15 ก.ย.2566 - เวลา 15.20 น. ที่ห้องประชุมสโมสรราชพฤกษ์ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุผลในการลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคก้าวไกล ว่า การเห็นส่วนรวมมากกว่าส่วนตัวคือสำนึกของนักการเมือง ซึ่งในบริบทการเมืองปัจจุบัน ฝ่ายค้านต้องทำงานอย่างมีประสิทธิภาพในเชิงทั้งมหภาค และจุลภาค ซึ่งมหภาคฝ่ายค้านต้องเป็นเรือหลักในการกำหนดทิศทางการอภิปรายสำคัญฯ ทั้งเรื่องงบประมาณ อภิปรายแนะรัฐบาล และอภิปรายไม่ไว้วางใจ ส่วนเรื่องจุลภาค คือการแต่งตั้งวิปฝ่ายค้าน
ทั้งนี้ ไม่ต้องห่วงตน ขอให้ห่วงประชาชนห่วงบ้านเมืองจะดีกว่า สำหรับเรื่องส่วนตัวนั้น ตนยังยืนยันคำเดิมว่าไม่ยึดติดกับหัวโขนหรือตำแหน่ง ซึ่งปัจจุบันตนสามารถทำงานได้ถึงแม้จะไม่ได้มีตำแหน่งอะไรเลย อย่างไรก็ตาม ตนยังเป็นสส.ที่ไม่สามารถเข้าสภาได้ เนื่องจากถูกหยุดปฏิบัติหน้าที่ ตนยังยืนยันว่าจิตใจยังเต็มร้อย และยังเดินหน้าทำงานในช่วงที่รอคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ ในช่วงนี้อาจจะเจอตนมากกว่าเดิม และจะเดินหน้าเขย่าการเมืองไทย เขย่าปัญหาของประชาชน ผ่านตะแกรงร่อนเพื่อส่งต่อให้กับสส.พรรคก้าวไกล และฝ่ายค้าน ที่ยังอยู่ในสภาฯ รวมถึงเตรียมเดินทางไปทั่วประเทศ และต่างประเทศ
นายพิธา กล่าวว่า ตามกฎหมายขณะนี้ตนเป็นรักษาการหัวหน้าพรรคก้าวไกล กระทั่งวันที่ 23 ก.ย.นี้ ที่จะมีการประชุมวิสามัญพรรคก้าวไกล ที่จะมีการเลือกคณะกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) ชุดใหม่ และหัวหน้าพรรคคนใหม่ ซึ่งหลังจากมีหัวหน้าพรรคคนใหม่ก็จะเป็นส่วนหนึ่งของฝ่ายค้านเชิงรุกตามที่ตนได้ประกาศไว้
เมื่อถามถึงคุณสมบัติของบุคคลที่จะเป็นหัวหน้าพรรคก้าวไกลคนใหม่ นายพิธา กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับการประชุมวิสามัญพรรคฯ รวมถึงคนที่ถูกเสนอชื่อจะยอมรับตำแหน่งหรือไม่ ส่วนตัวมองว่ามีบุคคลที่เหมาะสมที่จะนำพรรคกว่า 4 – 5 คน ขึ้นอยู่กับว่าจะเอาคนบู๊หรือบุ๋น ซึ่งตนมากังวลใจอะไร แต่พรรคก้าวไกลไม่ได้เป็นพรรคที่มีเจ้าของที่ไม่สามารถสืบทอดอำนาจได้ ซึ่งเรื่องนี้มีระบบ มีกฎหมาย มีข้อบังคับรับรอง เชื่อว่าพรรคก้าวไกลมีความพร้อม
เมื่อถามว่า น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล มีความเหมาะสมหรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า มีเหมาะสม 4 – 5 คน ซึ่งน.ส.ศิริกัญญา เป็นหนึ่งในนั้น
เมื่อถามถึงกระแสข่าวที่พรรคก้าวไกลจะขับนายปดิพัทธ์ สันติภาดา สส.พิษณุโลก และรองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 เพื่อรักษาตำแหน่งรองประธานสภาฯ นายพิธา กล่าวว่า หลังจากประชุมวิสามัญพรรรคฯ เป็นหน้าที่ของกก.บห.พรรคชุดใหม่ที่จะหารือกับนายปดิพัทธ์ ฉะนั้น ต้องรอเวลา และฟังความเห็นของนายปกิพัทธ์ด้วยตัวเขาเอง
เมื่อถามย้ำว่า พรรคก้าวไกลจะรักษาไว้ทั้งตำแหน่งรองประธานสภาฯ และผู้นำฝ่ายค้านใช่หรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า ต้องรอกก.บห.พรรคชุดใหม่ รวมถึงฟังความเห็นของนายปดิพัทธ์ด้วย
ถามว่า หากในอนาคตศาลรัฐธรรมนูญคืนสถานะให้จะมีโอกาสกลับมาเป็นหัวหน้าพรรคหรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า เป็นเรื่องของอนาคต ไม่ได้เป็นเรื่องของตนเพียงคนเดียว แต่เป็นเรื่องของข้อบังคับพรรค และสมาชิกพรรค
ถามอีกว่า ไม่ได้ปฏิเสธใช่หรือไม่ว่าจะกลับมารับตำแหน่งอีกรอบ นายพิธา กล่าวว่า ไม่ได้ปฏิเสธ แต่เป็นเรื่องของอนาคต
