12 ก.ค.2566 - ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีสำเนาหนังสือระเบียบการประชุม การเตรียมความพร้อมในการรักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญ การประชุมดังกล่าวระบุวันที่ 12 ก.ค. เวลา 10.00 น. ณ.ห้องประชุม ปารุสักวัน 1 ชั้น 2 อาคาร บช.น.
โดยระเบียบการการประชุมมีด้วยกัน 5 ข้อ ระเบียบที่1 เรื่องที่ประธานแจ้งให้ที่ประชุมทราบ ระเบียบวาระที่ 2 เรื่องเพื่อทราบ 2.1สถานการณ์การข่าวและวิเคราะห์แนวโน้มสถานการณ์และภัยคุกคาม (บช.ส.1) 2.2ขั้นตอนการดำเนินการตามกฎหมาย กรณีมีผู้ต้องหาตามหมายจำคุกเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรไทย โดยเครื่องบินโดยสาร ณ ท่าอากาศยานดอนเมือง หรือสุวรรณภูมิ
ระเบียบวาระที่ 3 เป็นเรื่องพิจารณา ประกอบด้วย 3.1 การพิจารณากำหนดเส้นทางการเดินทาง (บก.จร.) ได้แก่ 3.1.1 เส้นทาง (หลัก และรอง) จากสนามบินสุวรรณภูมิ มายังศาลฎีกา (สนามหลวง), 3.1.2 เส้นทาง (หลัก และรอง) ในการเดินทางจากสนามบินดอนเมือง มายังศาลฎีกา (สนามหลวง), 3.1.3 เส้นทาง (หลัก และรอง) ในการเดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิ มายัง บช.ปส. (สถานที่ควบคุมพิเศษ), 3.1.4 เส้นทาง (หลัก และรอง) ในการเดินทางจากสนามบินดอนเมือง มายัง บช.ปส. (สถานที่ควบคุมพิเศษ), 3.1.5 เส้นทาง (หลัก และรอง) จาก บช.ปส. มายังศาลฎีกา (สนามหลวง) และ 3.1.6 เส้นทาง (หลัก และรอง) จากศาลฎีกา (สนามหลวง) มายังเรือนจำพิเศษ กทม.
3.2 แนวทางการวางกำลังรักษาความปลอดภัย และอำนวยความสะดวกการจราจร (พื้นที่ที่เกี่ยวข้อง) แบ่งเป็น 3.2.1 เส้นทางการเดินทาง ตามข้อ 3.1.1-3.1.6 และ 3.2.2 การบริหารจัดการพื้นที่ และการวางกำลังรักษาความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกการจราจร ในแต่ละสถานที่ (สนามบินสุวรรณภูมิ, สนามบินดอนเมือง, บช.ปส. และ ศาลฎีกา)
3.3 แนวทางการจัดรูปแบบขบวนรถในการรักษาความปลอดภัย (บก.จร. และ บก.สปพ.)
ระเบียบวาระที่4 เรื่องหารือ/เสนอแนะ(ปัญหา อุปสรรค ขัดข้อง)และระเบียบวาระที่ 5 ข้อสั่งการผู้บังคับบัญชา
ซึ่งก่อนหน้านั้น วันที่ 10 ก.ค.ที่ผ่านมา พล.ต.ต.โชคชัย งามวงศ์ รอง ผบช.น.ได้มีวิทยุในราชการกองบังคับการตำรวจนครบาล ด่วนที่สุด ที่ 0015.135/9287 ถึงผบก.น.1,2,3,4, จร.สส.,สปพ.และ อก. โดยเนื้อหาระบุ 1.อ้างถึงการเตรียมความพร้อมในการรักษาความปลอดภัย รักษาความสงบเรียบร้อยและการจัดการจราจรบุคคลสำคัญในพื้นที่ บช.น. 2.เพื่อการเตรียมความพร้อมรักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญและการจัดการจราจรเป็นไปด้วยความเรียบร้อย จึงกำหนดให้มีการประชุม วันที่ 12 ก.ค.เวลา 10.00 น. ณ.ห้องประชุมปารุสกวัน ชั้น 2 อาคาร บช.น.
