13 ก.ค.โหวตเลือกนายกฯ วันนอร์เผยต้องยกมือจนกว่าจะได้ไม่ใช่แค่ชื่อพิธาคนเดียว

วันนอร์เคาะแล้วนัด 13 ก.ค.ประชุมรัฐสภา โหวตนายกฯ ชี้คาดเดายากใครได้เป็นผู้นำประเทศ แต่ประเทศต้องมีนายกฯ พลิ้วตอบเปิดประชุมกี่ครั้งขึ้นอยู่ที่หลายปัจจัย

05 ก.ค.2566 - นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ว่าที่ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้เดินทางเข้ามาร่วมประชุมกับเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ที่ชั้น1 0 ห้องประชุมประธานสภาฯ เพื่อเตรียมความพร้อมในการรับสนองพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นประธานสภา นอกจากนั้นยังมี ส.ส.ของพรรคประชาชาติ (ปช.) ทั้งหมด เข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้ด้วย

จากนั้นเวลา 12.00 น. นายวันมูหะมัดนอร์ ให้สัมภาษณ์ว่า ระหว่างที่รอการโปรดเกล้าฯเป็นประธานสภา ได้เชิญเลขาธิการสภา, รองเลขาธิการสภา และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเพื่อเตรียมการในเรื่องรับสนองพระบรมราชโองการ ซึ่งอาจจะเป็นช่วง 1-2 วันนี้ และเตรียมการเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎร และประชุมร่วมรัฐสภา โดยกำหนดว่าหากมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ลงมาแล้ว จะประชุมสภานัดแรกในวันที่ 12 ก.ค. โดยมีระเบียบวาระเพียงให้ ส.ส.ที่ยังไม่ได้ปฏิญาณตนได้ปฏิญาณตนก่อนปฏิบัติหน้าที่ รวมทั้งจะปรึกษาหารือกันว่าจะประชุมสภาแต่ละสมัยจำนวนกี่วัน และวันใดบ้าง แม้ที่ผ่านมามีการจัดให้มีการประชุมทุกวันพุธ และวันพฤหัสบดีก็ตาม ก็ต้องขอความเห็นในที่ประชุมอยู่ดี

นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า ส่วนการประชุมร่วมรัฐสภาเพื่อเลือกนายกรัฐมนตรีจะมีขึ้นในวันที่ 13 ก.ค. เวลา 09.30 น. ซึ่งได้หารือกับนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา เรียบร้อยแล้ว โดยทางสำนักงานเลขาธิการสภาจะออกหนังสือเชิญสมาชิกทั้งสองสภามาประชุมร่วมกัน

เมื่อถามว่าการโหวตนายกรัฐมนตรีในส่วนของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคและเคนดิเดตนายกฯ จากพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ที่มีแนวโน้มว่าจะโหวตไม่ผ่าน ประธานจะให้โหวตกี่ครั้ง นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า จำนวนครั้งคงพูดไม่ได้ เพราะครั้งเดียวอาจผ่านก็ได้ คือได้ 376 เสียง แต่ถ้าไม่ครบก็ต้องพิจารณาการประชุมในรอบต่อไป และต้องวิเคราะห์ดูว่าคะแนนที่ได้มีจำนวนเท่าไหร่ถึงจะครบ 376 เสียง และหากฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะขอเวลาในการประชุมกี่ครั้ง แต่โดยสรุปคือรัฐสภาต้องประชุมให้ได้นายกฯ ไม่ใช่นายพิธาคนเดียว หากนายพิธาได้ก็ถือว่าได้ไป แต่ถ้าไม่ได้ก็ต้องหาจนกว่าจะได้นายกฯ เพราะรัฐสภามีหน้าที่เลือกนายกฯ ตามรัฐธรรมนูญเพื่อไปบริหารประเทศ เราจะขาดนายกรัฐมนตรีไม่ได้

“ในเบื้องต้นผมพูดอย่างเป็นกลางคือ ส.ส.ซึ่งมีหน้าที่สำคัญในการออกกฎหมายและพิจารณางบประมาณนั้น เขาได้ร่วมกันที่จะตั้งรัฐบาลแล้ว 312 เสียง ซึ่งเมื่อวันที่ 4 ก.ค.ก็แสดงให้เห็นแล้วว่าการเลือกรองประธานคนที่1 ได้คะแนน 312 เสียง อันนี้ก็จะเป็นหลัก แต่การเลือกนายกฯ ไม่ใช่เสียงข้างมาก 312 เสียงแล้วจะได้เป็น เพราะต้องได้ 376 เสียงเป็นอย่างน้อย ซึ่งยังขาดอีก 64 คะแนน และหากไม่ได้ก็ต้องโหวตให้ได้ 376 เสียง และหากวันแรกไม่สามารถถือว่าการประชุมวันนั้นต้องจบ และนัดโหวตนายกฯ ในนัดครั้งต่อไป โดยจะต้องคำนึงความพร้อมของสมาชิกในการเข้าร่วมประชุมด้วย เพื่อให้ทุกคนเข้าร่วมประชุมอย่างครบถ้วน ผมเชื่อมั่นว่าหากเราทำอะไรด้วยความเหมาะสมเพื่อให้เกิดประโยชน์กับประชาชนสิ่งนั้นจะบรรลุเป้าหมาย”นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าว

เมื่อถามว่าหากพรรคร่วมรัฐบาลยังยืนยันที่จะเสนอชื่อนายพิธาจะให้มีการประชุมอีกหรือไม่ นายวันมูหะมัดนอร์กล่าวว่า รัฐธรรมนูญไม่ได้กำหนดว่าต้องเป็นคนเดิมหรือคนใหม่ แต่เบื้องต้นต้องเป็นคนที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กำหนดคุณสมบัติครบถ้วน แต่ถ้าหากว่ารายชื่อทั้งหมดที่ส่งไปยัง กกต.ยังไม่ผ่านก็ต้องเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ โดยกำหนดว่าให้รัฐสภาเสนอคนนอกได้ แต่ก็เป็นขั้นตอนที่ยาว เพราะรัฐสภาต้องมีเสียงมากกว่า 2 ใน 3 ที่เห็นว่าควรจะให้เสนอคนนอกเข้ามาโหวตในสภาได้ ซึ่งต้องได้ 376 เสียงก็ถือว่าเป็นนายกฯ ได้ คิดว่าเราไม่สามารถที่จะไปคาดเดาได้ แต่สิ่งที่สำคัญ คือต้องมีนายกฯ และเป็นนายกฯที่บริหารประเทศต่อไปได้

ถามว่าประธานจะดูปัจจัยคำมั่นสัญญาของ 8 พรรคร่วมที่จะดันนายพิธาให้ถึงที่สุดหรือไม่ นายวันมูหะมัดนอร์กล่าวว่า พรรคร่วมรัฐบาลได้ตกลงใจร่วมกันว่าจะสนับสนุนหัวหน้าพรรคที่มีเสียงข้างมากที่ได้รับการเลือกตั้งมาเมื่อวันที่ 14 พ.ค. โดยเป็นข้อตกลงของ 8 พรรค แต่รัฐสภาก็ต้องทำหน้าที่ในการเลือกนายกฯ เพราะการโหวตเป็นเรื่องของรัฐสภาที่มี ส.ว.เข้ามาเกี่ยวข้อง หากเฉพาะสภาผู้แทนอย่างเดียวก็ไม่มีปัญหาอะไร เพราะ 312 เสียงถือว่าเกินครึ่งไปเยอะแล้ว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'หมอนทองเขาบรรทัด' สินค้า GI รายการที่ 3 ของตราด

รัฐบาลมุ่งเพิ่มมูลค่าสินค้าท้องถิ่นไทย ขึ้นทะเบียนทุเรียนหมอนทองเขาบรรทัด เป็นสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ จังหวัดตราด เพื่อความเชื่อมั่นคุณภาพสินค้า ยกระดับรายได้ชุมชน

อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย! เศรษฐาห่วงใยสุขภาพประชาชน

นายกฯ ห่วงใยสุขภาพพี่น้องประชาชนจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง ขอให้ติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด เพื่อเตรียมพร้อมรับมือพายุฤดูร้อนทางตอนบนของประเทศไทย ช่วง 3 - 7 พ.ค.นี้