รัฐบาลแถลงจัดงานเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุจากอินเดีย ให้ ปชช. 4 จังหวัด เข้าสักการะ พร้อมจัดพิธี 5 ศาสนา รวมพลังเป็นซอฟต์พาวเวอร์ที่ยิ่งใหญ่
9 ก.พ.2567 - เมื่อเวลา 13.30 น ที่ทำเนียบรัฐบาล คณะกรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์ งานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาฯ แถลงข่าวถึงการจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ ในวันที่ 28 กรกฎาคม 67
โดยนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการฝ่ายจัดพิธีการงานเฉลิมพระเกียรติฯ และประธานกรรมการฝ่ายโครงการและกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติฯ กล่าวว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระบรมราชวินิจฉัย ชื่อพระราชพิธีว่า "พระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567" และพระราชทานแบบตราสัญลักษณ์สำหรับใช้ในโอกาสต่างๆ พร้อมทั้งนำมาจัดทำเข็มที่ระลึก เพื่อจำหน่ายให้แก่ประชาชนใช้ประดับและเก็บเป็นที่ระลึก
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้มีคำสั่งคณะกรรมการอำนวยการจัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 และแต่งตั้งคณะกรรมการฝ่ายต่างๆ เพื่อเตรียมการจัดงานเฉลิมพระเกียรติฯ ให้ยิ่งใหญ่และสมพระเกียรติ โดยดำเนินการตามขนบธรรมเนียมโบราณราชประเพณีที่เคยปฏิบัติมาในวาระสำคัญ
สำหรับการจัดพิธีการในนามรัฐบาล ประกอบด้วย การจัดพิธีเสกน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ การจัดพิธีทางศาสนามหามงคล 5 ศาสนา การจัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์ การจัดพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณ การจัดพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล งานสโมสรสันนิบาต และการจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารค ในการพระราชพิธีเสด็จพระราชดำเนินถวายผ้าพระกฐิน เป็นต้น
ในส่วนของโครงการและกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติๆ ได้เชิญชวนหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน เสนอโครงการและกิจกรรมที่มีลักษณะการดำเนินงานเพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติ สนับสนุนโครงการหรือกิจกรรมอันเนื่องมาจกพระราชปณิธาน พระราชดำริพระบรมราโชวาท หรือพระราชกรณียกิจ เข้าร่วมเป็นโครงการและกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติฯ โดยคำนึงถึงความจำเป็นและประโยชน์ที่มีต่อสังคมโดยรวม สร้างความอยู่ดีมีสุขให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
ด้านนายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า กิจกรรมเฉลิมพระเกียรติๆ เป็นความร่วมมือของรัฐบาลไทยและรัฐบาลสาธารณรัฐอินเดีย โดยสถานเอกอัครราชทูตอินเดียประจำประเทศไทย สถาบันโพธิคยาวิชชาลัย 980 หน่วยงาน ภาครัฐและภาคเอกชน ดำเนินโครงการอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ จากพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติอินเดีย ณ กรุงนิวเดลี พร้อมพระอรหันตธาตุของพระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะ จากสถูปโบราณปีปราห์วา เมืองสาญจี สาธารณรัฐอินเดีย มาประดิษฐานเป็นการชั่วคราวที่ประเทศไทย เป็นครั้งแรก ตามโครงการธรรมยาตราจากมหานทีคงคาสู่ลุ่มน้ำโขง เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ส่งเสริมการเผยแผ่พระพุทธศาสนา และเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างสองประเทศ โดยจัดงานระหว่างวันที่ 22 กุมภาพันธ์ - 19 มีนาคม 67
โดยมีการจัดขบวนอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ และพระอรหันตธาตุของพระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะ ในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 67 โดยจะเปิดให้ประชาชนเข้าสักการบูชา ดังนี้
