
24 พ.ค.2567- นายพิชิต ไชยมงคล แกนนำเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) โพสต์เฟซบุ๊กว่า
·
ยังไม่สิ้นกระบวนความ
แม้ศาลรัฐธรรมนูญจะไม่รับฟ้อง พิชิต ชื่นบาน เพราะลาออกไปก่อน
และแม้ไม่สั่งให้เศรษฐาหยุดปฏิบัติหน้าที่
ก็ใช่ว่า เศรษฐา จะรอดได้
ประเด็นพิจารณา
1.แม้ไม่รับฟ้อง พิชิต ชื่นบาน เหตุเพราะท้ายสุดการบังคับโทษคือให้ออกนั้นก็ลาออกไปแล้ว แต่ ใช่ว่าศาลจะไม่รับเอามาพิจารณาพฤติกรรมแห่งคดี เพื่ออธิบายความผิดของ เศรษฐา ทวีสิน ผู้ถูกร้องที่ 1 เหตุเพราะว่า ตามร้องพฤติกรรมแห่งคดีหลักเกิดจากความไม่มีคุณสมบัติของ พิชิต ชื่นบาน ประเด็นที่ต้องวินิจฉัยแรกก็คือ มีหรือไม่มีคุณสมบัติ ก่อนจะนำมาสู่นายกฯผิดหรือไม่ผิด พฤติกรรมแห่งคดีจึงมาจาก พิชิต ชื่นบาน ศาลนำมาพิจารณาได้แต่ไม่ได้ลงโทษ พิชิต ชื่นบาน เพราะลาออกไปแล้ว
2.แม้ตุลาการจะมีมติ 5:4 ไม่สั่งให้หยุดการปฎิบัติหน้าที่ไว้ก่อน แต่ก็ใช่ว่ามติแห่งการทำผิดจะไปเป็นเช่นนั้น ดังนั้นจึงอยู่ที่ นายกฯจะอธิบายต่อศาลเช่นไร หลักฐานทางราชการที่สำคัญคือ เอกสารที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี(สลค.)สอบถามไปนั้นเป็นเอกสารพยานที่สำคัญที่สุดในการเข้าข่ายเลี่ยงกฎหมาย
สมการตัวเลขของมติต่างๆของศาลรัฐธรรมนูญว่ารับไม่รับคำร้อง และ หยุดหรือไม่หยุดปฏิบัติหน้าที่ จึงไม่ได้เป็นตัวกำหนดความถูกต้องหรือกำหนดคำตัดสิน
คำตัดสินในอนาคตอาจจะ 5:4 เหมือนเดิม แต่ 5 อาจเป็นฝ่ายให้หลุดจากตำแหน่งนายกฯก็เป็นไปได้
เศรษฐา รอดยาก
สำหรับเอกสารดังกล่าว สืบเนื่องจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) ขอให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาให้ความเห็นในปัญหาข้อกฎหมายเกี่ยวกับคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของรัฐมนตรี เฉพาะตามมาตรา 160 (6) ประกอบกับมาตรา 98 (7) และมาตรา 160 (7) ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยนั้น สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา โดยนายปกรณ์ นิลประพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา ได้มีหนังสือลงวันที่ 1 ก.ย.2566 ตอบกลับเลขาธิการคณะรัฐนตรี โดยมีเนื้อหาระบุว่า คณะกรรมการกฤษฎีกา (คณะพิเศษ) ได้พิจารณาข้อหารือดังกล่าว โดยมีผู้แทน สลค.และผู้แทนสำนักงานศาลยุติธรรมเป็นผู้ชี้แจงข้อเท็จจริง และมีความเห็นในแต่ละประเด็น ดังนี้
ประเด็นที่หนึ่ง เห็นว่ามาตรา 160 ของรัฐธรรมนูญฯ เป็นบทบัญญัติที่กำหนดคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของบุคคลซึ่งจะมาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี โดยใน (6) ของมาตราดังกล่าวบัญญัติว่า รัฐมนตรีต้องไม่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 98 ซึ่งมาตรา 98 (7) กำหนดลักษณะต้องห้ามไว้ว่า "เคยได้รับโทษจำคุกโดยได้พ้นโทษมายังไม่ถึงสิบปีนับถึงวันเลือกตั้ง เว้นแต่ในความผิดอันได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลทุโทษ" ดังนั้น การได้รับโทษจำคุกไม่ว่าโดยคำพิพากษาหรือคำสั่งใด จึงเป็นลักษณะต้องห้ามในการดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี บุคคลซึ่งเคยได้รับโทษจำคุกในความผิดฐานละเมิดอำนาจศาล จึงเป็นผู้มีลักษณะต้องห้ามดังกล่าว เว้นแต่บุคคลนั้นได้พ้นโทษเกินสิบปีแล้ว หรือได้รับโทษจำคุกในความผิดอันได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ อันเป็นข้อยกเว้นที่รัฐธรรมนูญบัญญัติไว้
