ตูมสนั่นรือเสาะ! คนร้ายก่อเหตุลอบวางระเบิดพระสงฆ์-จนท.ชุดคุ้มครอง

ระเบิดชายแดนใต้11 ธ.ค.2564 - สำนักข่าวอิศรา รายงานว่า เหตุรุนแรงทำร้ายจิตใจพุทธศาสนิกชน เกิดขึ้นเมื่อเวลา 06.28 น.วันเสาร์ที่ 11 ธ.ค.64 ร.ต.อ.ดนัย ยังอภัย ร้อยเวรสอบสวน สภ.รือเสาะ จ.นราธิวาส รับแจ้งเหตุลอบวางระเบิดพระสงฆ์ และเจ้าหน้าที่ชุดคุ้มครองพระ เหตุเกิดบริเวณหน้าบ้านชาวบ้าน ริมถนนสายรือเสาะ-ศรีสาคร ต.รือเสาะ อ.รือเสาะทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ

หลังรับแจ้ง เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประสานชุดทำลายวัตถุระเบิด หน่วยเฉพาะกิจอโณทัย พร้อมเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน จ.นราธิวาส และกำลังทหาร ฝ่ายปกครอง เดินทางเข้าพื้นที่ทันที

ที่เกิดเหตุเป็นย่านชุมชน บริเวณหน้าบ้านหลังหนึ่ง มีร่องรอยการระเบิดทำให้บ้านในละแวกนั้นเสียหาย 4 คูหา มีรถยนต์รถเก๋ง ยี่ห้อมาสด้า สีขาว ที่จอดอยู่ใกล้ๆ โดนสะเก็ดระเบิดได้รับความเสียหายด้วยเช่นกัน มีเศษซากชิ้นส่วนระเบิดตกกระจัดกระจาย เจ้าหน้าที่จึงเก็บรวมรวมไว้เป็นหลักฐาน

เบื้องต้นพบว่า ระเบิดที่คนร้ายใช้เป็นชนิดแสวงเครื่อง ประกอบใส่ถังแก๊สขนาดบรรจุ 5 กิโลกรัม น้ำหนักระเบิดประมาณ 20 กิโลกรัม จุดชนวนด้วยวิทยุสื่อสาร ถูกนำไปวางไว้ในถังขยะหน้าบ้านชาวบ้าน โดยคนร้ายรู้ว่าบ้านเรือนประชาชนในละแวกนี้จะออกมาใส่บาตรทุกเช้า โดยมีพระสงฆ์ออกบิณฑบาต พร้อมกับทหารชุดคุ้มครองพระ จึงนำระเบิดมาวางดักสังหาร

ผู้ได้รับบาดเจ็บมีทั้งหมด 4 ราย ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลรือเสาะ ประกอบด้วย

1.อาสาสมัครทหารพราน (อส.ทพ.) ฤทธิพร ทองแก้ว อายุ 34 ปี
2.อส.ทพ.อนันต์ รัตนบุรี อายุ 37 ปี
3.นายซุลกีพลี เบ็ญจมาตร อายุ 57 ปี
4.พระสมพร มีผล อายุ 49 ปี

ผู้บาดเจ็บทั้งหมดได้รับผลกระทบจากแรงอัดระเบิด ทำให้มึนศีรษะและหูอื้อ อส.ทพ. 2 นายต้องพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลรือเสาะ ส่วนชาวบ้านกับพระสงฆ์ เมื่อปฐมพยาบาลเบื้องต้นแล้ว แพทย์อนุญาตให้กลับได้

จากการสอบสวนทราบว่า ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารพรานชุดรักษาความปลอดภัยพระ พร้อมพระสงฆ์จากวัดราษฎร์สโมสร จำนวน 2 รูป กำลังบิณฑบาตและอยู่ระหว่างกำลังเดินกลับวัด เมื่อเดินผ่านจุดเกิดเหตุ ซึ่งคนร้ายได้ลอบนำระเบิดไปวางไว้ในถังขยะ คนร้ายได้ใช้วิทยุสื่อสารกดจุดชนวนระเบิดขึ้น จนเกิดระเบิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว ยังดีที่พระสงฆ์และทหารพรานเดินผ่านจุดที่เกิดการระเบิดไปแล้วหลายก้าว จึงไม่ได้รับอันตรายมากนัก แต่ก็ยังทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยถึง 4 ราย รวมทั้งพระสงฆ์จากวัดราษฎร์สโมสรด้วย

