อบต.เฮลั่น! นายกฯ ประกาศเพิ่มค่าตอบแทน-สวัสดิการ ต้องเร่งทำให้เสร็จ

อบต.เฮลั่น! ‘บิ๊กตู่’ ประกาศเพิ่มเงินตอบแทน พร้อมยกสถานะเป็นเทศบาล ยันไม่ได้มาหาเสียง แต่ต้องรีบทำให้เสร็จ ชี้ไม่รู้วันข้างหน้าอะไรจะเกิดขึ้น การันตีไม่ยุบท้องถิ่นแน่

2 มี.ค.2566 - เวลา 10.40 น. ที่หอประชุมมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี (ศูนย์สามพร้าว) ต.สามพร้าว อ.เมืองอุดรธานี จ.อุดรธานี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวปาฐกถา “ท้องถิ่นต้องไปต่อ” และทำพิธีเปิดโครงการสัมมนา “บทบาทท้องถิ่นไทยกับการกระจายอำนาจเพื่อการไปต่ออย่างยั่งยืน” ว่า ขอบคุณมากทุกคนที่ได้มาเจอกันในวันนี้จากหลายภูมิภาคด้วยกัน เป็นโอกาสสำคัญที่มาพบกัน เพราะเราต้องทำงานร่วมกัน เข้ามาตอนแรกตื่นเต้นเหมือนกันเพราะเห็นคนเยอะ ซึ่งเป็นผู้บริหารจากหลายภาคส่วน ดีใจที่ได้มาเจอถือว่าได้มีโอกาสพูดกับประชาชนทั้ง 70 ล้านคน ตนถือว่าสิ่งที่กำหนดไว้ในวันนี้ นั่นคือความสำคัญของการบริหารราชการแผ่นดิน ทำอย่างไรจะเดินไปข้างหน้าเพื่อให้ประชาชนได้รับประโยชน์สูงสุด

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้เป็นการเปิดโครงการที่สำคัญที่สุดในลำดับต้นๆ ให้ความสำคัญเสมอมา ผู้บริหารอบต.ทั่วประเทศทุกท่านที่ดูแลเป็นอย่างดีในการแก้ไขปัญหาพื้นที่ นายกฯขอวันนี้พูดในนามนายกฯได้ใช่ไหม พูดบนเวทีมันยากเหลือเกิน วันนี้ถือว่ามาขอบคุณและภาคภูมิใจกับพวกเราซึ่งต้องร่วมมือกันแบบนี้ ซึ่งไม่รู้ว่าจะเผชิญกับอะไรอีกในโลกใบนี้เพราะโลกเปลี่ยนแปลงไปด้วยเทคโนโลยีดิจิตอลต่างๆ การทำหน้าที่ถือเป็นการสะท้อนปัญหาอย่างชัดเจน แม้ตนจะอยู่ในระดับบนแต่ก็ดูระดับล่างด้วย มีความสัมพันธ์กับท้องถิ่น

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ที่จังหวัดอุดรธานีมาหลายครั้ง ดีใจชื่นใจทุกครั้งที่ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นเสมอมา ตนพยายามจะขับเคลื่อนประเทศไปในลักษณะนี้เพื่อลดปัญหาอุปสรรคความขัดแย้งทั้งส่วนกลาง ภูมิภาค และท้องถิ่น ทำอย่างไรให้การค้าการขนส่งดีขึ้นเชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้านอาเซียน รถไฟความเร็วสูงไปจีนต่อไปยุโรปไม่ใช่แค่นี้ ซึ่งวันนี้กำลังก่อสร้างอยู่โครงการขนาดใหญ่ทำยากต้องใช้เวลานานขอให้อดทนสักนิด เพราะติดปัญหาเรื่องที่ดินและอีกหลายๆอย่างซึ่งอยู่กับพวกเราจะทำความเข้าใจและความร่วมมือ ทุกอย่างทำได้ มีเงินทำได้ ต้องให้ประชาชนร่วมมือ นั่นคือหลักประชาธิปไตย ทุกคนต้องเข้าใจตรงนี้ ซึ่งตนเข้าใจอย่างที่สุดหลายปีที่ผ่านมาไม่ขัดแย้งกับใครทั้งสิ้น นั่นคือวิธีการแก้ปัญหาให้ได้โดยเร็วเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเสมอภาค พร้อมรับกับการเปลี่ยนแปลง