ประเด็นที่สอง เห็นว่ามาตรา 160 (7) ของรัฐธรรมนูญ บัญญัติไว้ชัดเจนว่า รัฐมนตรีต้องไม่เป็นผู้ต้องคำพิพากษาให้จำคุก แม้คดีนั้นจะยังไม่ถึงที่สุด หรือมีการรอการลงโทษ เว้นแต่ในความผิดอันได้กระทำโดยประมาท ความผิดลหุโทษ หรือความผิดฐานหมิ่นประมาท ซึ่งบทบัญญัติดังกล่าวไม่รวมถึงคำสั่งให้จำคุก ดังนั้น ผู้ซึ่งจะได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีและผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี จึงต้องไม่เป็นผู้ต้องคำพิพากษาให้จำคุก
ทั้งนี้ การให้ความเห็นในกรณีนี้เป็นการตอบข้อหารือตามที่ผู้แทน สลค.ชี้แจงต่อกรรมการกฤษฎีกา (คณะพิเศษ) ว่าประสงค์จะขอหารือเฉพาะกรณีมาตรา 160 (6) ประกอบกับมาตรา 98 (7) และมาตรา 160 (7) ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย เท่านั้น
"อนึ่ง ข้อหารือนี้เกี่ยวข้องกับการพิจารณาบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ อันเป็นหน้าที่และอำนาจของศาลรัฐธรรมนูญที่จะเป็นผู้พิจารณาวินิจฉัย การวินิจฉัยชี้ขาดเป็นที่สุดย่อมเป็นหน้าที่และอำนาจของศาลรัฐธรรมนูญ การให้ความเห็นในกรณีนี้จึงเป็นไปเพื่อประโยชน์แก่ทางราชการในการบริหารราชการแผ่นดินเท่านั้น" ตอนท้ายของหนังสือกฤษฎีการะบุ
ทั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่า สลค.ถามกฤษฎีกาประเด็นเดียวเรื่อง โทษจำคุก ซึ่งรับโทษพ้น 10 ปีมาแล้ว จึงไม่ขัดต่อ รธน. มาตรา 160 (6) ประกอบมาตรา 98 (7) ส่วนคุณสมบัติตาม มาตรา 160 (4) "มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์" และ (5) "ไม่มีพฤติกรรมอันเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง" ไม่ได้ถามแต่อย่างใด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับจากร่างพระราชบัญญัติการอำนวยความสะดวก ในการพิจารณาอนุญาตและการให้บริการแก่ประชาชน พ.ศ. ....
ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาได้ตรวจพิจารณาร่างพระราชบัญญัติการอำนวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตและการให้บริการแก่ประชาชน พ.ศ. ....
เดือด! แกนนำคปท. จวก เรือนจำพิเศษ โกงความผิดจากคนทำผิด สมควรประหาร ให้สิ้นความชั่ว
นายพิชิต ไชยมงคล แกนนำเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า เรือนจำ (พิเศษ)
เดือด! 'เดอะตั้ม' ไล่ 'ผู้แทนห่อแกง' ลองไปขอให้กัมพูชาอยู่ในกติกา ขาของท่านสส.จะอยู่ครบไหม
นายพิชิต ไชยมงคล แกนนำเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) โพสต์เฟซบุ๊ก ตอบโต้นายจิรัฏฐ์ ว่า
กฤษฎีกากับความมุ่งมั่นในการพัฒนากฎหมายที่ดีเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของประชาชน
สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกามุ่งมั่นทำงานภายใต้วิสัยทัศน์ "Better Regulation for Better Life" หรือ พัฒนากฎหมายที่ดี เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของประชาชน โดยสนับสนุนการบริหารงานของภาครัฐ ยึดถือความถูกต้องตามหลักวิชาการ และคำนึงถึงประโยชน์ของประชาชนเป็นหลักเสมอมา
ชี้แจงการนำเสนอข่าวกรณีร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมการใช้ไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ พ.ศ. ....
ตามที่มีการเสนอข่าวว่า คณะกรรมการกฤษฎีกาไม่เห็นชอบร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ พ.ศ. .... นั้น สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาขอเรียนชี้แจงว่า สำนักงานฯ และคณะกรรมการกฤษฎีกาเห็นด้วยในหลักการส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทนทุกชนิด โดยเฉพาะพลังงานแสงอาทิตย์
ทักษิณระทึก! ศุกร์นี้รอลุ้นฎีกาอภัยโทษครั้งที่ 2 ได้ไปต่อหรือไม่
รมว.ยธ.เผยปม 'ทักษิณ' ยื่นทูลเกล้าฯ ถวายฎีกาอภัยโทษครั้งที่ 2 สมัย พ.ต.อ.ทวี แต่ 'สลค.' ส่งกลับหนังสือให้พิจารณาทบทวนก่อนส่งขึ้นไปใหม่ เเย้มมีคำสั่งให้แต่งตั้งคณะกรรมการฯ ภายในเคาะใน 3 วัน


