บทสรุปแห่งความหวัง พลังใจเดียวกัน

ปี 2565 ผ่านพ้นไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เรียกได้ว่ามีหลากหลายเหตุการณ์ที่ทุกคนร่วมฝ่าฟันข้ามผ่านกันมา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสถานการณ์โควิด-19 ที่ดุเดือดทุกช่วงเวลา จนส่งผลกระทบต่อสภาพเศรษฐกิจทั่วโลกอย่างยาวนาน อย่างไรก็ตามโชคดีที่มีหลายหน่วยงานเข้าช่วยเหลือ หนึ่งในนั้นคือบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ที่เข้าสนับสนุนอย่างทันท่วงที

วันนี้เรามาลองย้อนเรื่องราวต่างๆ ตลอดปี 2565 ผ่านภาพยนตร์โฆษณาที่ ปตท. ได้จัดทำออกมากันเถอะ

เริ่มกันที่การจัดตั้ง “โครงการลมหายใจเดียวกัน” เพื่อสนับสนุนการแก้ปัญหาวิกฤตโควิด-19 ของประเทศ ร่วมเป็นพลังต่อลมหายใจของประชาชนให้เดินหน้าต่อไป พร้อมแบ่งเบาภาระของภาครัฐอย่างเต็มที่ โดยการสนับสนุนบุคลากรทางการแพทย์​ ทั้งในแง่อุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จำเป็น ทั้งการร่วมสร้างโรงพยาบาลสนาม ทั้งการอุทิศแรงกายแรงใจของชาว ปตท. ทุกคนที่ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการรักษาบ้านที่เรารักนี้ ซึ่งสะท้อนผ่านบทเพลงลมหายใจเดียวกัน ประพันธ์คำร้องโดย บอยด์​ โกสิยพงษ์ นภ พรชำนิ และ Bowkylion ที่ต้องการส่งกำลังใจให้ความหวัง และสื่อว่าไม่อย่างไร ปตท. ก็จะอยู่คู่คนไทยเสมอดังเนื้อร้องท่อนที่ว่า

...จะไม่ยอมหมดความหวัง
จะไม่ยอมเดินกลับหลัง
จะก้าวต่อไป เพื่อประเทศไทยที่เรารัก
จะก้าวต่อไป ด้วยลมหายใจเดียวกัน...

เมื่อสถานการณ์โควิด-19 เริ่มคลี่คลายจากวิกฤตทางด้านสาธารณสุข สิ่งที่ปรากฏก็คือสภาพเศรษฐกิจที่บอบช้ำจากสถานการณ์ดังกล่าว ก่อให้เกิดผลที่ตามมาคือเยาวชนจำนวนมากต้องหลุดจากระบบการศึกษา เพราะขาดแคลนทุนทรัพย์จากผลกระทบด้านเศรษฐกิจที่เกิดกับผู้ปกครอง ปตท. ซึ่งให้ความสำคัญกับระบบการศึกษาและเล็งเห็นถึงปัญหาต่อเนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ดังกล่าว จึงตั้งเป้าหมายมอบทุนการศึกษาให้แก่เยาวชนที่ครอบครัวมีรายได้น้อยและที่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจ ผ่านกิจกรรม “PTT Virtual Run ลมหายใจเพื่อน้อง” ที่ชักชวนคนไทยวิ่งเก็บระยะทางทุก 1 กิโลเมตร จะมีมูลค่าเท่ากับ 250 บาท และ 10 กิโลเมตร จะมีมูลค่าเป็นทุนการศึกษาจำนวน 2,500 บาท ที่สามารถพาน้องกลับโรงเรียนได้ 1 คน

ซึ่งในการนี้ ปตท. ก็ได้ร่วมสร้างโอกาสทางการศึกษาครั้งใหม่ให้กับเยาวชนของชาติคืนเด็กกว่า 60,000 คนกลับสู่ระบบการศึกษา รวมมูลค่า 171 ล้านบาท

ต่อมาเมื่อสถานการณ์คุกคามของโลกเปลี่ยนจากความมั่นคงทางสาธารณสุข มาสู่ความมั่นคงทางพลังงาน ความมุ่งมั่นของ ปตท. ในฐานะการเป็นผู้นำด้านพลังงานของประเทศ ก็ไม่รั้งรอที่จะกระตุ้นสำนึกให้คนไทยได้เตรียมตัวรับมือกับวิกฤตด้านพลังงานที่กำลังปรากฏอยู่ทั่วโลก จึงเกิดเป็นโฆษณาภายใต้แคมเปญ “ทราบแล้วเปลี่ยน” ที่ดูเพลินเพราะสื่อสารประเด็นเรื่องการประหยัดพลังงานไฟฟ้า และการประหยัดน้ำมันผ่านตัวละครผี และแม่ย่านาง ซึ่งเป็นเรื่องที่คุ้นเคยกันดีในสังคมไทย ทำให้โฆษณาชิ้นนี้เข้าถึงผู้ชมได้มากยิ่งขึ้น โดยทั้ง 2 ตัวละครได้มาแนะนำเคล็ดลับประหยัดพลังงานที่เรียกว่า 4 ป. 3 ช. ซึ่งเป็นการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้พลังงานที่ทุกคนสามารถทำตามได้ง่ายๆ แต่จะช่วยประหยัดพลังงานได้อย่างมหาศาล โดย 4 ป. ได้แก่ ปิดไฟ ปรับแอร์ ปลดปลั๊ก เปลี่ยนเป็นเบอร์ 5 และ 3 ช. ได้แก่ เช็ครถ ชัวร์เส้นทาง ใช้รถสาธารณะ