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ภาคอีสานมีความเจริญเติบโตขึ้นมากในหลายปีที่ผ่านมา ประชาชนจำนวนมากมีสุขภาพจิตที่ดีขึ้นเพราะตนให้แก้ปัญหาลงในครัวเรือนผ่านกำนันผู้ใหญ่บ้าน พบว่าผู้มีรายได้น้อยลดลงเพราะมีอาชีพอื่นเพิ่มขึ้น ซึ่งจะต้องพัฒนาปรับปรุงและเปลี่ยนแปลงให้ทันต่อความทันสมัย และเข้าถึงภาคบริการภาครัฐ นโยบายของรัฐสิ่งเหล่านี้ต้องทำตลอดอย่างต่อเนื่อง ซึ่งต้องใช้เวลาหลายปีในการเตรียมโครงสร้างพื้นฐาน เชื่อว่าทุกจังหวัดมีอะไรดีๆเกิดขึ้นในหลายปีที่ผ่านมา ต่อไปจะสร้างความเจริญเติบโตให้ทุกจังหวัดใกล้เคียงกัน

"ผมไม่อยากให้เรียกรากหญ้าเพราะท่านไม่ใช่รากหญ้า แต่คือฐานรากของประเทศนี้ ผมไม่ได้พูดเอาใจท่าน แต่ผมคิดดูว่าบ้านเมืองของเราหรือประเทศของเรา ทุกคนมีบ้านมีช่อง ซึ่งต้องเริ่มจากฐานราก บ้านท่านมีพื้นมีเสา จนกระทั่งหลังคา ท่านคือผู้ที่จะทำรายได้ให้ประเทศ โดยท้องถิ่นต้องช่วยกันเพื่อแข็งแรงไปด้วยกัน อะไรทำได้ไม่ต้องห่วงผมทำให้อยู่แล้ว การเป็นรัฐบาลและเป็นนายกฯไม่ใช่ง่าย และผมไม่ใช่คนเก่งกาจสามารถคนเดียว ทุกคนช่วยกันทำงานตั้งแต่ท้องถิ่นถึงข้างบนต้องทำสำเร็จวันนี้และสำเร็จมาแล้ว ผมยื่นตรงนี้ผมตื่นเต้น ทั้งกำ นายกทั้งนั้น วันหน้าขอให้มาเป็นนายกฯแบบผมได้ทุกคน ทั้งนี้ผมพร้อมรับทุกเรื่องเพื่อพิจารณาแก้ไขปัญหาในระดับรัฐบาล นโยบายของรัฐบาลคือสนับสนุนให้มีส่วนร่วม ที่ผ่านมาเร่งความเจริญในทุกมิติทุกภูมิภาคไม่ใช่ใครจะอยู่ถึง 20 ปี ไม่ใช่ผมจะอยู่ 20 ปี นายกฯจะอยู่ 20 ปีไม่ใช่ แต่นั่นคือหัวข้อยุทธศาสตร์ซึ่งต้องเดิน 6 ด้านด้วยกัน ซึ่งเป็นแผนแม่บท สามารถปรับเปลี่ยนได้ตลอดเวลา ฉะนั้นการเสนองบประมาณแผนงานต่างๆขึ้นมาเขาจะพิจารณาว่าสอดคล้องกับเป้าหมายตรงไหนในยุทธศาสตร์ 6 ด้าน ไม่ต้องกังวลประเทศไทย ถ้าทำตามยุทธศาสตร์ชาติ ต่างประเทศมั่นใจที่จะมาลงทุน เพราะประเทศไทยเป็นประเทศที่มีศักยภาพจะมาจะไปทำให้ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งไม่มีปัญหา เราควบคุมได้อยู่แล้วอย่าทำผิดกฎหมายก็แล้วกัน อย่าทำเพื่อประโยชน์ของใคร"พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า สิ่งที่ทำบางครั้งไม่เห็น จึงต้องเปิดตาเปิดใจและดูแลประเทศไปด้วยกัน ต้องมองจังหวัดใกล้เคียงและประเทศอื่นว่าเกิดอะไรขึ้น นั่นคือประเทศไทยของเรา ประเทศไทยสว่างไสวที่สุดถ้ามองจากดาวเทียมข้างบนลงมาเพราะมีไฟฟ้า รัฐบาลพยายามจะทำให้ดีที่สุด ครอบครัวคนไทยใครทำอะไรไม่ได้ นี่คือสังคมของเราจะแตกแยกไม่ได้สังคมครอบครัว สังคมส่วนรวม สังคมประเทศชาติแตกไม่ได้อยู่แล้ว มีข่าวบางข่าวตนไม่แน่ใจใครพูดจะยุบท้องถิ่น จะให้เขายุบหรอ จะให้ยุบไหม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างนี้เหล่าอบต.ได้ตอบว่า ไม่ให้ยุบ นายกฯจึงกล่าวอีกว่า ใครพูดตนไม่รู้ การจะให้อะไรก็ตามในฐานะที่เป็นรัฐบาลเป็นนายกฯก็ต้องดูงบประมาณมีแค่ไหน ไม่ใช่ว่าได้เท่าไหร่จ่ายหมดมันไม่ได้ เรารับผิดชอบหนี้ ก่อนหน้านั้นก็มีมาสมควร ไม่ใช่มาเริ่มที่สมัยตน ตนต้องดูมือซ้ายทำอย่างไรเงินจะเพิ่มขึ้น แต่ทางขวาก็ต้องเตรียมความพร้อม นี่คือสิ่งที่ต้องฝากลูกหลานทุกคน สุดท้ายนี้ขอชื่นชมพี่น้องท้องถิ่น ผู้บริหาร อบต.ทั่วประเทศที่เกี่ยวข้อง ช่วยการพัฒนาให้เกิดความเข้มแข็งดีขึ้นเรื่อยๆและทำต่อไป