ผู้เข้าร่วมประชุมประกอบด้วย พล.ต.ต.สมควร พึ่งทรัพย์ รอง ผบช.น. ,ผบก.น.1-4 ,ผบก.ตม.2,ผบก.ส.1 นอกจากนี้ยังมี รอง ผบก.จร.สส.,สปพ.และ อก.(ในสายความมั่นคง) ผกก.สน.ดุสิต ,นางเลิ้ง,ชนะสงคราม,ดอนเมือง,ประชาชื่น,ทุ่งสองห้อง,ลาดกระบัง, สน.ทางด่วน และ สน.วิภาวดี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมการเตรียมความพร้อมในการรักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญ มีการตั้งข้อสังเกตุว่าบุคลสำคัญดังกล่าวคือ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีหรือไม่ เพราะระเบียบการต่างสอดคล้องกับความเคลื่อนไหวของนายทักษิณ ที่ระบุว่าจะเดินทางกลับประเทศไทยเดือน ก.ค.นี้ และพร้อมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม และในระเบียบการประชุมระบุ มีผู้ต้องหาตามหมายจำคุกเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรไทย โดยเครื่องบินโดยสาร ณ ท่าอากาศยานดอนเมือง หรือสุวรรณภูมิ พร้อมระบุแนวทางการรักษาความปลอดภัยตามเส้นทางจากสนามบินไปยังศาลฏีกา บช.ปส.ซึ่งเคยใช้เป็นสถานที่ควบคุมตัวผู้เห็นต่างทางการเมืองมาแล้วหลายครั้งตั้งแต่ปี 63 เป็นต้นมา ก่อนไปยังเรือนจำพิเศษ กทม.
อย่างไรก็ตาม เมื่อผู้สื่อข่าวพยายามติดต่อไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องไม่มีใครให้ข้อมูลหรือแสดงความคิดเห็นกับเอกสารดังกล่าวที่หลุดออกมาแต่อย่างใด


ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'อิ๊งค์' โพสต์ภาพคู่ 'ทักษิณ' สุขสันต์วันพ่อ อดทนไว้ เราจะได้ไปเที่ยวรอบโลกด้วยกัน
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย โพสต์ภาพถ่ายร่วมกับนายทักษิณ ชินวัตร พร้อมระบุข้อความผ่านอินสตาแกรมว่า
หยิกเล็บเจ็บเนื้อ! 'ภท.-พท.' โต้เดือดพัวพัน 'เบน สมิธ'
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า กรณีเบน สมิธ : ภูมิใจไทย-เพื่อไทย หยิกเล็บเจ็บเนื้อ
รู้จักน้อยไปจริง! กระทุ้ง 'อนุทิน' เผยตัวตนให้มากขึ้น
นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต สส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า หรือเรารู้จักท่านนายกรัฐมนตรีน้อยไปจริงๆ
'ทักษิณ' ร่วมเวที 'เสก โลโซ' ร้องเพลงใจสั่งมา ในเรือนจำกลางคลองเปรม
"ทักษิณ" ขึ้นเวทีเรือนจำฯ ควงไมโครโฟนร้องเพลง "ใจสั่งมา" บรรยากาศอบอุ่นมวลความสุข เพื่อนผู้ต้องขังกว่า 1,000 คน ต่างลุกโชว์สเต็ปแด๊นซ์
เพจดังงัดภาพใหม่กว่า ตบหน้าแฟนคลับพรรคแดง ขว้างงูไม่พ้นคอ ทักษิณก็รู้จัก 'เบน สมิธ'
จากกระแสวิพากษ์วิจารณ์ หลังปรากฏภาพนายเบน สมิธ ถ่ายร่วมเฟรมกับบุคคลระดับสูงในแวดวงการเมืองไทย ได้แก่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี, นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
ศาลรับอุทธรณ์คดี ม.112 ให้ 'ทักษิณ' ยื่นคำแก้อุทธรณ์ภายใน 15 วัน
พนักงานอัยการสำนักงานคดีอาญา 8 ได้ยื่นคำอุทธรณ์คดี ที่ศาลอาญายกฟ้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในความผิดฐานดูหมิ่นสถาบัน ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ


