'ชวน' สอน 'ปดิพัทธ์' อย่าทำตัวเหมือนเป็นประธานสภา!

'ชวน' แขวะ 'ปดิพัทธ์' ทำตัวเหมือนประธานสภา ทั้งที่มีหน้าที่ทำตามประธานมอบหมาย แนะโหวตนายกฯ ไม่ต้องต่อสร้อยห้อยท้าย จะประหยัดเวลามาก เชื่อปัญหาสภาล่มจะน้อยลงเพราะคนทำมาเป็นรัฐบาล

06 ก.ค.2566 - นายชวน หลีกภัย ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ และอดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงการประชุมลงมติที่ผ่านมา ว่าจะเห็นได้ว่าเราเสียเวลาไปกับการคานคำว่าบัตรดี 500 ครั้ง ซึ่งความจริงไม่ต้องใช้คำว่าบัตรดี ก็สามารถอ่านชื่อได้เลย เช่น วิทยา และปดิพัทธ์ ซึ่งการประชุมสภาสมัยที่แล้วเราจะทำอย่างนั้นห้ามใช้สร้อย หรือเอ่ยชื่อตัวเอง ทำให้ประหยัดเวลาไปได้ชั่วโมง ซึ่งตลอด 4 ปีที่ผ่านมา สมาชิกให้ความร่วมมือและสามารถทำได้ร้อยละ 99 และในสมัยใหม่นี้ก็จะสามารถประหยัดเวลาได้

เมื่อถามว่าการโหวตนายกรัฐมนตรีจะใช้เวลาประหยัดแบบนี้หรือไม่ นายชวนกล่าวว่า เขาควรทำ เพราะการโหวตเลือกนายกฯ ครั้งที่ผ่านมาก็เป็นตัวอย่างที่ดีว่าสามารถประหยัดเวลาได้ หากมีสร้อยต่อท้ายครั้งสองครั้งก็ไม่รู้สึก แต่ถ้า 750 ครั้งก็มีปัญหาทั้งนั้น ส่วนการโหวตนายกฯ สามารถโหวตได้กี่ครั้งนั้นไม่ได้มีกฎหมายห้ามแต่ขอให้ถามนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ว่าที่ประธานรัฐสภาจะดีกว่า

ต่อข้อถามว่าในฐานะที่เป็นอดีตประธานสภาได้คุยกับนายมูหะมัดนอร์บ้างหรือไม่ นายชวนกล่าวว่า ได้ยินดีกับท่านตั้งแต่วันที่ได้รับเลือกแล้ว ซึ่งขอบอกกับลูกน้องท่านว่า ขอให้ดูแลสุขภาพของท่าน เพราะสำหรับวัยตนเอ
หรือวัยท่านวันนอร์ เป็นวัยที่สูงอายุ ถ้าไม่ค่อยแข็งแรงก็จะมีปัญหา เพราะต้องนั่งบนบัลลังก์ 3-4 ชั่วโมง และเวลานั่งก็ไม่ได้นั่งหลับ เหนื่อยที่สุดคือเงยหัว เพราะต้องฟังว่าใครพูดอะไรเกิน อะไรขาด จะให้เขาถอนหรือไม่ถอนคำพูดก็ต้องรู้ เมื่อเสร็จเวรแล้วรองประธานขึ้นมาแทน ประธานก็ต้องตามต่อ เพราะจะได้รู้ว่าเวรต่อไปใครพูดอะไรไว้ ซึ่งก็ถือว่าเป็นงานหนัก จึงต้องให้กำลังใจท่าน และขอให้ท่านดูแลสุขภาพก็แล้วกัน