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เฮ้อ ชักเหนื่อย ถ้าพูดสามารถพูดได้ทั้งวัน โดยระหว่างนี้บรรดาท้องถิ่นได้ปรบมือให้ นายกฯจึงกล่าวอีกว่า รัฐบาลสนับสนุนการกระจายอำนาจ ไม่หวงไว้ เราจะหวงไว้ทำไม แต่ทำอย่างไรถึงจะปลอดภัย วันเดียวกันนี้ตนได้พูดคุยกับคณะกรรมการและกระทรวงมหาดไทย รัฐบาลจะปรับค่าตอบแทนให้กับนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) รองนายกอบต. ประธานสภา และรองประธานสภา สมาชิกสภาอบต. และเลขานุการ ขณะนี้รมว.มหาดไทยกำลังดำเนินการ คาดว่าจะลงนามแล้ว และประกาศในราชกิจจานุเบกษา ในสัปดาห์หน้า ยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่ใช่การหาเสียง เพราะเรื่องนี้ทำขอเรื่องนี้ทำมานานแล้ว แต่บังเอิญทำได้ในช่วงนี้แต่มาที่นี่พอดี นอกจากนี้ รัฐบาลจะยกสถานะอบต. เป็นเทศบาล ขณะนี้ รัฐบาลกำลังทำร่างประมวลกฎหมายท้องถิ่น ตามหลักการของการปกครองท้องถิ่นตามสากลต่อไป ทุกคนจะต้องเรียกตัวเองว่า นายกเทศมนตรี “ โอ้โห ใหญ่โตกันทั้งหมด ถือว่าใหญ่โตวันข้างหน้าก็จะได้เป็นนายกฯจะมายืนอยู่ตรงนี้ โดยพอมาถึงตรงนี้ นายกฯได้ทุบอกตัว พร้อมบอกว่า แต่โจทก์เยอะหน่อย”

