นายกฯ เผยเครื่องบินพร้อมรับคนไทยในอิสราเอลภายใน 24 ชม.

นายกฯ เผย เครื่องบินพร้อมคนรับคนไทยในอิสราเอล 24 ชม. แต่ตอนนี้น่านฟ้าปิด เผย ข้อมูลยังไม่ยืนยัน ตาย 1 ถูกจับ 11 คน ยันติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด ให้ทูตไทยรายงานทุกวัน ย้ำเสียใจ ไม่อยากให้เกิดขึ้น สั่ง “จักรพงษ์” อยู่ไทย คอยประสานงาน

8 ต.ค. 2566 – เมื่อเวลา 08.35 น. ที่ท่าอากาศยานทหารอากาศ 2 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ให้สัมภาษณ์ก่อนเดินทางเยือนเขตบริหารพิเศษฮ่องกง สาธารณรัฐประชาชนจีน บรูไนดารุสซาลาม มาเลเซีย และสาธารณรัฐสิงคโปร์อย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่8 -12 ต.ค. ถึงการช่วยเหลือดูแลคนไทยในประเทศอิสราเอล ว่า ตนได้พูดคุยกับเอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำประเทศไทย ได้ให้กำลังใจ และได้ฝากดูแลคนไทยที่อยู่ในอิสราเอล รวมถึงได้มีการพูดคุยกับเอกอัครราชทูตไทยประจำอิสราเอลด้วย อย่างไรก็ตาม มีการรายงานแบบไม่ยืนยันว่า มีคนไทยเสียชีวิต 1 คน และมีแรงงานไทยที่เข้าใจว่าถูกจับตัว กักขังไว้ 11 คน ซึ่งตอนนี้ยังไม่ได้รับการยืนยันว่า อยู่ที่ไหนและอยู่ส่วนไหนบ้าง และปัจจุบันมีการล็อคดาวน์เกิดขึ้น ห้ามออกจากบ้าน

ทั้งนี้ ตนได้มีการพูดคุยกับผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) ว่าเครื่องบินของกองทัพอากาศได้เตรียมพร้อม แต่น่านฟ้าของอิสราเอลปิด แต่เราไม่ได้นิ่งนอนใจ มีการสแตนด์บาย 24 ชั่วโมง มีคณะแพทย์ที่จะเดินทางไปด้วย ตรงนี้เป็นเรื่องที่ต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด ตนได้ให้เบอร์โทรศัพท์ส่วนตัวกับเอกอัครราชทูตไทยประจำอิสราเอล โดยขอให้มีการรายงานประจำวันมา ซึ่งในส่วนของทูตเองก็ถูกล็อคดาวน์ ส่วนทุกบ้านที่อิสราเอลจะมีช่องหลบภัย ขณะที่เหตุการณ์ขณะนี้ยังมีความตึงเครียดอยู่ ยังเดินหน้าไปในทิศทางที่ยังไม่ดีขึ้น อันนี้ต้องยอมรับว่าสถานการณ์ยังน่าเป็นห่วง

เมื่อถามถึงความชัดเจนของแรงงานไทยที่ถูกกักตัว นายเศรษฐา กล่าวว่า ตนไม่ทราบ เพราะยังไม่ได้รับการยืนยันว่าอยู่ที่ไหนอะไรอย่างไร แต่เราก็ต้องพยายามเต็มที่ ใช้วิธีทางการทูต เพราะเขาเป็นคนบริสุทธิ์ ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับความขัดแย้ง เมื่อถามว่า พื้นที่ทางใต้ของอิสราเอลมีแรงงานไทยอยู่จำนวนมาก จะส่งไปช่วยหรือไม่ อย่างไร นายเศรษฐา กล่าวว่า ก็เรื่องเดิม ตอนนี้ไม่สามารถออกจากบ้านได้เลย ซึ่งตนคอยฟังรายงานอยู่ตลอด ส่วนที่บอกว่าถูกจับตัวไป 11 คนนั้น ก็ยังไม่รู้ว่าจริงหรือไม่ อาจจะมากหรือน้อยกว่านั้นซึ่งเราไม่ทราบจริงๆ

