25 มี.ค.2566 - เมื่อเวลา 10.00 น. ที่อาคารเดอะพอร์ทอล ไลฟ์สไตล์ คอมแพล็กซ์ อิมแพค เมืองทองธานี ในการสัมมนาผู้สมัครส.ส.400 เขต และประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2566 ของพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) โดยมีว่าที่ผู้สมัครส.ส.และแกนนำพรรคเข้าร่วมอย่างพร้อมเพียง
นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวเปิดสัมมนา ว่าถือเป็นครั้งแรกที่ได้จัดกิจกรรมร่วมกับสมาชิกพรรคที่พร้อมจะลงเลือกตั้ง ซึ่งจะนำชัยชนะมาให้คนไทย ยืนยันว่าที่ทำพรรครวมไทยสร้างชาติขึ้นมาตั้งใจให้เป็นพรรคของคนธรรมดา ไม่ใช่เป็นพรรคของคนยิ่งใหญ่ เป็นพรรคที่ช่วยกันทำงานแบบเพื่อนพี่น้อง กฎหมายบอกให้มีตำแหน่งก็มีไป แต่ในการทำงานของพวกเราไม่ได้แบ่งว่าใครเป็นหัวหน้าหรือรองหัวหน้า ทุกคนทำงานเป็นเบ้ของพรรคทั้งหมด เราตั้งใจที่จะให้มีพรรคการเมืองแบบใหม่เป็นพรรคของประชาชนที่สามารถลดความเหลื่อมล้ำในสังคมและความเป็นอยู่ต่างๆ รวมทั้งมีความรักความสามัคคี
"ในพรรครวมไทยสร้างชาติเป็นพรรคที่ไม่มีผู้ยิ่งใหญ่ เป็นพรรคที่ทุกคนเท่ากันช่วยกันทำงาน จึงขอให้ทุกคนช่วยกันทำงานและนำไปสู่ความสำเร็จเพื่อนำมาช่วยเหลือประเทศไทยให้มีความสุขในการอยู่กับแผ่นดินนี้ ช่วยกันสร้างอนาคตให้กับลูกหลานต่อไป"นายพีระพันธุ์ กล่าว
นายพีระพันธุ์ กล่าวว่าช่วง 6-7 เดือนที่ผ่านมาฟันฝ่าปัญหาอุปสรรคและคำปรามาส มีแต่คนมองว่าเราเป็นพรรคเล็กๆไม่มีอะไร ตนจึงบอกกับเลขาฯพรรคและทุกคนว่าอย่าไปสนใจ เพราะเราทำตามแนวทางและอุดมการณ์ค่อยเป็นค่อยไปได้เท่าไหร่ก็เท่านั้น ไม่ต้องไปสนใจคำพูดของคนอื่น ตั้งใจทำให้ดี มีคนบอกว่าจะไปส่งผู้สมัครได้อย่างไร มีสาขาและตัวแทนพรรคเพียง 4-5 แห่งจากทั่วประเทศ แต่เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา กกต.ประกาศว่า รวมไทยสร้างชาติเป็นพรรคแรกที่สามารถส่งผู้สมัครได้ทั่วประเทศ 400 คน
"ผมไม่พูดหรอกครับ เพราะผมเป็นคนที่ขี้เกียจไปนั่งเถียงกับใคร ลงมือทำเมื่อผลออกมาก็รู้เอง ผมทำงานร่วมกับทุกคนทั้งที่เปิดเผยตัวและไม่เปิดเผยตัว แต่ถึงวันนี้ปวดหัวว่าจะเอาใครลงเพราะคนจำนวนมากเหลือเกิน และทุกคนในห้องนี้จะเป็นผู้แทนของพรรคลงสู่สนามเลือกตั้ง และบอกกับประชาชนว่าบัดนี้เรากำลังมีพรรคการเมืองที่ทำงานเพื่อชาติ แผ่นดิน และประชาชนอย่างแท้จริง ทุกคนไม่ได้มาเพื่อตัวเอง แต่มาเพื่อเป็นที่พึ่งให้กับประชาชน มาเพื่อสู้กับทุกปัญหา ขอเพียงการให้โอกาสไปทำหน้าที่ในสภา แต่กว่าจะไปถึงวันนั้นได้จะต้องฝ่าด่านมาก ต้องผ่านการต่อสู้และเจอกับปัญหาอุปสรรค ซึ่งถือเป็นเรื่องธรรมดาในการแข่งขันเพราะทุกคนอยากชนะ แต่จะชนะได้ต้องรู้ถึงกฎเกณฑ์และกติกาของการต่อสู้" หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าว