นายกฯ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้เรื่องสวัสดิการของนายกฯและรองนายกฯอบต. ประธาน รองประธาน สมาชิกและเลขานุการ รัฐบาลทราบถึงความยากลำบากกำลังพิจารณาถึงสวัสดิการ เช่น ค่ารักษา พยาบาลค่าเลี้ยงดูบุตร กำลังพิจารณาอยู่

“ นี่ไม่ใช่การมาหาเสียง เป็นการมาทำงานตามปกติ แต่ผมจำเป็นจะต้องเร่งรัด ให้แล้วเสร็จให้เร็วๆ เพราะไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น วันข้างหน้าอาจจะมีการปรับเปลี่ยน พัฒนาไปให้ดียิ่งกว่าเดิมก็ได้ ซึ่งเริ่มไปแล้วและทำไปแล้ว วันหน้าก็ทำต่อๆไป ไม่ใช่จะเสนอแต่จะให้ยุบองค์การบริหารส่วนท้องถิ่น มันไม่ได้ พูดมากไป เดี๋ยวมีเรื่องอีก” นายกฯ กล่าว

ด้าน นายวิระศักดิ์ ฮาดดา นายกสมาคมองค์การบริหารส่วนตำบลแห่งประเทศไทย กล่าวรายงานต่อพล.อ.ประยุทธ์ ว่า “ พวกเราพร้อมสนับสนุนให้นายกฯทำงานต่อ เรามาให้กำลังใจนายกฯสานต่องานให้สำเร็จ ขอบคุณที่มาเป็นกำลังใจ

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ปภ. ยืนยันผู้ประสบภัยน้ำท่วมสงขลา ยื่นขอรับเงินเยียวยา 9,000 บาทโดยไม่ใช้เอกสาร

ปภ. ยืนยัน เยียวยาผู้ประสบภัยน้ำท่วมสงขลา 9,000 บาท ยื่นคำร้องโดยไม่ต้องใช้เอกสาร รัฐอำนวยความสะดวก ลดขั้นตอนปฏิบัติ ท้องถิ่นจะใช้ฐานข้อมูลทะเบียนราษฎร์และการยืนยันจากพื้นที่

กกต.ขยับรับสมัครอบต.ใต้เป็น 8-12 ธ.ค. เหตุอุทกภัยกระทบหลายจังหวัด

กกต.ปรับรอบรับสมัครเฉพาะ 5 จังหวัดน้ำท่วม ส่วนจำนวน อบต.ทั่วประเทศลดเหลือ 4,985 แห่งจากการยกฐานะเป็นเทศบาล ต้องแบ่งเขตใหม่ก่อนจัดเลือกตั้งช่วงเมษายน 2569 หลายพื้นที่เปิดรับสมัครวันแรกคึกคัก

'อนุทิน' นำ 'ราชสีห์-สมาชิกราชสกุลดิศกุล' วางพวงมาลา เนื่องในวันดำรงราชานุภาพ

นายกรัฐมนตรี นำราชสีห์ และสมาชิกราชสกุลดิศกุล วางพวงมาลาถวายสักการะพระอนุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ องค์ปฐมเสนาบดีกระทรวงมหาดไทย เนื่องในวันดำรงราชานุภาพ พร้อมมอบรางวัลนายอำเภอแหวนเพชร ปลัดอำเภอแหวนทองคำ ประจำปี 2568

ดร.ณัฏฐ์ ชี้ชัดนิยาม ผู้สมัคร อบต. ต้องนับตั้งแต่ ‘เสนอตัว’ ไม่ใช่วันได้สมัครต่อ กกต.

“ดร.ณัฏฐ์ วงศ์เนียม” ผ่าปมกฎหมายเลือกตั้งท้องถิ่น หลังนักการเมือง อบต.ฮือฮาแจกของช่วยน้ำท่วมหาดใหญ่ ระบุชัด สถานะ ผู้สมัคร เริ่มต้นตั้งแต่วันที่ประกาศตัวลงสนาม ไม่ใช่วันที่ยื่นใบสมัครต่อ กกต. พร้อมเตือ

กกต. ขอเชิญชวนสมัครรับเลือกตั้ง สมาชิกสภา อบต. และนายก อบต. ระหว่างวันที่ 1 - 5 ธันวาคม 2568

สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ขอเชิญชวนผู้ที่สนใจสมัครรับเลือกตั้งสมาชิก สภาองค์การบริหารส่วนตำบลและนายกองค์การบริหารส่วนตำบล ระหว่างวันที่ 1 – 5 ธันวาคม 2568 เวลา 08.30 – 16.30 น. (ไม่เว้นวันหยุดราชการ) ณ สถานที่ที่ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำองค์การบริหารส่วนตำบลกำหนด สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ขอประชาสัมพันธ์ผู้ที่สนใจสมัครรับเลือกตั้งสามารถตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้าม และเตรียมหลักฐานและเอกสารประกอบการ ยื่นใบสมัครรับเลือกตั้ง พร้อมทั้งค่าธรรมเนียมการสมัครรับเลือกตั้ง โดยมีรายละเอียดดังนี้ 1. คุณสมบัติของผู้มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง 1.1 มีสัญชาติไทยโดยการเกิด 1.2 ผู้มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล ต้องมีอายุ ไม่ต่ำกว่า 25 ปีนับถึงวันเลือกตั้ง สำหรับผู้มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นนายกองค์การบริหารส่วนตำบล ต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 35 ปีนับถึงวันเลือกตั้ง 1.3 มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในเขตองค์การบริหารส่วนตำบลที่สมัครรับเลือกตั้ง ในวันสมัครรับเลือกตั้ง เป็นเวลาติดต่อกันไม่น้อยกว่า 1 ปี นับถึงวันสมัครรับเลือกตั้ง 1.4 วุฒิการศึกษา • สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล ไม่ได้กำหนดวุฒิการศึกษา • ผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนตำบล ต้องสำเร็จการศึกษาไม่ต่ำกว่ามัธยมศึกษาตอนปลายหรือเทียบเท่า หรือเคยเป็นสมาชิกสภาตำบล สมาชิกสภาท้องถิ่น ผู้บริหารท้องถิ่น หรือสมาชิกรัฐสภา 2. ลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้ง 2.1 ติดยาเสพติดให้โทษ 2.2 เป็นบุคคลล้มละลายหรือเคยเป็นบุคคลล้มละลายทุจริต 2.3 เป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใด ๆ 2.4 เป็นบุคคลผู้มีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิเลือกตั้งตามพระราชบัญญัติ การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 มาตรา 39 (1) เป็นภิกษุ สามเณร นักพรตหรือนักบวช (2) อยู่ในระหว่างถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งไม่ว่าคดีนั้นจะถึงที่สุดแล้วหรือไม่ หรือ (4) วิกลจริตหรือจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ 2.5 อยู่ระหว่างถูกระงับการใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นการชั่วคราวหรือ ถูกเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง 2.6 ต้องคำพิพากษาให้จำคุกและถูกคุมขังอยู่โดยหมายของศาล 2.7 เคยได้รับโทษจำคุกโดยได้พ้นโทษมายังไม่ถึง 5 ปี นับถึงวันเลือกตั้ง เว้นแต่ ในความผิดอันได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ 2.8 เคยถูกสั่งให้พ้นจากราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจเพราะทุจริต ต่อหน้าที่หรือถือว่ากระทำการทุจริตหรือประพฤติมิชอบในวงราชการ 2.9 เคยต้องคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลอันถึงที่สุดให้ทรัพย์สินตกเป็น ของแผ่นดินเพราะร่ำรวยผิดปกติ หรือเคยต้องคำพิพากษาอันถึงที่สุดให้ลงโทษจำคุกเพราะกระทำความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต 2.10 เคยต้องคำพิพากษาอันถึงที่สุดว่ากระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ หรือต่อตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรม หรือกระทำความผิดตามกฎหมายว่าด้วยความผิดของพนักงาน ในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ หรือความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ที่กระทำโดยทุจริตตามประมวลกฎหมายอาญา ความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน กฎหมายว่าด้วยยาเสพติด ในความผิดฐานเป็นผู้ผลิต นำเข้า ส่งออก หรือผู้ค้า กฎหมายว่าด้วยการพนันในความผิดฐานเป็นเจ้ามือหรือเจ้าสำนัก กฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ หรือกฎหมายว่าด้วย การป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินในความผิดฐานฟอกเงิน 2.11 เคยต้องคำพิพากษาอันถึงที่สุดว่ากระทำการอันเป็นการทุจริตในการเลือกตั้ง 2.12 เป็นข้าราชการซึ่งมีตำแหน่งหรือเงินเดือนประจำ 2.13 เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา สมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่น 2.14 เป็นพนักงานหรือลูกจ้างของหน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือราชการส่วนท้องถิ่น หรือเป็นเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ 2.15 เป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ หรือผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ 2.16 อยู่ในระหว่างต้องห้ามมิให้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง 2.17 เคยพ้นจากตำแหน่งเพราะศาลฎีกาหรือศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีคำพิพากษาว่าเป็นผู้มีพฤติการณ์ร่ำรวยผิดปกติ หรือกระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ หรือจงใจปฏิบัติหน้าที่หรือใช้อำนาจขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญหรือกฎหมาย หรือฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง 2.18 ต้องคำพิพากษาถึงที่สุดว่ากระทำความผิดตามพระราชบัญญัติการเลือกตั้ง สมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 ไม่ว่าจะได้รับโทษหรือไม่ โดยได้พ้นโทษหรือ ต้องคำพิพากษามายังไม่ถึง 5 ปีนับถึงวันเลือกตั้ง แล้วแต่กรณี 2.19 เคยถูกถอดถอนออกจากตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา สมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่น ตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย หรือกฎหมายว่าด้วยการลงคะแนนเสียงเพื่อถอดถอนสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น แล้วแต่กรณี มายังไม่ถึง 5 ปีนับถึงวันเลือกตั้ง 2.20 อยู่ในระหว่างถูกจำกัดสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่น ตามมาตรา 42 แห่งพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 หรือตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2.21 เป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภา หรือเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่นขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเดียวกันหรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอื่น 2.22 เคยพ้นจากตำแหน่งใด ๆ ในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพราะเหตุมี ส่วนได้เสียไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อมในสัญญาหรือกิจการที่กระทำหรือจะกระทำกับหรือให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนั้น หรือมีส่วนได้เสียไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อมในสัญญาหรือกิจการ ที่กระทำกับหรือจะกระทำกับหรือให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอื่น