ผู้สื่อข่าวถามว่า นอกจากศูนย์กลางในการรับแจ้งที่มายังกระทรวงต่างประเทศ ยังจะมีศูนย์ในส่วนของจังหวัดหรือภาคอื่นๆอีกหรือไม่นายกฯ กล่าวว่า เราก็มีเบอร์โทรศัพท์ให้ติดต่อเข้ามา เมื่อถามว่า ขณะนี้รอสัญญาณอะไรในการที่จะส่งเครื่องบินเข้าไปช่วยเหลือคนไทย นายกฯ กล่าวว่า น่านฟ้ายังไม่ได้เปิดในตอนนี้ คนก็ออกจากบ้านไม่ได้เลย เพราะมีการล็อคดาวน์อยู่

เมื่อถามว่า แผนอพยพคนไทยของเราอยู่ในระดับไหน นายกฯ กล่าวว่า ไม่ทราบศัพท์ทางการ แต่ระดับความพร้อมมีตลอด 24 ชั่วโมงพร้อมทันทีที่จะไป และได้พูดคุยกับทาง ผบ.ทอ. ท่านก็มีความพร้อมตลอด สแตนด์บายตลอด 24 ชั่วโมง เตรียมเครื่องบิน C 130 ไว้เติมน้ำมัน 1 ครั้ง ซึ่งตนได้เรียนเอกอัครราชทูตไทยประจำอิสราเอลไปว่า ตนสามารถเอาเครื่องบินไปคอยสแตนด์บายไว้ได้ จะได้มีความรวดเร็ว แต่ตรงนี้เป็นเพียงข้อเสนออยู่ เพราะน่านฟ้ายังไม่เปิด สมมุติถ้าออกจากบ้านได้แล้ว แต่น่านฟ้ายังไม่เปิดก็ถือว่าลดความรุนแรงลงมาระดับนึง ก็อาจจะพิจารณาใหม่ ตนเชื่อว่ากระทรวงการต่างประเทศ และทางกองทัพอากาศ ประเมินสถานการณ์กันอยู่ เรื่องนี้ให้ความกังวลใจในระดับสูงสุด

เมื่อถามว่า เที่ยวบินหนึ่งสามารถนำคนกลับมาได้จำนวนเท่าไหร่ นายกฯ กล่าวว่า 423 คน ทั้งนี้ สำหรับแรงงานไทยที่อยู่ในอิสราเอลมีจำนวน 25,000 คน โดยมีประมาณ 5,000 คน ที่อยู่ในเขตที่ปิด และตอนนี้เท่าที่ทราบมี 11 คน ที่ยังไม่มีการยืนยันเป็นทางการว่าถูกจับกุม รวมถึงผู้เสียชีวิต 1 คน ส่วนผู้บาดเจ็บยังไม่ทราบว่ามีจำนวนเท่าไหร่ และแน่นอนระหว่างที่ตนปฏิบัติภารกิจอยู่ต่างประเทศจะติดตามสถานการณ์อยู่ตลอด กับเอกอัครราชทูตไทยในอิสราเอล เราก็มีเบอร์โทรศัพท์กัน

เขาก็มีเบอร์โทรศัพท์ตนแล้ว เขาสามารถติดต่อตนได้ตลอด รวมถึงให้มีการรายงานประจำวัน ซึ่งไม่ต้องห่วง เพราะเป็นเรื่องที่ให้ความสำคัญสูงสุด

เมื่อถามย้ำว่า นายกฯเป็นห่วงอะไรเป็นพิเศษในเรื่องนี้หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า เป็นธรรมดา การที่มีผู้บริสุทธิ์เสียชีวิตเป็นเรื่องที่เราเสียใจ ไม่อยากให้เกิดขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเป็นคนไทยที่ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของความขัดแย้ง เรามีความกังวล มีความไม่สบายใจ

