'ก้าวไกล' มัดเพื่อไทย! ขอชงชื่อแคนดิเดตนายกฯ ต่อสภา

‘ก้าวไกล’ แถลงทางการ เสนอชื่อแคนดิเดตจากพรรคเพื่อไทย เป็นนายกฯ คนที่ 30 เปิดทางให้ประเทศไทยกลับสู่ประชาธิปไตย

21 ก.ค. 2566 – ที่พรรคก้าวไกล เมื่อเวลา 11.00 น. นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล แถลงความคืบหน้าการเจรจาจัดตั้งรัฐบาลว่า การเลือกตั้งเมื่อวันที่ 14 พ.ค. 66 เป็นการประกาศเจตจำนงของประชาชนที่ชัดเจนว่าต้องการเปลี่ยนขั้วรัฐบาล ด้วยการลงคะแนนเสียงเลือกพรรคก้าวไกล และพรรคเพื่อไทยจนชนะเป็นอันดับ 1 และอันดับ 2 ดังนั้น เป้าหมายสูงสุดของเราในฐานะพรรคอันดับ 1 คือการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ให้สำเร็จ เพื่อหยุดยั้งการสืบทอดอำนาจของรัฐบาลเดิม แต่ตลอดสองเดือนที่ผ่านมา สถานการณ์ชี้ชัดว่าทุกองคาพยพของฝ่ายอนุรักษ์นิยม ทั้งการเมืองจารีต ทุนผูกขาด และสถาบันองค์กรต่างๆ ที่เป็นบริวารแวดล้อมทั้งหมด ไม่ยอมให้พรรคก้าวไกลเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล โดยเอาเรื่องมาตรา 112 มาบังหน้า และอ้างความจงรักภักดีมาปะทะกับการเลือกตั้งของประชาชน นอกจากนี้ยังมีการเคลื่อนไหวผ่านคณะกรรมการการเลือกตั้ง และศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อหวังตัดสิทธิ์ทางการเมืองของแกนนำพรรค และยุบพรรคก้าวไกลให้ได้

นายชัยธวัช กล่าวว่า ด้วยเหตุนี้เราจึงเห็นว่า สมาชิกวุฒิสภาฝืนมติมหาชน ไม่โหวตเลือกนายกรัฐมนตรีตามเสียงส่วนใหญ่ของสภาผู้แทนราษฎร มิหนำซ้ำ ยังกล้าทำลายหลักการตีความข้อบังคับของรัฐสภาให้ขัดต่อรัฐธรรมนูญ เปรียบเสมือนการล้มล้างการปกครอง หรือฉีกรัฐธรรมนูญผ่านกฎหมู่ เพียงเพื่อต้องการขัดขวางไม่ให้เสนอชื่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี เป็นนายกรัฐมนตรีในครั้งที่ 2 พรรคก้าวไกลไม่ยอมรับการตีความข้อบังคับดังกล่าว แต่ภายใต้การทำงานที่สอดประสานกันทั้งองคาพยพของฝ่ายอนุรักษ์นิยมเช่นนี้ เราจำเป็นต้องขอโทษต่อพี่น้องประชาชน และยอมรับอย่างตรงไปตรงมาว่า พวกเขาไม่ยอมให้พรรคก้าวไกลเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล

อย่างไรก็ดี การที่นายพิธา ไม่สามารถเป็นนายกรัฐมนตรีได้ ไม่ได้หมายความว่า ภารกิจในการจัดตั้งรัฐบาล เพื่อพลิกขั้วอำนาจรัฐบาลจะไม่สำเร็จไปด้วย เป้าหมายสูงสุดของเราในฐานะพรรคอันดับ 1 ยังคงอยู่ นั่นคือการจัดตั้งรัฐบาล เพื่อหยุดยั้งการสืบทอดอำนาจของรัฐบาลเดิมให้สำเร็จ สิ่งสำคัญในวันนี้จึงไม่ใช่เรื่องนายพิธาจะได้เป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่ แต่คือเรื่องประเทศไทยจะกลับสู่ประชาธิปไตยได้หรือไม่ หยุดการสืบทอดอำนาจได้หรือไม่

“เมื่อเป็นเช่นนี้ พรรคก้าวไกลจะเปิดโอกาสให้ประเทศให้พรรคอันดับ 2 คือพรรคเพื่อไทย เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลของพันธมิตร 8 พรรค ที่เราได้เคยทำเอ็มโอยูร่วมกันเอาไว้ ดังนั้น ในการประชุมรัฐสภาครั้งต่อไป พรรคก้าวไกลจะเสนอชื่อแคนดิเดตจากพรรคเพื่อไทย เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 เช่นเดียวกับที่พรรคเพื่อไทยเคยสนับสนุนพรรคก้าวไกล” เลขาธิการพรรคก้าวไกล ระบุ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ชัยชนะ' ฟาดเต็มหน้า 'เพื่อไทย' ดิจิทัลวอลเล็ตคืบหน้าในการหาแพะรับบาป  

“ชัยชนะ” ฟาด โครงการดิจิทัลวอลเล็ต’ มีความคืบหน้าในการหา ‘แพะรับบาป’  ชี้ ‘เพื่อไทย’ เผชิญพายุหมุนที่ไม่สามารถเดินหน้าทำโครงการได้ – แนะเอาโครงการคนละครึ่ง มาปรับปรุงแก้ไข

'นิพิฏฐ์' เย้ย 'ก่อแก้ว' ถ้าจะชวนทะเลาะ คลานออกมาจากกระโปรงอุ๊งอื๊ง

นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต สส.พัทลุง โพสต์เฟซบุ๊ก โดยระบุว่า ก่อแก้ว พิกุลทอง ถ้าจะทะเลาะกับผม คลานออกมาจากกระโปรงอุ๊งอื๊ง