นายพีระพันธุ์ กล่าวในช่วงท้ายว่า ตนผ่านการต่อสู้มา 8 สมัย อยู่ในการเมืองมา 31 ปี ผ่านการเลือกตั้งที่ไม่เคยมี กกต. ไม่มีกฎหมายแบบนี้ ไม่มีกฎเกณฑ์กติกาที่มากเหมือนในปัจจุบัน และมั่นใจว่าหลายคนในที่นี้ผ่านการเลือกตั้งมาแล้ว เคยผ่านกฎเกณฑ์กติกาของ กกต. แต่ขอให้เชื่อว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ไม่เหมือนกับทุกครั้งที่ผ่านมา มีการเปลี่ยนแปลงกฎเกณฑ์กติกาหลายเรื่อง ซึ่งตนก็ยังงงและไม่เข้าใจกฎหมายลูกที่เพิ่งผ่านศาลรัฐธรรมนูญไป มีกฎกติกาที่เปลี่ยนแปลงออกไปอีก
"ดังนั้นถ้าไม่เรียนรู้สิ่งเหล่านี้แม้จะได้รับคะแนนสูงสุดหรือชัยชนะในการเลือกตั้งและเข้าไปทำงานให้กับประชาชนแต่เราอาจถูกปรับให้แพ้เพราะอาจจะมีการทำผิดกฎเกณฑ์กติกาได้ จึงขอให้ทำความเข้าใจตามกิจกรรมที่พรรคได้จัดขึ้นมานี้ รวมทั้งให้ดูฝ่ายตรงข้ามว่าทำผิดกติกาหรือไม่ และขอให้ระวังการถูกกลั่นแกล้ง" หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
สังเวย..เกมล้มยักษ์ l ห้องข่าวไทยโพสต์
ห้องข่าวไทยโพสต์ : วันจันทร์ที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2568
ความเป็นมาของรัฐธรรมนูญฉบับที่ 4 รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2490 (ตอนที่ 52)
ก่อนจะเกิดรัฐธรรมนูญฉบับที่ 4 หรือรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ. 2490 เรามีรัฐธรรมนูญฉบับที่ 2 คือฉบับ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2475
ดร.ณัฏฐ์ ซัด ‘นันทนา’ เล่นเกมสองหน้า เบรก ‘สว.’ เลือกตุลาการศาลรธน.
ดร.ณัฏฐ์ นักกฎหมายมหาชน ซัด ‘สว.นันทนา’ เล่นเกมสองหน้า ยกปมฮั้ว เบือกสว.ให้ชะลอเห็นชอบว่าที่ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ชี้เป็นอำนาจหน้าที่ สว. มีผลสมบูรณ์ ไม่ตกเป็นโมฆะ
'3 ไม่' ยุทธศาสตร์พรรคส้ม 'พูดง่ายแต่ทำยาก' ในเกมการเมืองที่ซับซ้อนและพลิกผัน!
การอภิปรายไม่ไว้วางใจ “แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรีที่กำลังจะเกิดขึ้น ไม่ได้เป็นเพียงกระบวนการตรวจสอบรัฐบาลตามกลไกประชาธิปไตย
กวีพี่คนดีร่ายกลอนกรีด ‘ฮีคนนั้น’ ให้ลูกหญิงยืนด้านหน้า ถ้าโดนฆ่าลูกตายก่อนพ่อนอนเฉย
เพจ P.khondee (พี่คนดี กวีสมัครเล่น) โพสต์ข้อความผ่านบทกลอน เรื่อง 'ฮีคนนั้น ( He who must not be named)'