เปิดศึกแล้ว 'วุฒิพงศ์' จ่อหอบหลักฐานมัดผู้ช่วยสส.เบญจา-ก้าวไกล เอี่ยวทุจริตบ่อขยะ

8 พ.ย.2566 - นายวุฒิพงศ์ ทองเหลา ส.ส.ปราจีนบุรี อดีตสมาชิกพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้า หลังจากได้ออกมาเปิดเผยการทุจริตโรงงานบ่อขยะกับนาย ส. ที่เป็นผู้ช่วย สส. ของน.ส.เบญจา แสงจันทร์ กรรมการบริหารพรรค ก้าวไกล และเป็นต้นเหตุให้ถูกขับออกจากพรรค หลังถูกตัดสินในกรณีคุกคามทางเพศ ว่า ในวันพุธที่ 22 พ.ย.นี้ กรรมาธิการการอุตสาหกรรม สภาผู้แทนราษฎร ได้เชิญตนไปชี้แจงเรื่องราวที่เกิดขึ้น เนื่องจากตนเป็นทั้งกรรมาธิการ และผู้ให้ข้อมูลด้วย

โดยเรื่องหลักๆ ที่จะไปชี้แจงคือ เรื่องมลพิษที่เกิดขึ้นในพื้นที่ โดยเฉพาะโรงงานกำจัดขยะ และเรื่องทุจริตของผู้ช่วย สส.พรรคก้าวไกลคนดังกล่าว ซึ่งมองว่าต้นเหตุคือ การให้อามิสสินจ้างกับผู้ช่วย ส. ที่ตนมีหลักฐานเยอะมาก เรื่องผู้ช่วย ส. ถ้าดูตามพยานหลักฐาน มีมูลสูงมาก 95-100%

เมื่อถามถึงกรณีเมื่อวันที่ 7 พ.ย.ที่ผ่านมา ที่นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้ระบุว่า น.ส.เบญจา ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง เพราะไม่มีหลักฐานนั้น นายวุฒิพงศ์ กล่าวว่า ขอให้ดูตามไทม์ไลน์ดีกว่า เราเห็นในสื่ออยู่ว่ามีการประกาศ มีการแถลง ตนอยากให้กรณีของตนเป็นกรณีสุดท้าย ในกระบวนการใช้อำนาจเกินขอบเขตเท่านั้น คนอื่นจะได้ไม่ต้องได้รับผลกระทบอีก

“มองกันตรงไปตรงมา จะตอบอย่างไร นายชัยธวัชก็สามารถตอบได้ในฐานะที่เป็นหัวหน้าพรรค” นายวุฒิพงศ์ กล่าว

ถามต่อว่าจากการแถลงของนายชัยธวัช มีการระบุในทำนองว่า อย่าเบี่ยงประเด็น เพราะหากมีทุจริต ก็ไม่สามารถหักล้างเรื่องคุกคามทางเพศได้ นายวุฒิพงศ์ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องผูกพัน เป็นเรื่องมูลเหตุจูงใจในการที่เราเห็นว่า ในส่วนของตนค่อนข้างชัด ตนร้องเรื่องทุจริตไป 4 เดือนแล้ว ไม่คืบหน้าเลย แล้วก็เก็บประเด็นนี้ไว้ใต้พรม แต่ในส่วนการคุกคามทางเพศของตน เมื่อเรื่องเข้าไปที่พรรค กระบวนการมันเดินไวมาก เร็วไปหมด

“พอเห็นว่าจะมีบุคคลภายนอกเข้ามานั่งสอบสวน แต่จริงๆ มันไม่มี เราก็ต้องบอกว่ามันไม่มี มันเป็นเหมือนกระบวนการที่ไม่ถูกต้อง ชี้ให้เราผิด หรือเรายอมรับ เหมือนอย่างที่ผมบอกไปว่า ตั้งเอง ชงเอง มีมติเอง มันลุกับการใช้อำนาจเกินขอบเขต” นายวุฒิพงศ์ กล่าว

นายวุฒิพงศ์ กล่าวยืนยันด้วยว่า จะแจ้งความกลับในคดีอาญา เพราะมองว่าเรื่องคุกคามทางเพศ กับเรื่องทุจริตบ่อขยะ เป็นเรื่องเนื้อเดียวกัน ค่อนข้างชัด ซึ่งอย่างที่บอกว่าต้องแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือส่วนของคดีอาญาก็ต้องหาคำตอบให้กับสังคม ส่วนที่ 2 การเป็นนักการเมือง ก็ต้องมีองค์กรภายนอก อย่างคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ที่สามารถเดินไปได้ ถ้ามีมูล องค์กรเหล่านี้ ก็น่าจะเรียกตนไปให้ชี้แจง

