'จตุพร' เตือน 'เทวดาทักษิณ' ปชช.มีพลังเติบใหญ่ จะเอาไม่อยู่ ระวังเป็นเงื่อนไขรัฐประหาร

การที่ทักษิณ ไม่ยอมติดคุกสักวัน แต่ใช้อภิสิทธิ์คนป่วยไปนอนชั้น 14 รพ.ตำรวจจะกลายเป็นชนวนนำไปสู่ความขัดแย้งครั้งใหญ่ และจะนำสู่การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองไม่รู้แบบไหน อาจจะจบลงแบบ 19 ก.ย 2549 หรือ 22 พ.ค. 2557 ย่อมเกิดขึ้นได้

26 ธ.ค.2566- นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊คไลฟ์ว่า ทักษิณ ชินวัตร อ้างป่วยพักรักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ นานกว่า 120 วันแล้ว แต่ยังไม่ถูกส่งตัวกลับเข้าเรือนจำ ไปรักษาและคุมขังที่ รพ.ราชทัณฑ์ ยิ่งทำให้ความไม่พอใจของประชาชนลุกลามขยายวงทวีกว้างขึ้น ซึ่งไม่เป็นผลดีกับรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน

นายจตุพร กล่าวว่า ทักษิณ จะถูกคุมขังที่บ้านหรือไม่นั้น เมื่อระเบียบราชทัณฑ์เปิดให้ทำได้อยู่แล้ว แต่จะกล้าหรือไม่ เพราะตั้งแต่ระเบียบราชทัณฑ์ออกมาเมื่อ 6 ธ.ค. 2566 ทักษิณสามารถออกไปอยู่ได้บ้านทุกวัน แต่คงไม่ง่ายกับการท้าทายอารมณ์ของประชาชนที่ทวีเพิ่มความสงสัยมากขึ้น

อีกทั้งกล่าวว่า หลังถูกยึดอำนาจเมื่อ 2549 ทักษิณ ลี้ภัยการเมืองอยู่ต่างประเทศกว่า 15 ปี ผ่านการดีลสารพัดเพื่อต้องการกลับไทยให้ได้ เมื่อโอกาสเปิดให้จึงได้กลับมาในวันที่ 22 สค. 2566 พร้อมกับรับสารภาพความผิดกับพระเจ้าแผ่นดิน จึงได้รับพระราชทานอภัยลดโทษจาก 8 ปีเหลือ 1 ปี แต่อ้างป่วยเข้ารักษาตัวที่ รพ.ตำรวจ จนถึงขณะนี้

นายจตุพร ย้ำว่า หลังถูกยึดอำนาจเมื่อปี 2549 ทักษิณ เป็นนักต่อสู้เรียกร้องประชาธิปไตยมีประชาชนหนุนหลังมาร่วมต่อสู้ด้วยมากมาย เพราะเชื่อว่าทักษิณไม่ผิด แต่ถูกการเมืองของคณะยึดอำนาจรังแก สำหรับประชาชนกลับติดคุก ชีวิตตัวเองและครอบครับป่นปี้ ส่วนทักษิณ กลับไทยได้ ก็ยอมรับความผิด ซึ่งผิดวิสัยนักต่อสู้เรียกร้องประชาธิปไตย หากรักประชาธิปไตยจริงแล้ว ต้องสารภาพยอมรับคำตัดสินลงโทษ แต่ไม่ยอมรับการกระทำเป็นความผิด

“การรับสารภาพความผิด แล้วมาอ้างเป็นสาเหตุจากการยึดอำนาจ จึงเป็นเรื่องคนละตอน เมื่อมีคำพิพากษาแล้ว และคนที่มาต่อสู้บาดเจ็บล้มตายมากมายนั้นจะมากล่าวอ้างได้เหรอ ดังนั้น ถ้าทักษิณ ต้องการใช้ระเบียบราชทัณฑ์ ไปคุมขังที่บ้านก็เอาเลย จะได้รู้ว่าสังคมไทยคิดอะไรกับเรื่องนี้และจะได้รับรู้อารมณ์ประชาชนยิ่งขึ้น”