โดยมีพฤติการณ์แสดงให้เห็นว่าเป็นการต่างตอบแทน หรือเอื้อประโยชน์ส่วนตนระหว่างกัน และยังไม่พ้น 5 ปีนับแต่วันที่พ้นจากตำแหน่งจนถึงวันเลือกตั้ง 2.23 เคยถูกสั่งให้พ้นจากตำแหน่งใด ๆ ในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพราะจงใจไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย กฎ ระเบียบของทางราชการ หรือมติคณะรัฐมนตรี อันเป็นเหตุให้เสียหาย แก่ราชการอย่างร้ายแรง และยังไม่พ้น 5 ปีนับแต่วันที่พ้นจากตำแหน่งจนถึงวันเลือกตั้ง 2.24 เคยถูกสั่งให้พ้นจากตำแหน่งใด ๆ ในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพราะทอดทิ้งหรือละเลยไม่ปฏิบัติการตามหน้าที่และอำนาจ หรือปฏิบัติการไม่ชอบด้วยหน้าที่ และอำนาจ หรือประพฤติตนฝ่าฝืนต่อความสงบเรียบร้อยหรือสวัสดิภาพของประชาชน หรือมีความประพฤติในทางที่จะนำมาซึ่งความเสื่อมเสียแก่ศักดิ์ตำแหน่ง หรือแก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หรือแก่ราชการ และยังไม่พ้น 5 ปีนับแต่วันที่พ้นจากตำแหน่งจนถึงวันเลือกตั้ง 2.25 ลักษณะอื่นตามที่กฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งองค์การบริหารส่วนตำบลกำหนด 3. หลักฐานและเอกสารประกอบการยื่นใบสมัครรับเลือกตั้ง ให้ผู้สมัครยื่นใบสมัครต่อผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำองค์การบริหารส่วนตำบลพร้อมทั้งหลักฐานการสมัคร ดังนี้ 3.1 ใบสมัครรับเลือกตั้งตามแบบ ส.ถ./ผ.ถ. 4/1 3.2 รูปถ่ายหน้าตรงไม่สวมหมวก หรือ รูปภาพที่พิมพ์ชัดเจนเหมือนรูปถ่ายของตนเอง ขนาดกว้างประมาณ 8.5 เซนติเมตร ยาวประมาณ 13.5 เซนติเมตร จำนวนตามที่ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำองค์การบริหารส่วนตำบลกำหนด 3.3 สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน 3.4 สำเนาทะเบียนบ้าน 3.5 ใบรับรองแพทย์ 3.6 หลักฐานการศึกษา 3.7 หลักฐานการเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเป็นเวลาติดต่อกัน 3 ปี (2565, 2566, 2567) นับถึงปีที่สมัครรับเลือกตั้ง เว้นแต่เป็นผู้ไม่ได้เสียภาษีเงินได้ ให้ทำหนังสือยืนยัน การไม่ได้เสียภาษี พร้อมทั้งสาเหตุแห่งการไม่ได้เสียภาษีตามแบบ ส.ถ./ผ.ถ. 4/2 4. ค่าธรรมเนียมการสมัครรับเลือกตั้ง 4.1 นายกองค์การบริหารส่วนตำบล 2,500 บาท 4.2 สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล 1,000 บาท ทั้งนี้ ผู้ใดลงสมัครรับเลือกตั้งโดยรู้อยู่แล้วว่าตนเป็นผู้ขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามในการสมัครรับเลือกตั้ง ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1 - 10 ปี และปรับตั้งแต่ 20,000 – 200,000 บาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกำหนด 20 ปี ตามมาตรา 120 แห่งพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 และที่แก้ไขเพิ่มเติม สามารถติดตามข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหาร ส่วนตำบลและนายกองค์การบริหารส่วนตำบลได้ทางเว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง www.ect.go.th หรือ Application Smart Vote หรือสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ประจำจังหวัดทุกจังหวัด หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่บริการสายด่วน 1444

“รองโฆษกรัฐบาล“ นำคณะลงพื้นที่กระบี่ ติดตามความสำเร็จชุมชนท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ - ถ่ายทอดภูมิปัญญาท้องถิ่น

ที่จังหวัดกระบี่ น.ส.ศศิธร กิตติธรกุล รมช.มหาดไทย พร้อมด้วย น.ส.อัยรินทร์ พันธุ์ฤทธิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นำคณะลงพื้นที่ จ.กระบี่ โดยนายสมศักดิ์ กิตติธรกุล หรือ “โกหงวน” นายก อบจ.กระบี่ และนายกิตติ กิตติธรกุล สส.กระบี่