วันที่ 24 กุมภาพันธ์ - 3 มีนาคม 67 ณ มณฑลพิธิท้องสนามหลวง
วันที่ 5-8 มีนาคม 67 ณ หอคำหลวง อุทยานหลวงราชพฤกษ์ จ.เชียงใหม่
วันที่ 10-13 มีนาคม 67 ณ วัดมหาวนาราม (วัดป่าใหญ่) จ.อุบลราชธานี
วันที่ 15-18 มีนาคม 67 ณ วัดมหาธาตุวชิรมงคล (วัดบางโทง) จ.กระบี่
จากนั้นจะจัดพิธีอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันตธาตุฯ ส่งมอบคืนให้แก่สาธารณรัฐอินเดีย
นอกจากนี้ จะมีการจัดกิจกรรมอื่นๆ อาทิ มหกรรมรําอวยพร 4 ภาค การแสดงของวงดุริยางค์จาก 4 มหาวิทยาลัย และการแสดงโขนกลางแปลง รวมถึงกิจกรรมสวดมนต์ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล ซึ่งถือเป็นพิธีงานบุญครั้งยิ่งใหญ่ เนื่องจากหัวใจของงานศาสนานั้น คือซอฟต์พาวเวอร์ที่ยิ่งใหญ่ที่จะรวมพลังทางศาสนา ทั้งแนวคิดคุณธรรม จริยธรรม เพื่อให้เกิดสันติภาพ อยู่ด้วยกันด้วยความรักและความสามัคคี
ด้านนางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์ฯ กล่าวว่า คณะกรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์ฯ ได้ประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้การจัดงานเฉลิมพระเกียรติฯ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม โดยประชาสัมพันธ์ตราสัญลักษณ์งานเฉลิมพระเกียรติฯ พร้อมความหมาย โดยได้รับความร่วมมือจากสถานีโทรทัศน์ทุกช่องในการเผยแพร่มุมบนหน้าจอโทรทัศน์ ตลอดจนประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อวิทยุกระจายเสียงและสื่อสังคมออนไลน์ พร้อมจัดพิธีมอบตราสัญลักษณ์งานเฉลิมพระเกียรติฯ ให้กับหน่วยงานภาครัฐทั้งส่วนกลาง ส่วนภูมิภาคและสื่อมวลชน
เชิญชวนทุกหน่วยงานจัดตั้งโต๊ะหมู่ประดิษฐานพระบรมฉายาลักษณ์ พร้อมเครื่องราชสักการะ ประดับธงชาติไทยคู่กับธงตราสัญลักษณ์ฯ พร้อมประดับผ้าระบายสีเหลืองร่วมกับผ้าระบายสีขาวตามอาคารสถานที่ของทุกหน่วยงาน และได้มีการนำเสนอพระราชประวัติ พระราชกรณียกิจ และพระมหากรุณาธิคุณด้านต่างๆ ในรูปแบบบทความเฉลิมพระเกียรติฯ ออกอากาศทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
รบ. ชม 2 แรงงานไทยสร้างชื่อ คว้ารางวัลแรงงานคุณภาพขวัญใจนายจ้างไต้หวัน
รัฐบาลชื่นชม 2 แรงงานไทย สร้างชื่อเสียงด้านแรงงาน คว้ารางวัลแรงงานคุณภาพ เนื่องในวันแรงงานสากล
'อนุทิน' ชื่นชมสปิริต 'ปานปรีย์' พร้อมให้กำลังใจ
'อนุทิน' เชื่อดรามาปรับ ครม. ไม่กระทบภาพลักษณ์รัฐบาล โทรให้กำลังใจ 'ปานปรีย์' พร้อมชื่นชมสปิริต ลาออก ดีกว่ากล้ำกลืนทำงาน
สมชัย ชี้ปรับ ครม. ‘รัฐบาล’ ขาดทุนมากขึ้น หน้าตาคนมาใหม่หลายคน ปชช.ส่ายหน้า
ปรับ ครม.ครั้งนี้ จึงดูเหมือนรัฐบาลจะขาดทุนมากขึ้น เพราะหน้าตาคนมาใหม่หลายคนประชาชนก็ส่ายหน้า ยิ่งปานปรีย์ลาออกอีก ยิ่งเสียโอกาสได้คนเก่งและทุ่มเทมาอยู่ใน ครม.
ดร.รัชดา เชื่อถ้าใช้หลักตอบแทนนายใหญ่ ’นพดล’ เสียบเก้าอี้ ‘ปานปรีย์’ แน่
ดร.รัชดา อยากรู้รัฐมนตรีต่างประเทศคนใหม่ของรัฐบาลนี้จะเป็นใคร คนที่จะต้องเป็นหน้าเป็นตาของประเทศ สถานการณ์การเมืองในประเทศเพื่อนบ้านและการเมืองโลกตอนนี้
ก้าวไกล เดือดแทน ‘หมอชลน่าน’ ทุ่มเทเหนื่อยสุด โดนคนทิ้งพรรคเสียบเก้าอี้
‘ณัฐชา’ มอง ปรับ ครม.เศรษฐา 1/1 ‘เพื่อไทย’ ยังรักษาคาแรคเตอร์ ‘สมบัติผลัดกันชม’ เก้าอี้ รมต. เหมือนเดิม สงสัย ทำไมเอาคนทิ้งพรรคอย่าง ’สมศักดิ์‘ แทน ’หมอชลน่าน‘ เหตุเหนื่อยสุดแบกรับสถานการณ์ช่วงเลือกตั้ง-จัดตั้งรัฐบาล
ในหลวงพระราชทานอาหารกลางวันแก่ 3 สถานสงเคราะห์ เนื่องในวันคล้ายวันประสูติเจ้าฟ้าทีปังกรฯ
26 เม.ย.2567 - เวลา 08.23 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ หน่วยราชการในพระองค์ เชิญอาหารพระราชทานไปพระราชทานเลี้ยง กับเชิญสิ่งของ เครื่องอุปโภคบริโภค และเวชภัณฑ์ทางการแพทย์