นายจตุพร กล่าวว่า การที่ทักษิณ ไม่ยอมติดคุกสักวัน แต่ใช้อภิสิทธิ์คนป่วยไปนอนชั้น 14 รพ.ตำรวจจะกลายเป็นชนวนนำไปสู่ความขัดแย้งครั้งใหญ่ และจะนำสู่การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองไม่รู้แบบไหน อาจจะจบลงแบบ 19 ก.ย 2549 หรือ 22 พ.ค. 2557 ย่อมเกิดขึ้นได้

“ทั้งสองชนวนการเปลี่ยนแปลงนั้น เกิดมาจากการระบาดทางอารมณ์ของประชาชน ซึ่งไม่แตกต่างกับขณะนี้ที่เริ่มเกิดเสียงดังมากขึ้นทุกขณะกับทักษิณนอนชั้น 14 โดยไม่รู้ว่าป่วยจริงหรือไม่ แล้วกล้องวงจรปิด รพ.ตำรวจ เสียหมด ยิ่งเพิ่มเติมความสงสัยของประชานมากขึ้นไปอีก”

พร้อมทั้งกล่าวว่า ทักษิณ เป็นคนที่ได้รับโอกาสดีกว่านักโทษทั่วไป แต่กลับไม่ใช้เวลาที่ชีวิตเหลืออยู่แสดงให้สังคมเห็นว่า ทุกอย่างอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกัน แม้มนุษย์มีความไม่เท่ากันในด้านทรัพย์สิน แต่ต้องอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกัน สิ่งนี้ได้นับการปฏิบัติให้เท่ากันหรือไม่ สิ่งสำคัญเมื่ออภิสทธิ์ชนไม่ทำตามกฎหมายยิ่งเป็นการสร้างบาดแผลให้สังคมไม่พอใจยิ่งขึ้นไปอีก

“เมื่อทักษิณอยู่ รพ.ตำรวจจนครบ 120 วันแล้ว รมว.ยุติธรรมก็รับทราบ และรายงานให้นายกฯ ได้รับรู้ ต้องการทำให้บ้านเมืองอยู่กันแบบนี้เหรอ คิดว่าจะเอาอยู่เหรอ และที่เคยคิดว่าจะเอาอยู่มาหลายครั้งจนบ้านเมืองพังไปนั้น เพราะไม่เคยเอาอยู่กันได้เลย”

นายจตุพร กล่าวว่า เมื่อประชาชนสงสัยทักษิณป่วยและรักษาตัวที่ รพ.ตำรวจหรือไม่แล้ว ต้องพิสูจขน์ให้สังคมกระจ่างแจ้ง โดยนำผลการตรวจของแพทย์มารายงานเพราะเป็นนักโทษคนสำคัญ แต่กลับปิดบังเอาไว้ ไม่เพียงเท่านั้นยังบอกกล้องวงจรปิดเสียหมด ซึ่งไม่น่าเป็นไปได้กับ รพ.ตำรวจที่ต้องคุมกัน รักษานักโทษคนสำคัญอยู่ โดยไม่ใช้โอกาสทำความจริงให้ปรากฎเมื่อมีคนสงสัยมากมาย เรื่องนี้ถ้าจัดการไม่ดี จะเป็นหายนะและลามเป็นจุดจบของรัฐบาลอย่างไม่น่าเชื่อเลย

ส่วนกรณีพรรคก้าวไกลถูกศาล รธน.นัดวินิจฉัยคดีในวันที่ 17 และ 31 ม.ค. 2567 นั้น นายจตุพร กล่าวว่า ถ้าศาลตัดสินถึงขั้นยุบพรรคจะยิ่งทำให้พรรคก้าวไกลในนามพรรคใหม่ยิ่งเติบโตขึ้นมาก โดยผลโพลของนิด้าล่าสุดความนิยมในตัวนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรค และพรรคก้าวไกลมีมากถึง 44 % สูงกว่าพรรคเพื่อไทยและพรรคอื่นๆหลายเท่าตัว

