
'จตุพร' เฉ่ง'เพื่อไทย'ด้อยค่า'ก้าวไกล' เป็นสามเณร ฟาดกลับไม่ดูตัวเองยกยอ'แม่ชี'เพิ่งบวชใหม่เป็นเจ้าอาวาสพรรค ให้พวกพรรษาแก่ๆ ก้มกราบไหว้ ดึงสติการเมืองอยู่ที่ ปชช.ยอมรับ คุณค่าวัดกันด้วยกติกาเลือกตั้ง ไม่ได้วัดกันที่พรรษาแก่ๆ แล้วก้มไหว้แม่ชีลูกอดีตเจ้าอาวาสพรรค ย้ำ 'สุชาติ' ยืนหนึ่ง ปธ.สภา เกมถูกวางไว้
23มิ.ย.2566 - นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊คไลฟ์ ประเทศไทยต้องมาก่อน ตอน "หน้าไหว้หลังหลอก" โดยระบุพรรคเพื่อไทยแสดงพฤติกรรมกลับไปกลับมาเพื่อก่อปัญหา และมุ่งแย่งชิงตำแหน่งประธานสภามาครอบครอง ถึงกับออกแบบเกมการเมืองด้วยการด้อยค่าเปรียบพรรคก้าวไกลเป็นสามเณรอ่อนพรรษาจะเป็นเจ้าอาวาสวัดไม่ได้ แต่กลับย้อนทิ่มแทงพรรคตัวเองที่ยกชูแม่ชีบวชใหม่เป็นเจ้าอาวาสพรรคให้พวกแก่พรรษาก้มกราบไหว้ในทุกวัน
นายจตุพร กล่าวว่า ตำแหน่งประธานสภา ไม่เกี่ยวกับการเปรียบเทียบแบบสามเณรหรือพระบวชใหม่ หากพรรคเพื่อไทยใช้วาทะด้อยค่าทางการเมืองเช่นนี้ คงถูกย้อนเช่นกันว่า แล้วพรรคตัวเองเสนอแม่ชีเพิ่งบวชมาเป็นเจ้าอาวาสได้อย่างไรกัน หนำซ้ำพระแก่พรรษาในพรรคยังโค้งหัว กราบไหว้แม่ชีบวชใหม่เสียอีก หรือพรรคสามารถทำได้ เพราะแม่ชีบวชใหม่เป็นลูกอดีตเจ้าอาวาสพรรค พระแก่พรรษาจึงต้องนั่งกราบอยู่ทุกวัน
“ส่วนพรรคก้าวไกลนั้น แม้เป็นพรรคของสามเณรบวชใหม่ แต่ประชาชนยอมรับเลือกมาด้วยเสียงอันดับหนึ่ง แต่วัดเก่าคร่ำครึมีพระแก่พรรษามากมาย กลับเอาแม่ชีมาเป็นเจ้าอาวาส ดังนั้นทางการเมืองจึงไม่ควรด้อยค่ากัน ถ้าอยากได้ตำแหน่งประธานสภา ก็ควรพูดกันตรงๆ ไม่จำเป็นต้องแบ่งบทกันแสดงพฤติกรรมหน้าไหว้หลังหลอก”
นายจตุพร กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยแบ่งบทกันเล่นเพื่อแย่งชิงตำแหน่งประธานสภานั้น มีลักษณะพูดกลับไปกลับมา เริ่มแรกบอกพรรคอันดับสองต้องได้ตำแหน่งประธานสภา แล้วต่อมากลับหลังหันเปลี่ยนมาบอกให้พรรคอันดับหนึ่งได้ประธานสภา สิ่งนี้หวังสร้างปัญหาภายในพรรคเพื่อไทยกันเอง
อีกอย่างการประชุมพรรคเพื่อไทยที่โรงแรมเอสซีปาร์ค (เมื่อ 21 มิ.ย.) นั้น ได้ให้นายอดิศร เพียงเกษ ขึ้นพูดเป็นคนแรกแล้วสื่อมวลชนถ่ายทอดสัณญาณทางการเมืองสู่สาธารณะจนจบจึงให้สื่อมวลชนออกจากห้องประชุม ดังนั้น พฤติกรรมการเมืองเช่นนี้ เป็นการจงใจให้เกิดขึ้น เป็นการตระเตรียมไว้ของพรรคเพื่อไทย และไม่น่าใช่เหตุบังเอิญ
นายจตุพร ยืนยันว่า ในเกมการเมืองที่ถูกออกแบบไว้นั้น ตำแหน่งประธานสภาเป็นของพรรคเพื่อไทยอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะพิจารณามุมไหนก็ได้พรรคเพื่อไทยอยู่ดี คือ ก้าวไกลยอมหรือไม่ยอมก็ได้พรรคเพื่อไทย หรือเพื่อไทยมีมติยกให้พรรคก้าวไกลก็ตาม ก็ยังจะได้พรรคเพื่อไทยอยู่ดี
ส่วนพรรคเพื่อไทยกล่าวหาว่า ถูกพรรคอื่นทำลายจนได้รับเลือกตั้งเพียง 141 เสียงนั้น นายจตุพร กล่าวว่า ต้องทบทวนกันช้ำๆ จะพบว่า พรรคเพื่อไทยทำลายตัวเองทั้งนั้น เพราะไม่มีความชัดเจนในทางการเมือง ส่วนก้าวไกลประกาศความชัดเจนได้โดดเด่นกว่าในเรื่องการไม่จับมือกับ 2 ลุง คือ ไม่รวมรัฐบาลกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ
นายจตุพร กล่าวว่า ความไม่ชัดเจนต่างหากที่พรรคก้าวไกลแซงหน้าเพื่อไทยได้ ถามว่าใครไปทำลาย ก็ตัวเองทำลายตัวเองทั้งนั้น แล้ววันนี้ก็มาย้อนรอยเดิมอีกในตำแหน่งประธานสภา โดยจะใช้เอกสิทธิ์ ส.ส.ให้โหวตกันเอง แต่อยู่ดีๆ กลับมาบอกว่าพรรคอันดับหนึ่งต้องได้ ซึ่งเป็นการวางเกมของพรรคที่มีแม่ชีบวชใหม่เป็นเจ้าอาวาส
“ถ้าพรรคเพื่อไทย ที่มีแม่ชีเป็นเจ้าอาวาส ให้พระแก่พรรษาก้มกราบไหว้มีความชัดเจน และจริงใจกับพรรคก้าวไกลแล้่วต้องให้นายสุชาติ ตันเจริญ เขียนหนังสือหรือออกมาพูดว่าจะไม่เอาตำแหน่งประธานสภา ถ้าถูกเสนอชื่อจะประกาศถอนตัวทันที สิ่งนี้เป็นการแสดงถึงความจริงใจ ไม่ได้วางเกมแย่งชิงจะเอาให้ได้”
นายจตุพร กล่าวอีกว่า หากนายสุชาติ ปฏิเสธตำแหน่งประธานสภาแล้ว ตนจะพูดถึงอีกชื่อหนึ่งที่สำรองไว้ ซึ่งคนนี้เป็นคนที่ถอยไม่ได้ ดังนั้น การเมืองไม่มีความสลับซับซ้อนอะไร โดยเรียกนายสุชาติ มาพูดจะไม่รับตำแหน่งประธานสภา ให้ชัดเจนเลย
ขณะที่พรรคก้าวไกล แม้เป็นพรรคใหม่ หรือพระบวชใหม่แต่สอบได้เปรียญ เป็นนักธรรมเอก กลับนิ่งเงียบ ไม่พูดถึงตำแหน่งประธานสภาเลย ถึงที่สุดแล้วตำแหน่งนี้ต้องรอเวลาให้ทำงานกันไปก่อน แต่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ยังเอาแต่พูดกลับไปกลับมา จึงไม่รู้จะเอาอย่างไรกันแน่
รวมทั้ง กล่าวว่า ในวันโหวตเลือกประธานสภานั้น พรรคเพื่อไทยจะให้เป็นเอกสิทธิ์ของ ส.ส. โดยไม่โหวตกันทั้งพรรค ซึ่งตัวเลขที่ตนรู้มาขณะนี้มีเกินครึ่งของพรรคเพื่อไทยด้วย หลังจากนั้น เมื่อกลุ่มหนุนก้าวไกลรู้ว่าถูกทรยศ ดังนั้น วันเลือกนายกฯ หรือวันแถลงนโยบายจะเข้าสภากันได้หรือเปล่าก็ไม่รู้
นายจตุพร กล่าวว่า การทำการเมืองครั้งนี้ ต้องทำให้จบ ถ้าไม่จบก็ไม่ได้กลับบาน เพราะไม่มีอะไรไปแลกให้ทักษิณ ชินวัตร ได้กลับบ้านอีกแล้ว นอกจากสมบัติที่ชื่อพรรคเพื่อไทย จึงต้องทำให้จบลง โดยยอมนำไปแลกให้ทักษิณ ได้กลับบ้าน
“ไม่มีใครทำลายตัวคุณเองได้ นอกจากตัวคุณ พวกของคุณ หรือเจ้าของของคุณ อย่างไรก็ตาม ใครจะว่าอะไรก็ตาม ควรหันหลังดูพวกตัวคุณด้วย เพราะมีแแม่ชีเป็นเจ้าอาวาส ให้พรรคแก่พรรษานั่งกราบไหว้อยู่ประจำ อีกอย่าง การมอบตำแหน่งประธานสภาให้พรรคก้าวไกล ก็ไม่ใช่เรื่องเป็นลูกน้องใคร หรือพรรคสาขาใคร แต่ต้องยึดตามกติกาที่มาจากการเลือกตั้ง”
นายจตุพร กล่าวว่า กติกาเลือกตั้งมีหลักให้พรรคอันดับหนึ่งได้ประธานสภา โดยวัดจากผลการเลือกตั้ง ไม่เกี่ยวกับพรรคสามเณรบวชใหม่ หรือเป็นพรรคมีพระแก่พรรษา ดังนั้น การพิจารณาการเมืองจึงควรต้องมีสติและหลักยึดกติกาให้มั่นคงไว้
พร้อม ย้ำว่า การเมืองครั้งนี้ออกแบบกันไว่้แล้ว ให้นายสุชาติ เป็นประธานสภา ถ้าถอยไม่เอาก็มีอีกชื่อที่เตรียมไว้แล้ว แต่ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม พล.อ.ประวิตร ก็คือนายกฯ เพราะเป็นเกมการเมืองที่ล็อคกันเอาไว้แล้ว
ประเทศไทยต้องมาก่อน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'จตุพร' แนะ 'อนุทิน' อย่ามัวแต่พูดอธิบายภาพ 'เบน สมิธ' ต้องรุกกลับปราบสแกมเมอร์ให้สิ้นซาก
'จตุพร' แนะ 'อนุทิน' อย่าพะวงกับรูปถ่ายร่วมเฟรม 'เบน สมิธ' อย่ามัวแต่พูดอธิบายภาพ อ้างไม่สนิท จี้ปฏิบัติให้จริง รุกกลับปราบ'แก๊งสแกมเมอร์' ให้ราบคาบจากไทย ลั่นรู้นะ คนปล่อยรูปหวังทำลายการเมือง
เอาแล้ว 'จตุพร' เตือน นายกฯหนู แบ่งแยกเยียวยาศพน้ำท่วม 2 ล้าน ระวังทำรัฐบาลพัง
'จตุพร' เตือน นายกฯหนู แบ่งแยกเยียวยาศพน้ำท่วม 2 ล้านระวังทำรัฐบาลพัง แนะน้ำท่วมใต้จากพายุชื่อเหมือนกันต้องเป็นธรรม ชดเชยเท่ากัน อย่าคิดแบบเขลาๆ แถเอาแต่สถานการณ์ฉุกเฉินมาอ้าง จะเกิดเหตุไม่พอใจ ลุกลามไปกันใหญ่
'จตุพร' แนะ แก้รธน.ต้องกินทีละคำอย่าเหลี่ยมคูกินทีละกะละมัง สุ่มเสี่ยงถูกคว่ำล้มครืนลง
'จตุพร' แนะการเมืองยึดมติ กมธ. ปมผ่านแก้ รธน.วาระสอง เตือนอย่าชิงเหลี่ยมคู ขอให้กินทีละคำอย่าโลภอยากกินทีละกะละมัง หวั่นถูกคว่ำจบเห่ ย้ำฝ่ายค้านยื่นอภิปรายไม่ลงมติ ม.152 ดีกว่าซักฟอก 151 ชี้เวลาเหมาะอภิปรายช่วงสัปดาห์สุดท้าย มกรา 69 พูดเสร็จได้ยุบสภาเลย
อดีตแกนนำคนเสื้อแดง ย้อนชะตากรรม 'ทักษิณ' ทวนย้ำชัดๆ ถูกกลั่นแกล้ง หรือ สารภาพผิดเอง
นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊คไลฟ์รายการประเทศไทยต้องมาก่อน ตอน"ชัด ชัด!" โดยกล่าวถึงชะตากรรมทักษิณ ชินวัตร เกือบ 20 ปีตั้งแต่ถูกยึดอำนาจเมื่อปี 2549 กระทั่งได้กลับไทย 22 ส.ค. 2566
'จตุพร' ปลุกม็อบต้าน 'ทรัมป์-อันวาร์' 22 พ.ย. ฟาดฝ่ายค้านหัวหด
'คณะรวมพลัง' นัดสำแดงพลังเอกราชชาติ ม็อบหน้าสถานทูต 22 พ.ย. ต้าน 'ทรัมป์-อันวาร์' รุมข่มเหงไทย ฟาดฝ่ายค้านหัวหดกลัวสหรัฐ
'จตุพร' ซัดเพื่อไทยเขียนด้วยมือลบด้วยเท้า แต่ได้ประโยชน์จากชีวิตคนเสื้อแดง
นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊คไลฟ์รายการประเทศไทยต้องมาก่อน เมื่อคืนวันที่ 5 พ.ย.ที่ผ่านมา ได้กล่าวถึงกรณีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และอดีตนายกฯ ปมสลายการชุมนุมของ นปช.ปี 53


