คปท.รุกต่อเดินหน้าเอาผิด ขรก. กรมคุก-แพทย์ ร่วมกันช่วยเหลือ 'ทักษิณ'

คปท.รุกต่อ หลังยุติการนัดชุมนุม เดินหน้าเอาผิด ขรก.กรมคุก-แพทย์ ร่วมกันช่วยเหลือ”ทักษิณ” เล่นใหญ่ ล่าชื่อ ชงศาลฎีกาฯ ไต่สวน ป.ป.ช.ฐานดองเค็มคำร้อง 

14 ม.ค.2566 – นายพิชิต ไชยมงคล แกนนำกลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) กล่าวถึงการเคลื่อนไหวเรื่องกรณี ทักษิณ ชินวัตร นักโทษชายที่พักอยู่ชั้น 14 รพ.ตำรวจ หลังจากคปท.ยุติการนัดชุมนุม  ช่วง 12-14 ม.ค. ที่เชิงสะพานชมัยมรุเชฐ ข้างทำเนียบรัฐบาลว่า คปท.จะมีการเคลื่อนไหวต่อเนื่องต่อไป โดยในวันอังคารที่ 16 ม.ค.นี้ กลุ่มคปท.จะเดินทางไปยังสำนักงานป.ป.ช.เพื่อสอบถามกับ เลขาธิการ ป.ป.ช. ถึงความคืบหน้ากรณีที่คปท.เคยมายื่นคำร้องก่อนหน้านี้ ให้ป.ป.ช.ตั้งอนุกรรมการไต่สวนเอาผิด เจ้าหน้าที่รัฐ ในกรณีพาทักษิณออกจากเรือนจำไปนอนที่รพ.ตำรวจ ที่ประกอบด้วย ผู้บริหารในกรมราชทัณฑ์หรือนายแพทย์ที่เกี่ยวข้อง เรื่องนี้ ข้าราชการประจำ อาจต้องกลายเป็นแพะรับบาป รับโทษมีคดี เพราะมีการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ มีความเสียหายเกิดขึ้นในกระบวนการยุติธรรม

นายพิชิตกล่าวว่า หากการไปพบผู้บริหารสำนักงานป.ป.ช. ปรากฏว่า ไม่มีความคืบหน้าใดๆ ทั้งที่เรื่องของนายทักษิณ มีคนไปยื่นต่อป.ป.ช.หลายกลุ่ม ทางคปท.ก็จะมีการเคลื่อนไหวล่ารายชื่อประชาชน สองหมื่นรายชื่อ  เพื่อยื่นต่อประธานรัฐสภา และส่งต่อไปยังประธานศาลฎีกา เพื่อให้ศาลฎีกาฯมีการตั้งองค์คณะมาไต่สวนกรรมการป.ป.ช. ที่เป็นการดำเนินการตามรัฐธรรมนูญมาตรา 236

 “ตอนคปท.ไปยื่นเรื่องให้ป.ป.ช.เข้ามาตรวจสอบเรื่องนี้ เขาอ้างว่าคำร้องที่ยื่นมาที่สำนักงานมีเยอะ ป.ป.ช.ต้องทำงานแบบไล่ตามลำดับเลขคดี ซึ่งฟังไม่ขึ้น คปท.มองว่าเรื่องของทักษิณ เป็นความเสียหายในกระบวนการยุติธรรม ที่เป็นเรื่องเร่งด่วนในสังคม ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องพิเศษที่น่าจะสามารถตั้งอนุกรรมการไต่สวนได้ทันที”นายพิชิตกล่าว

นายพิชิต กล่าวต่อไปว่า สำหรับเจ้าหน้าที่รัฐ ข้าราชการ อยากให้ดูประวัติศาสตร์ที่เคยเกิดขึ้นก่อนหน้านี้ เช่นกรณี ข้าราชการกระทรวงพาณิชย์ที่ไปร่วมมือช่วยเหลือการทุจริตรับจำนำข้าวหรืออดีตกกต. ที่เคยไปช่วยเหลือบางพรรคการเมืองในช่วงเลือกตั้ง ก็จะพบว่าข้าราชการ มักจะเป็นหนังหน้าไฟของฝ่ายการเมืองและต้องโดนดำเนินคดีอาญา บางคนก็ต้องติดคุก หากดูจากประวัติศาสตร์การรับใช้นักการเมืองที่ผ่านมา อย่างที่เห็นกัน อาทิ พล.ต.อ.วาสนา เพิ่มลาภ อดีตประธานกกต. นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อดีตอธิบดีดีเอสไอ

ส่วนกรณีมีการมองกันว่า ม็อบเรื่องทักษิณ ยังปลุกไม่ขึ้นหรือจุดไม่ติดนั้น นายพิชิตกล่าวว่า คิดว่าปลุกขึ้น รัฐบาลด้อยค่า พลังของประชาชนเกินไป ต้องบอกว่า การปลุกขึ้นหรือไม่ขึ้น  ไม่ได้วัดจากจำนวนคนที่มาร่วมเคลื่อนไหวชุมนุมแต่อยู่ที่สังคม คิดแบบเดียวกันกับสิ่งที่เราพูดหรือไม่ วันนี้คนในสังคม ผมคิดว่าเกินกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ คิดตรงกับพวกเรา คปท. แค่นี้ ผมก็คิดว่ามันปลุกขึ้นแล้ว

ด้านนายนัสเซอร์ ยีหมะ แกนนำคปท.อีกคนหนึ่งกล่าวว่า การชุมนุม ไม่จำเป็นต้องเริ่มจากปริมาณ การชุมนุมที่สำคัญ มีน้ำหนัก และแหลมคมที่สุด ก็คือ เหตุและผล และประเด็นในการเคลื่อนไหว เพราะฉะนั้นแล้ว สังคมไทยต้องเรียนรู้ใหม่ กับการเคลื่อนไหวทางสังคมว่าปริมาณ ไม่ใช่ตัวชี้วัด แต่อยู่ที่ ประเด็น และเหตุผลต่างหาก หากคนที่เขาอยู่บ้าน แต่เห็นด้วยกับการเคลื่อนไหว ก็สามารถแอ็กชั่นอยู่ที่บ้านก็ได้

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คปท.นัด 30 เม.ย.บุกยื่นหนังสือ กกต. ‘พิชิต’ ขาดคุณสมบัติ เร่งส่งศาลรธน.พิจารณา

วันอังคารที่ 30 เมษายน 2567 เวลา 10.30 น. คปท.จะไปยื่นหนังสือการขาดคุณสมบัติของคณะรัฐมนตรีต่อ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้ กกต.ยื่นต่อยังศาลรัฐธรรมนูญ  ต่อไป

งบ68ทร.ซื้อเครื่องบินลำเลียง “เรือดำน้ำ-ฟริเกต”ไปถึงไหน?

ฟันธงกันว่าปิดจ๊อบปรับคณะรัฐมนตรี “เศรษฐา 2” ที่โรงแรมหรูกลางกรุงไปแล้ว โดยมี ทักษิณ ชินวัตร นั่งหัวโต๊ะคุยรอบสุดท้ายโดยไม่ต้องกระมิดกระเมี้ยน ว่ากันว่า โผนี้ชื่อของ เกรียง กัลป์ตินันท์ กับ สุทิน คลังแสง ยังเหนียว