อีกอย่าง การยุบพรรคนั้น จะยิ่งทำให้พรรคก้าวไกลมีทีมหาเสียงเลือกตั้งใหม่ถึง 3 ชุด ซึ่งเป็นกลุ่มคนอยู่ในวัยหนุ่มสาวกันทั้งสิ้น สิ่งนี้จึงเหนือกว่าทุกพรรคการเมือง ดังนั้น การยุบพรรคก้าวไกลย่อมไม่เป็นผลดีกับพรรคเพื่อไทยอย่างยิ่ง.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'จตุพร' แนะ 'อนุทิน' อย่ามัวแต่พูดอธิบายภาพ 'เบน สมิธ' ต้องรุกกลับปราบสแกมเมอร์ให้สิ้นซาก

'จตุพร' แนะ 'อนุทิน' อย่าพะวงกับรูปถ่ายร่วมเฟรม 'เบน สมิธ' อย่ามัวแต่พูดอธิบายภาพ อ้างไม่สนิท จี้ปฏิบัติให้จริง รุกกลับปราบ'แก๊งสแกมเมอร์' ให้ราบคาบจากไทย ลั่นรู้นะ คนปล่อยรูปหวังทำลายการเมือง

เอาแล้ว 'จตุพร' เตือน นายกฯหนู แบ่งแยกเยียวยาศพน้ำท่วม 2 ล้าน ระวังทำรัฐบาลพัง

'จตุพร' เตือน นายกฯหนู แบ่งแยกเยียวยาศพน้ำท่วม 2 ล้านระวังทำรัฐบาลพัง แนะน้ำท่วมใต้จากพายุชื่อเหมือนกันต้องเป็นธรรม ชดเชยเท่ากัน อย่าคิดแบบเขลาๆ แถเอาแต่สถานการณ์ฉุกเฉินมาอ้าง จะเกิดเหตุไม่พอใจ ลุกลามไปกันใหญ่

'จตุพร' แนะ แก้รธน.ต้องกินทีละคำอย่าเหลี่ยมคูกินทีละกะละมัง สุ่มเสี่ยงถูกคว่ำล้มครืนลง

'จตุพร' แนะการเมืองยึดมติ กมธ. ปมผ่านแก้ รธน.วาระสอง เตือนอย่าชิงเหลี่ยมคู ขอให้กินทีละคำอย่าโลภอยากกินทีละกะละมัง หวั่นถูกคว่ำจบเห่ ย้ำฝ่ายค้านยื่นอภิปรายไม่ลงมติ ม.152 ดีกว่าซักฟอก 151 ชี้เวลาเหมาะอภิปรายช่วงสัปดาห์สุดท้าย มกรา 69 พูดเสร็จได้ยุบสภาเลย

‘เสรีพิศุทธ์’ จัดเต็ม ‘ทักษิณ’ ยังไม่สิ้นกรรม แฉลึก...ศึกสีกากี

กลายเป็นเรื่องที่สร้างเสียงวิพากษ์วิจารณ์ตามมาอย่างมาก กับการออกเปิดโปง-แฉข้อมูลเรื่องตำรวจรับผลประโยชน์ รับส่วยจากเครือข่ายเว็บพนันออนไลน์

'ภูมิใจไทย'โชว์พร้อมยุบสภา 'ทักษิณ'ถูกสกัด-'พท.แพแตก'

การเมืองเวลานี้ต้องจับตาว่าจะมีการเลือกตั้งตาม MOA ระหว่างพรรคประชาชนและพรรคภูมิใจไทย ที่กำหนดวันเลือกตั้งไว้วันที่ 31 มกราคม 2569 เพื่อเดินหน้าไปสู่การเลือกตั้งใหญ่หรือไม่

พูดแบบนี้ได้ยังไง! อดีตลูกจ้างวอยซ์ ลั่นไม่เห็นใจทักษิณ หลังคดี 112 ถูกอุทธรณ์

อินฟลูเอนเซอร์สายการเมือง และอดีตพิธีกรข่าววอยซ์ทีวีของตระกูลชินวัตร แสดงความคิดเห็นผ่านสื่อออนไลน์ หลังอัยการสูงสุดยื่นอุทธรณ์คดีมาตรา 112 ข