทยกระอัก! 'อนุทิน' ย้อนเจ็บ มีภาพคู่ทักษิณเยอะ ไม่เห็นมีปัญหา
"อนุทิน" เหน็บ "สุริยะ-โฆษกเพื่อไทย" ไม่รู้เรื่องอะไรเพราะไม่ได้ร่วมวง การสนทนาสำหรับผมต้องระดับสูงขึ้นไป ย้อนเจ็บภาพถ่ายคู่ทักษิณก็มีตั้งเยอะ ไม่เห็นมีปัญหาอะไรเลย
โฆษกภูมิใจไทย โต้เดือด โทรโข่งเพื่อไทยแกล้งตาบอด ไม่เห็นภาพทักษิณกับเบน สมิธ
โฆษกภูมิใจไทย สวนโฆษกเพื่อไทย อย่าแกล้งตาบอด ปีนี้ใครถ่ายรูปกับ "เบน สมิธ" ยัน "อนุทิน" แค่รู้จักแต่ไม่สนิท ผลงานประจักษ์ยึดทรัพย์หมื่นล้านสแกมเมอร์รายใหญ่ บีบพ้น มท.1 เหตุไม่ให้สัญชาติใครหรือไม่ เย้ย 4 เดือนใครบริหารน้ำท่วมเหลว ขณะที่ "2 เดือน" นายกฯอนุทิน" เข้ามาแก้วิกฤติ
เพื่อไทย เปิดตัว 'อดีตปลัด ก.เกษตร' ลงสนามชนบ้านใหญ่ 'ศิลปอาชา'
พท.เปิดตัว “ประยูร อินสกุล” อดีตปลัด ก.เกษตรฯ ลงสนามชนบ้านใหญ่ “ศิลปอาชา” ไม่ฟันจะปักธงเมืองสุพรรณได้หรือไม่ ชี้ขึ้นกับ ปชช. อ้อนกาเพื่อไทยทั้งคนทั้งพรรค
'เทพไท' ชี้ 5 ปัจจัยทำเพื่อไทยยึกยักสางแค้นซักฟอกรัฐบาล
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์คลิปพร้อมเนื้อหา
ลูกพรรครอเก้อ! 'ทวี' ชิ่งประชุมสรรหาผู้สมัคร สส. พบโผล่หาดใหญ่กับคณะเพื่อไทย
พรรคประชาชาติได้จัดประชุมคณะกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร โดยที่ประชุมได้เห็นชอบส่งผู้สมัครเฉพาะใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้รวม 13 เขต มี 7 ส.ส. ในนามพรรคยังคงเป็นผู้สมัครในนามพรรค และรายชื่อทั้งหมดจะนำเข้าสู่การพิจารณาของ