ซักว่า การประกาศลาออกจากหัวหน้าพรรคไว้ก่อน สะท้อนถึงความไม่มั่นใจในการตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า ไม่เกี่ยวข้องกัน ฝั่งเรายังมีความมั่นใจเรื่องการขับเคลื่อนพรรคในฐานะฝ่ายค้านเชิงรุก ในฐานะพรรคอันดับหนึ่งในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ยืนยันว่ามั่นใจเต็มร้อย ส่วนเรื่องของรูปคดี ฝ่ายกฎหมายของเราทำหน้าที่อย่างเต็มที่ คาดว่าคงไม่มีปัญหาอะไร เนื่องจากไม่ว่าจะเป็นกระบวนการของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ไม่ว่าจะเป็นตัวไอทีวีเอง หรือตัววัตถุประสงค์รายได้สัมปทาน ซึ่งสามารถเทียบได้ว่าเป็นสื่อหรือไม่เป็นสื่อ
เมื่อถามถึงกรณีที่นายพิธาติด 1 ใน 100 ผู้มีอิทธิพลในนิตยสาร Time นายพิธา กล่าวว่า ดีใจที่ทั่วโลกเห็นความพยายามที่จะเขย่าการเมืองไทย พร้อมที่จะขยับเขยื้อนให้ประเทศไทยมีส่วนสำคัญในบริบทอาเซียน และบริบทโลก รวมถึงการถ่วงดุลอำนาจเพื่อนำประเทศไทยสู่อนาคตได้
ถามว่า หากให้คำนิยามการเมืองไทยรอบนี้จะให้ว่าอย่างไร นายพิธา กล่าวว่า คิดว่าเป็นการเมืองของคน 1% กับการเมืองของคน 99% และพรรคก้าวไกลพร้อมที่จะรับรองคน 99% เพื่อต่อสู้กับคน 1%
เมื่อถามอีกว่ามีการมองว่านายพิธาลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคครั้งนี้พร้อมเดินเกมนอกสภาเต็มรูปแบบ นายพิธา กล่าวว่า ไม่ได้เป็นการเดินเกมแต่อย่างใด ในเมื่อสถานการณ์มันเป็นแบบนี้ รัฐธรรมนูญที่เราต้องการเปลี่ยนเป็นมาแบบนี้ ก็จะเป็นที่จะต้องเอาส่วนรวมมาก่อนส่วนตัว ซึ่งในเชิงส่วนตัวตนสามารถทำงานได้โดยที่ไม่มีตำแหน่งอะไร การเป็นผู้แทนราษฎรที่จะพูดแทนราษฎร ตนก็ยังเชื่อว่าไม่ว่าตนจะลงไปในพื้นที่ อ.อมก๋อย ที่มีปัญหาเหมือง หรือ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่มีปัญหาสันติสุข สันติภาพ ตนเชื่อว่าเวลาตนพูดอะไรก็มีคนฟัง และน่าจะแก้ปัญหาได้
ถามต่อว่ามีอะไรฝากถึงด้อมส้มหรือผู้สนับสนุนนายพิธาที่กำลังขวัญเสียกับการประกาศลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคหรือไม่นายพิธา กล่าวว่า “เจอกันทั่วประเทศ เจอกันทั่วโลก และจนกว่าเราจะกลับมาเจอกันใหม่”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เทพไท แนะทางออก อนุทิน ยุบสภา ดีกว่า ลาออก
นายเทพไท เสนพงศ์ นักวิเคราะห์การเมือง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก อนุทิน ยุบสภา ดีกว่า ลาออก
สู้ศึกเลือกตั้ง ‘ไทยภักดี’ โหวต 'หมอวรงค์' คืนตำแหน่งหัวหน้าพรรค
นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊ก วรงค์ เดชกิจวิกรม
'เทพไท' ฟันธง 'ธรรมนัส' แคล้วคลาดอยู่รอดจนครบวาระรัฐบาล
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์คลิปพร้อมเนื้อหาบนเฟซบุ๊ก “เทพไท – คุยการเมือง”ในหัวข้อ ไม่มีใครทำอะไร ธรรมนัส ได้
'ธรรมนัส' ลั่นไม่ลาออกหนีปัญหา เปรียบเป็นนักรบ ถ้าจะตายก็ต้องตายในสนามรบ
"ธรรมนัส" ลั่นไม่ลาออก ไม่หนีปัญหาแน่นอน ถ้าจะตายก็ต้องตายในเวทีการเมือง เย้ยผู้ประสงค์ร้ายปล่อยข่าวลาออกไม่สำเร็จ ซัด สส.ภาคกลาง ปม“แก้มลิงทุ่งหิน”ศึกษาให้ดีก่อน เผย ต้องลงไปแก้ไขสิ่งทึ่ลุงก่อไว้แล้วไม่สำเร็จ
พท. เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครเพิ่ม 31 เขต ส่ง 'อดีตเลขาฯปปส.' ชน 'ธรรมนัส'
'เพื่อไทย' เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร สส. รอบ 3 อีก 31 เขต ส่ง 'อดีตเลขาฯ ป.ป.ส.' ชน ''ธรรมนัส' ส่วนคู่สมรส 'จักรภพ' ลง กทม. 'จุลพันธ์' มั่นใจได้ตั้งรัฐบาล
'เฉลิมชัย' บุกปัตตานี ส่งสัญญาณชัดเข้ากล้าธรรม '2 สส.ใต้ ปชป.' ร่วมวงด้วย
มีความเคลื่อนไหวนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน อดีตรมว.เกษตรและสหกรณ์ ภายหลังลาออกจากสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์