เมื่อถามว่า จะมีการตั้งศูนย์คอลเซ็นเตอร์ เพื่อให้ญาติประสานงานหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ก็คงต้องมี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อนายกฯให้สัมภาษณ์เสร็จสิ้น นายกฯ ได้เดินเข้าไปห้องรับรอง ก่อนที่จะเดินกลับมาให้สัมภาษณ์อีกครั้ง โดยนายกฯกล่าวว่า เนื่องจากนายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกฯ และรมว.ต่างประเทศ และนายจักรพงษ์ แสงมณี รมช.ต่างประเทศต้องเดินทางไปต่างประเทศ ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องรุนแรง และต้องมีคนคอยประสานงานอยู่ด้วย ตนจึงสั่งการไม่ให้นายจักรพงษ์เดินทางไปด้วย และถอนรายชื่อออกจากเที่ยวบินนี้ และจะดูปฏิบัติหน้าที่ที่นี่ คำถามที่ถามเมื่อสักครู่นายจักรพงษ์ ได้ยินแล้วและจะให้ความกระจ่างต่อไป รวมถึงการประสานงาน ไม่ว่าจะเป็นคนที่ถูกจับไป การเดินหน้าทางการทูต เพื่อให้คนไทยปลอดภัยทุกคน อย่างน้อยก็เพื่อให้สื่อมวลชนและประชาชนสบายใจว่ารัฐบาลชุดนี้ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้สูงสุด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เดิมนายจักรพงษ์มีรายชื่ออยู่ในคณะที่จะต้องเดินทางไปปฎิบัติภารกิจกับนายกฯที่ต่างประเทศในครั้งนี้ด้วย และได้เดินทางมาที่ท่าอากาศยานทหาร 2 ในครั้งนี้ เพื่อเตรียมจะเดินทางไป แต่เมื่อนายกฯมอบหมายด่วน จึงไม่ได้ร่วมเดินทางไปด้วยแล้ว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ศิริกัญญา' มอง 'ขุนคลังคนใหม่' ทำงานได้เต็มที่ ไม่ต้องแบ่งเวลามาเป็นเซลส์แมนประเทศ

น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.)ในส่วนของกระทรวงการคลัง ว่า ปรากฎว่ามีรัฐมนตรีในกระทรวงการคลังถึง 4 คน ซึ่งน่าจะมากที่สุดในประวัติศาสตร์ อันที่จริงกรมในกระทรวงก็มีไม่ได้มากคงแบ่งกันดูแลคนละกรมครึ่ง

'เพื่อไทย' จ่อเคลียร์ใจ 'ปานปรีย์' ชวนนั่งกุนซือพรรค ไม่รู้ 'นพดล' เสียบแทน

'เลขาฯ เพื่อไทย' รับต้องคุย 'ปานปรีย์' หลังไขก๊อกพ้น รมว.ต่างประเทศ แย้มชงนั่งที่ปรึกษาพรรค มั่นใจไม่เกิดแรงกระเพื่อม ปัดวางตัว 'นพดล' เสียบแทน ชี้ 'ชลน่าน-ไชยา' หน้าที่หลักยังเป็น สส.

พท. จัดใหญ่! '10 เดือนที่ไม่รอ ทำต่อให้เต็ม 10' ตีปี๊บผลงาน 'รัฐบาลเศรษฐา'

'เพื่อไทย' เตรียมจัดงาน '10 เดือนที่ไม่รอ ทำต่อให้เต็ม 10' สรุปผลงาน 'รัฐบาลเศรษฐา' 3 พ.ค.นี้ เดินหน้าเติมนโยบายที่สัญญาไว้กับประชาชน พร้อมเปิดตัวผู้สมัครนายก อบจ.

‘เศรษฐา’ แจงยิบปรับครม. ขอโทษ ‘ปานปรีย์’ ทำให้ไม่สบายใจ บอกมีคนแทนในใจแล้ว

‘เศรษฐา’ เผย ส่งข้อความผ่านกลุ่มงานต่างประเทศขอโทษ ‘ปานปรีย์’ ถ้าทำให้ไม่สบายใจ บอกได้คุยกันก่อนปรับ ครม.แล้ว ชี้มีทั้งคนสมหวัง-ผิดหวัง พร้อมรับผิดชอบ แย้มมองหาคนใหม่ตั้งแต่เมื่อคืน ดีกรี การทูต-การเมือง ทำงานเบื้องหลัง’เพื่อไทย’ มานาน