พระเมธาปัญญาวุโธ พระลูกวัดราษฎร์สโมสร ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ลอบวางระเบิดด้วย เล่านาทีที่เกิดระเบิดให้ฟังว่า “ปกติจะออกไปบิณฑบาตทุกวัน ก่อนเกิดเหตุเป็นช่วงที่กำลังเดินกลับวัด เมื่อเดินผ่านมาได้ประมาณ 15 เมตร ก็เกิดระเบิดขึ้น ทำให้พระอีกรูปล้มลง ฝาบาตรกระเด็น ส่วนตนเองมีอาการหูอื้อและมึนหัว เช่นเดียวกับกำลังพลชุดคุ้มครองพระและชาวบ้านในย่านนั้น.

ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก สำนักข่าวอิศรา

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คุมเข้ม 10 วันสุดท้ายเดือนรอมฎอน หน่วยข่าวจับตาก่อเหตุซ้ำป่วนชายแดนใต้

ที่ด่านตรวจไกรลาศ หน้าที่ว่าการอำเภอเบตง จ.ยะลา นายอมร ชุ่มช่วย นายอำเภอเบตง อำนวยการสั่งการให้กำลังเจ้าหน้าที่ ตำรวจ และฝ่ายปกครอง เพิ่มมาตรการตรวจสอบ ค้นหารถยนต์ รถจักรยานยนต์ รวมทั้งบุคคลเป้าหมายอย่างเข้มงวด

ระเบิดตูมสนั่น อาคารเก็บวัตถุพยานฯ จังหวัดยะลา

เมื่อเวลาประมาณ 09.30 น. ที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุระเบิดขึ้น ที่คลังเก็บวัตถุพยาน ศูนย์ฝึกอบรมทางยุทธวิธี ศูนย์ปฎิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติส่วนหน้า (ศปก.ตร.สน.) บ้านบูเกะคละ อำเภอเมือง จังหวัด

คืบหน้าเหตุป่วนหลายจุดเดือนรอมฎอน คนร้ายมุ่งทำลายเศรษฐกิจในพื้นที่ จชต.

จากเหตุการณ์ คนร้ายกลุ่มใหญ่ก่อกวนหลายจุด ในเขตจังหวัดปัตตานี, จ.ยะลา, จ.นราธิวาส และจ.สงขลา สำหรับ จังหวัดปัตตานี เกิดเหตุมากที่สุด กระจายทั้ง 10 อำเภอ จำนวน 20 จุด ล่าสุดผวจ.ปัตตานี ลงพื้นที่ติดตามตรวจสอบ ความเสียหาย เยี่ยมญาติกรณี

นายกฯ สั่งตรวจสอบสถานการณ์ชายแดนใต้ พร้อมทำความเข้าใจประชาชนในพื้นที่

นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ต่อสถานการณ์ความไม่สงบภาคใต้ที่เกิดขึ้น นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง สั่งการให้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตาม ตรวจสอบสถานการณ์อย่างเร่งด่วน อย่างต่อเนื่อง

'เศรษฐา' ต่อสายตรง 'อันวาร์' ช่วยดับไฟใต้!

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง กล่าวถึงกรณีที่สั่งการให้พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะรักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ลงพื้นที่ไป

กอ.รมน. สรุปเหตุป่วนชายแดนใต้ 40 จุด สร้างสถานการณ์ความไม่สงบเดือนรอมฎอน

กอ.รมน. ภาค4 ส่วนหน้า ได้สรุปเหตุการณ์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เมื่อเวลาประมาณ 01.00 น. เป็นต้นไป ซึ่งเกิดเหตุ ก่อกวนหลายจุด ทั้งในเขตจังหวัดปัตตานี, จังหวัดยะลา, จังหวัดนราธิวาส และจังหวัดสงขลา