เมื่อถามว่า เชื่อว่า นายวันมูหะมัดนอร์ จะสามารถทำงานได้กับรองประธานทั้ง 2 คน ที่มาจากพรรคก้าวไกลกับพรรคเพื่อไทยได้ดีหรือไม่ นายชวนกล่าวว่า นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาคนที่ 2 บอกว่าจะทำตามพระบรมราโชวาท และตามที่ประธานมอบหมาย แต่นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานคนที่ 1 แถลงเหมือนเป็นประธานเอง เพราะที่จริงแล้วรองประธานมีหน้าที่คือรับมอบหมายจากประธานสภาว่าให้ทำอะไร และถ้าจะทำอะไรใหม่พิเศษออกมา ก็ต้องขออนุมัติจากประธาน ซึ่งถือประธานจะเป็นหลัก ส่วนรองประธานจะปฏิบัติภารกิจตามที่ประธานมอบหมาย ซึ่งงานสภาถือว่าหนักมาก เพราะนอกจากงานภายในการประชุมแล้ว ยังมีงานปีกย่อยอีก แต่ขณะนี้เรามีประธานมุสลิม รองประธานคนที่ 1 เป็นคริสต์ รองประธานคนที่ 2 เป็นพุทธ ถือว่า 3 ศาสนาเลย จึงบอกกับเลขาธิการสภาว่าอย่างต้องรักษามาตรฐานศาสนาไว้อย่างเดิม

เมื่อถามว่าเป็นห่วงสภายุคนี้ในเรื่องขององค์ประชุมหรือไม่ นายชวนกล่าวว่า เชื่อว่าเรื่ององค์ประชุมในยุคนี้น่าจะหมดไป ส่วนนายพิเชษฐ์ ซึ่งเป็นรองประธานคนที่ 2 ในสมัยที่แล้วก็ประท้วงเยอะนั้น หลังได้ตำแหน่งนายพิเชษฐก็มาสวัสดีตนเองก็ได้ล้อเล่นไปว่า ถึงเวลาทำนาใครจะมาหว่านข้าวในสภา แต่ก็เชื่อว่าปัญหาต่างๆ น่าจะลดลงเพราะตัวปัญหาไปเป็นรัฐบาลเอง พูดง่ายๆ คือ คนที่ไม่กดบัตรทำให้องค์ประชุมไม่ครบ การประชุมสมัยนี้เขาต้องมาประชุมแต่ที่สำคัญคือ หัวหน้ารัฐบาลในอนาคตเป็น ส.ส.หรืออย่างน้อยมีหัวหน้าพรรคการเมืองมารับผิดชอบ ยกเว้นพรรคเพื่อไทยที่มี นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่านเป็นหัวหน้าพรรค และอยู่ในสภา แต่คนที่แข่งขันเป็นนายกฯ ไม่ได้อยู่ในสภา แต่พรรคก้าวไกลเขาอยู่ในสภา ซึ่งสมัยที่แล้ว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ไม่ได้เป็น ส.ส.จึงไม่ได้อยู่ในสภา และหัวหน้าพรรคที่จัดตั้งรัฐบาลคือ พล.อ.ประวิตร ก็ไม่ได้อยู่ในสภา เพราะเมื่อมีปัญหาก็ไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใคร แม้จะมีตัวแทนของพรรคแต่ก็ไม่ยอมรับกัน แต่ปัญหาเหล่านี้ในสมัยนี้ปัญหานี้น่าจะหายไป ความร่วมมือก็น่าจะดีขึ้น การพูดมากก็น่าจะลดลง

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'วันนอร์'มั่นใจคนไทยเกินครึ่งมาใช้สิทธิ์ประชามติเรื่องแก้รัฐธรรมนูญ

'ปธ.สภา' ชี้ช่องรัฐบาลใช้กฎหมายเดิมทำประชามติได้ แค่ถาม ปชช.อยากแก้รัฐธรรมนูญหรือไม่ ระบุหากต้องการแก้ ก็เสนอเข้ามาช่วงเปิดวิสามัญได้ เชื่อคนออกมาใช้สิทธิเกินครึ่ง

ประธานสภาเตือนสติอย่าดันทุรังชงแก้ รธน.รอผลประชามติก่อน

'วันนอร์' ยันร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญยังนำเข้าพิจารณาไม่ได้ เหตุต้องมีการทำประชามติก่อน เตือนหากดันทุรังแล้วถูกยื่นตีความเสียเวลาเปล่าๆ

'กูรูการเมือง' ชำแหละ! ปั่นเฟกนิวส์ 'วันนอร์' ไขก๊อกประธานสภา

นายไพศาล พืชมงคล นักกฎหมาย และอดีตกรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กว่า เบื่อกาลวินาศมาถึง อะไรต่อมิอะไรก็วิปริตแปรปรวนไป