และในช่วงปลายปีที่ประเทศไทยได้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสุดยอดผู้นำเอเชียและแปซิฟิค อันนำไปสู่การรับรองเป้าหมายกรุงเทพฯ ว่าด้วยเศรษฐกิจ BCG (Bangkok goals on BCG Economy) ซึ่งเป็นการพัฒนาเศรษฐกิจที่ไม่ได้มุ่งเน้นเพียงการพัฒนาเศรษฐกิจเท่านั้น แต่ต้องพัฒนาควบคู่ไปกับการพัฒนาสังคมและการรักษาสิ่งแวดล้อมได้อย่างสมดุลให้เกิดความมั่นคงและยั่งยืนไปพร้อมกัน เนื่องจากโลกของเรานั้นเกิดปรากฏการณ์เรือนกระจกที่ทำให้โลกร้อนขึ้นกว่าที่เคยเป็นมา ประเทศไทยเองติดอันดับ 9 เสี่ยงสูงจากสภาพอากาศแปรปรวน วิกฤตมันเร่ง เราจึงต้องรีบแก้ให้เร็ว ปตท. ในฐานะบริษัทพลังงานแห่งชาติได้ขานรับนโยบายภาครัฐ เกิดเป็นโครงการ PTT Net Zero เพื่อโลกที่ยั่งยืน โดยเร่งปรับกระบวนการผลิต ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก​ เร่งเปลี่ยนสู่ธุรกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เร่งปลูกป่าเพื่อดูดซับก๊าซเรือนกระจก เพื่อเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็น 0 ในปี 2050

จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในโลกในปีที่ผ่านมา ทั้งด้านสาธารณสุข เศรษฐกิจ พลังงาน และสิ่งแวดล้อม จากโครงการ “ลมหายใจเดียวกัน” มาสู่ “PTT virtual run ลมหายใจเพื่อน้อง” มาจนถึง “ทราบแล้วเปลี่ยน” และ “PTT Net Zero”  จะเห็นได้ว่า ปตท. ร่วมเผชิญและเป็นกำลังสำคัญของคนไทยในการรับมือกับวิกฤตการณ์ต่างๆ มาโดยตลอด เป็นฟันเฟืองสนับสนุนนโยบายรัฐบาลขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติ สร้างคุณค่าต่อสังคมไทยและประเทศอย่างยั่งยืนต่อไป

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

กลุ่ม ปตท. ผนึกพลังจงรักภักดี จัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567

วันนี้ (25 กรกฎาคม 2567) - ดร.คงกระพัน อินทรแจ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) พร้อมด้วย คณะผู้บริหาร และพนักงานกลุ่ม ปตท.

‘เอนโก้’ ลั่นครบรอบ 20 ปี พร้อมลุยงานเต็มที่ตั้งเป้าดันกำไรโต

นายศิรศักดิ์ จันเทรมะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอนเนอร์ยี่ คอมเพล็กซ์ จำกัด หรือ เอนโก้ เปิดเผยว่าในปีนี้ เอนโก้ ผู้นำด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์

ปตท. ขอเชิญร่วมงาน “ลำนำนที วารีสมโภช” เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567

จัดเต็มกิจกรรมสุด Exclusive ณ สวนสันติชัยปราการ (ป้อมพระสุเมรุ) ถนนพระอาทิตย์ กรุงเทพฯ ระหว่างวันที่ 26 – 28 กรกฎาคม 2567

ขอเชิญชวนเยาวชนและบุคคลทั่วไปร่วมส่งผลงานประเภทประติมากรรมสื่อผสมจากวัสดุเหลือใช้ ในหัวข้อ ‘ชลวิถี นทีพัฒน์’

ขอเชิญชวนเยาวชนและบุคคลทั่วไป อายุ 18 ปีขึ้นไป ร่วมส่งผลงานประเภทประติมากรรมสื่อผสมจากวัสดุเหลือใช้ เข้าประกวดในหัวข้อ ‘ชลวิถี นทีพัฒน์’

ปตท. คว้าอันดับ 1 บริษัทชั้นนำในไทยและอันดับ 2 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จากนิตยสารฟอร์จูน สะท้อนผลการดำเนินงานและความสำเร็จที่เป็นเลิศในระดับสากล

ดร.คงกระพัน อินทรแจ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) กล่าวว่า ปตท. ได้รับการจัดอันดับให้เป็นบริษัทชั้นนำอันดับหนึ่งของประเทศไทย และเป็นอันดับที่ 2 ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

OR หนุน3สมาคมกีฬาฯ 4ปีรวม60ล้านบาท มุ่งพัฒนานักกีฬาไทยสู่สากล

ผศ. พิมล ศรีวิกรม์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี และประธานอนุกรรมการพิจารณาจัดการสนับสนุนสมาคมกีฬาจากหน่วยงานรัฐวิสาหกิจและภาคเอกชน รับมอบเงินจำนวน 60 ล้านบาท สนับสนุน 4 ปีต่อเนื่อง (ปี 2567 - 2570) จาก นายดิษทัต ปันยารชุน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) (OR) เพื่อสนับสนุนงบประมาณให้แก่สมาคมกีฬาแห่งประเทศไทย 3 สมาคม ได้แก่ สมาคมกีฬารักบี้ฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ สมาคมกีฬาสควอชแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ และสมาคมกีฬาคนพิการทางสมองแห่งประเทศไทย