
4 ธ.ค. 2566 – ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สนามบินน้ำ จ.นนทบุรี นายศรชัย ชูวิเชียร ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะรองโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. แถลงถึงมติของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดคดีการกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ กรณีมีเหตุอันควรสงสัยว่านายดนัย ดำรงชัยโยธิน นักวิชาการสรรพากรชำนาญการพิเศษ ปฏิบัติหน้าที่สรรพากรอำเภอ สำนักงานสรรพากรพื้นที่สาขาบางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการ กับพวกรวม 4 ราย ว่า ร่ำรวยผิดปกติ โดยเป็นกรณีสืบเนื่องจากการการทุจริตยักยอกเงินคืนภาษีอาการในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ
จากการไต่สวนพบว่า รายการทรัพย์สินของผู้ถูกกล่าวหา ได้แก่ เงินฝากในธนาคารที่ได้มาโดยไม่สัมพันธ์กับรายได้ เกินกว่าฐานะและรายได้ที่ได้รับจากราชการ และไม่สามารถชี้แจงที่มาของรายการเงินฝากได้ จึงเป็นกรณีที่ผู้ถูกกล่าวหามีพฤติการณ์ร่ำรวยผิดปกติ ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 4 โดยมีทรัพย์สินมากผิดปกติ หรือมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นผิดปกติ หรือหนี้สินลดลงมากผิดปกติ หรือได้ทรัพย์สินมาโดยไม่มีมูลอันจะอ้างได้ตามกฎหมายสืบเนื่องมาจากการปฏิบัติตามหน้าที่หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่ รวมเป็นเงิน 2,085,348,581.53 บาท ดังนี้
1.บัญชีเงินฝากจำนวน 7 บัญชี ของนายดนัย ดำรงชัยโยธิน รวม 1,189,273,347.48 บาท
2.บัญชีเงินฝากจำนวน 5 บัญชี ของนางชลธาร คงมั่น รวม 559,946,602.03 บาท
3.บัญชีเงินฝากจำนวน 3 บัญชี ของนางสาวดวงกมล ปลื้มสวาสดิ์ รวม 334,246,632.02 บาท
4.บัญชีเงินฝากจำนวน 1 บัญชี ของนางสาวอุทุมพร เข็มวิชัย รวม 1,882,000 บาท
คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาแล้วมีมติว่า นายดนัย ดำรงชัยโยธิน นางชลธาร คงมั่น นางสาวดวงกมล ปลื้มสวาสดิ์ และนางสาวอุทุมพร เข็มวิชัย ผู้ถูกกล่าวหา ร่ำรวยผิดปกติ โดยมีทรัพย์สินมากผิดปกติ หรือมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นมากผิดปกติ หรือได้ทรัพย์สินมาโดยไม่มีมูลอันจะอ้างได้ตามกฎหมายสืบเนื่องมาจากการปฏิบัติตามหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่ เป็นเงินจำนวน 2,085,348,581.53 บาท
ให้ส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสาร พยานหลักฐาน และความเห็น ไปยังอัยการสูงสุด เพื่อยื่นคำร้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ เพื่อขอให้ศาลสั่งให้ทรัพย์สินที่ร่ำรวยผิดปกติตกเป็นของแผ่นดินและให้แจ้งผลการพิจารณาของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ให้กรมสรรพากรดำเนินการลงโทษไล่ออก ในกรณีร่ำรวยผิดปกติ โดยให้ถือว่าผู้ถูกกล่าวหากระทำการทุจริตต่อหน้าที่ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 122.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ดีเอสไอเผยคืบหน้าคดีคุกวีไอพี อธิบดีราชทัณฑ์ ยันขรก.ทุจริตต้องถูกลงโทษ
"ดีเอสไอ" เร่งสอบเส้นทางเงินผู้ต้องขังชาวจีน พร้อมเรียกเจ้าหน้าที่และอดีต ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ให้ปากคำครบทุกฝ่าย
นายกฯ มอบนโยบายงบฯปี 70 กำชับใช้โปร่งใส โอดอยากนามสกุลหลีกภัย แต่กลายเป็นเจอภัย
นายกฯ มอบนโยบายงบฯปี 70 กำชับใช้โปร่งใส ประโยชน์กลับสู่ปชช. เข้มขอเท่าที่จำเป็น เตรียมปรับงบฯรับมือภัยธรรมชาติ เป็นลำดับแรก ขอความร่วมมือรัฐ-เอกชน เลือกจัดอีเว้นที่หาดใหญ่ หวังเม็ดเงินช่วยในพื้นที่ ชี้เหตุน้ำท่วมมุ่งพัฒนาทำถนน-ขนส่งทางบก ขวางทางน้ำ โอด อยากใช้นามสกุล ‘หลีกภัย’ แต่เจอ 4 ภัย ‘เศรษฐกิจ-มั่นคง-สังคม-ภัยธรรมชาติ’ ลั่นรักษาอธิปไตยพร้อมหนุนกองทัพ ซื้ออาวุธยังจำเป็น ปลุกสามัคคีทำงานรับใช้ชาติ
ป.ป.ช. สอบคุกวีไอพี ไล่เช็กกล้อง-เส้นทางนำคนนอกเข้าเรือนจำ
ป.ป.ช.ลุยตรวจเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เปิดปฏิบัติการเชิงรุกสอบสิทธิพิเศษ “ผู้ต้องขังจีนเทา” ไล่เช็กกล้อง-เส้นทางนำคนนอกเข้าเรือนจำ จ่อรายงานบอร์ดป.ป.ช.พิจารณาต่อ
เด้งจนท.สรรพากรรีดเงิน1แสน
สรรพากรเด้งเจ้าหน้าที่เอี่ยวรีดเงินผู้ประกอบการ 1 แสน
มาแล้ว 'ศรีสุวรรณ' ยื่น ป.ป.ช. สอบอดีต ผบ.คุกพิเศษกรุงเทพกับพวก เอื้อนักโทษจีนเทา
นายศรีสุวรรณ จรรยา องค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน ยื่นคำร้องต่อ ป.ป.ช. เพื่อขอให้ไต่สวนและวินิจฉัยชี้มูลความผิด อดีต ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯกับพวก หลังถูกย้ายให้ไปเป็นผู้ตรวจฯ หลังตรวจพบมีการนำหญิงสาวมาบริการนักโทษจี
จ่อฟันซ้ำ! 'ผบ.คุก - 19 ผู้คุม' พักราชการ-ให้ออกไว้ก่อน
'โฆษกกรมราชทัณฑ์' เผยอีก 1-2 วันนี้ เตรียมเปลี่ยนแปลงคำสั่ง 'ผบ.เรือนจำฯ-จนท.' รวม 20 ราย ส่อ 'พักราชการ-ให้ออกจากราชการไว้ก่อน ขณะที่ 'ดีเอสไอ' ลุยสอบปากคำเก็บหลักฐานมัดผิด