“ก็ดี จะได้เปิดเผยออกไป แต่เราก็ต้องดูด้วยว่า ผลกระทบมันจะออกไปทำให้ตัวพรรคที่เคยอยู่เขาเสียหายไหม เราค่อนข้างที่เป็นกระจกสะท้อนเรื่องที่เกิดขึ้น สะท้อนถึงการทำงานที่ลุแก่อำนาจในบางเรื่อง อยากสะท้อนให้เพื่ออย่างน้อย จะได้มีการปรับปรุงในอนาคต ถึงแม้เราไม่อยู่แล้วก็ควรที่จะตรงไปตรงมา” นายวุฒิพงศ์ กล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'เท้ง' ไม่ตอบเสียงส้มไหลช่วย 'ภท.' ไล่ 'พท.' ปรับปรุงตัวแพ้เลือกตั้งซ่อม

'หัวหน้าเท้ง' ปัดตอบ คะแนนพรรคส้มไหลช่วย 'ภูมิใจไทย' ทำชนะเลือกตั้งซ่อม สส.ศรีสะเกษ ย้อน 'เพื่อไทย' ประเมินปรับปรุงตัวเอง

เดือด! รังสิมันต์ซัดเพื่อไทยพรรคไร้กระดูกสันหลัง

'รังสิมันต์' จวก 'เพื่อไทย' ไร้กระดูกสันหลัง ไม่ควรเรียกตนเองเป็นตัวแทนนักสู้ประชาธิปไตย ละเลยผู้เห็นต่างให้ติดคุกต่อ ขอบคุณ '6 สส.' โหวตหนุนร่างนิรโทษกรรม 'ภาคประชาชน-ก้าวไกล' ยังพอยกมือไหว้ได้

ดันทุรัง! ณัฐพงษ์ฟุ้งเปิดประตูนิรโทษกรรมให้กว้างที่สุดในชั้นกรรมาธิการ

'ณัฐพงษ์'​ เผย 'ปชน.' พร้อมทำหน้าที่อย่างมีวุฒิภาวะในชั้น กมธ. แม้ ฉบับภาคประชาชน-ก้าวไกล ถูกตีตก บอกจะไม่ละทิ้งความหวัง ใช้กลไกเปิดประตูนิรโทษให้กว้างที่สุด

'ปิยบุตร' โหยอดีต! รีรันคำปราศรัยเลือกตั้งปี 66 เสียงระฆังแห่งการเปลี่ยนแปลงดังอุโฆษอยู่หน้าประตูบ้านทุกท่านแล้ว

นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า นำคำปราศรัยการเลือกตั้งส.ส.ปี 2566 กลับมาโพสต์อีกครั้ง โดยระบุว่า[ครบรอบ 2 ปี ก

'โรม' ข้องใจปม ป.ป.ช. ล็อกเป้าเชือด 12 สส.พรรคประชาชน

'รังสิมันต์' ตั้งข้อสังเกตจงใจหรือไม่ หลัง ป.ป.ช. จัดกลุ่ม 44 สส.ตัวตึงพรรคสีส้ม จ่อถูกสอยคดีแก้ 112 ลั่นเกลียดพวกเราได้ แต่ทำแบบนี้ประเทศได้อะไร หากฝ่ายค้านอ่อนแอ ข้องใจพวกสมคบคิด-เคลียร์คดีกัน ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่ กลับไม่ได้รับการแก้ไข

‘พิธา’ ชี้ 5 ปี สิ่งที่ไม่เปลี่ยน คือพยายามทำลายทางเลือก ปชช. มั่นใจพลังประชาธิปไตยไม่ถูกยุบตามพรรค

พิธา ระบุ5 ปีผ่านไป สิ่งที่เปลี่ยนคือบริบท สิ่งที่ไม่เปลี่ยนคือความพยายามทำลายทางเลือกของประชาชน แต่สิ่งหนึ่งที่ผมเชื่อมั่นเสมอ—พลังของประชาธิปไตยไม่ได้ถูกยุบไปพร้อมกับพรรค