
สิ่งสำคัญคงจำกันได้ว่า การหนีคดีของทักษิณครั้งแรกนั้น เริ่มด้วยการหลอกต้มศาล เพราะขออนุญาติออกนอกประเทศไปดูกีฬาโอลิมปิกที่ประเทศจีน แล้วหลบหนี จึงอย่ามาอ้างว่า ไม่มีพฤติการหลบหนีคดีจึงควรได้รับการประกันตัว ดังนั้นการหลบหนีคดีจึงเป็นเรื่องที่ใหญ่สุด
18 มิ.ย.2567- นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊คไลฟ์ถามถึงการนำคนสื้อแดงไปให้กำลังใจทักษิณ ชินวัตร ที่ศาลอาญาและสำนักอัยการสูงสุดว่า ทำไมกระจอกจัง เพราะการไปพบอัยการสูงสุดมีคนไปกันเป็นประจำอยู่แล้ว ไม่เห็นต้องตื่นเต้นอะไรเลย อีกอย่างทำให้เป็นข่าวใหญ่โต รวมทั้งการให้ข่าวไปตามนัดอัยการ ทำไมต้องใช้โฆษกสาธารณสุขด้วย แสดงว่ายังมีความไม่มั่นใจจะได้ประกันตัว หรือลังเลคิดจะทำสิ่งอื่นใดอีก
อีกทั้งกล่าวว่า ทักษิณ อ้างความจงรักภักดี เคารพต่อกระบวนการยุติธรรมและสำนึกถึงการกระทำความผิดจริง เมื่อถวายฏีกาได้รับพระบรมราชโองการลดโทษเหลือหนึ่งปี กลับไม่ติดคุกสักวัน จึงสวนทางกับความจงรักภักดีที่กล่าวอ้างในฎีกาและบันทึกไว้ในพระบรมราชโองการ
นอกจากนี้การถวายฎีกายังอ้างถึงการจะรับใช้ชาติบ้านเมืองครั้งต่อไป แต่การรับใช้ชาติบ้านเมืองที่ดีที่สุดคือ การเคารพกฎหมายซึ่งเป็นพื้นฐานของคนไทยทั้งปวง แต่เมื่อทักษิณ ไปเชียงใหม่ ปทุมธานี กลับบอกถูกยัดข้อหามาก อีกอย่างเมื่อออก รพ.ตำรวจ ได้พักโทษ ยังพูดว่า นั่งเครื่องบินกลับบ้านนานตั้ง 6 เดือน พูดแบบนี้คิดอะไรอยู่ พูดสื่อไปถึงใครเหรอ
สิ่งสำคัญคงจำกันได้ว่า การหนีคดีของทักษิณครั้งแรกนั้น เริ่มด้วยการหลอกต้มศาล เพราะขออนุญาติออกนอกประเทศไปดูกีฬาโอลิมปิกที่ประเทศจีน แล้วหลบหนี จึงอย่ามาอ้างว่า ไม่มีพฤติการหลบหนีคดีจึงควรได้รับการประกันตัว ดังนั้นการหลบหนีคดีจึงเป็นเรื่องที่ใหญ่สุด
นายจตุพร ย้ำว่า หลายคนที่ถูกข้อหาคดี 112 ล้วนถูกขังคุกก่อนทั้งนั้น ต่อมาศาลจึงอนุญาติให้ประกันตัว เพราะไม่มีพฤติกรรมหลบหนีคดี ดังนั้น การไปศาลของทักษิณ วันที่ 18 มิ.ย.จึงไม่ใช่เรื่องนำมาเถียงว่า แน่หรือไม่แน่ เพราะตัวเองประกาศจะไปโดยแท้ๆ ซึ่งจะไปเชื่ออะไรกับคนที่พร้อมจะโกหกได้ตลอดเวลา
“ทักษิณ จึงต้องดิ้นต่อไป แล้วคนที่โง่จะทำโง่ซ้ำอีกหรือไม่ หากยังยอมตามใจและความต้องการของทักษิณอีกจึงเท่ากับเป็นคนโง่กลับชาติมาเกิด เพราะทำให้บ้านเมืองและกระบวนการยุติธรรมเละเทะไปหมด เราหวังว่า ทักษิณ อยู่ในประเทศ ไม่ต้องหนีไปไหน เพราะอย่างน้อยทำให้บ้านเมืองมีความศักดิ์สิทธิ์ในกระบวนการยุติธรรมบ้าง”
อีกทั้งกล่าวถึงขบวนการไอโอของพรรคเพื่อไทยที่กล่าวหาไปร่วมมือกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หรือบิ๊กป้อม หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ว่า ตนจัดรายการประเทศไทยต้องมาก่อน ไม่อยู่ข้างไหน ฝ่ายใด และใครอยากคุยด้วยก็พร้อมคุยทุกคน ดังนั้น จึงขอปฎิเสธ เพราะไม่ได้ไปร่วมมือกับบิ๊กป้อมเลย
“คนที่ร่วมมือกับบิ๊กป้อมก็พรรคเพื่อไทย ร่วมมือกับพล.อ.ประยุทธ์ก็พรรคเพื่อไทยไม่ใช่เหรอ สว.152 เสียงมาหนุนตั้งนายกฯ ก็เป็นคนของฝ่ายยึดอำนาจไม่ใช่เหรอ อีกอย่างทักษิณ กลับไทยในวันที่ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ จึงเข้ามาได้ ผู้รับสนองพระบรมราชโองการลดโทษก็คือ พล.อ.ประยุทธ์ ถวายความเห็นประกอบพระราชวินิจฉัยก็เป็นนายวิษณุ เครืองาม แล้วไงละ ใครร่วมมือกับเผด็จการ”
สิ่งสำคัญการกล่าวหาไปอยู่กับเผด็จการนั้น นายจตุพร ย้ำว่า พรรคเพื่อไทยตระบัดสัตย์ประชาชนไปตั้งรัฐบาลกับฝ่ายเผด็จการแต่งตั้ง และยังกินนอนด้วยกันมานาน 9 เดือน แล้วยังจะมาอ้างผลไม้พิษอีกเหรอ ยังกล้าโกหกกล่าวหาโยนความเท็จให้คนอื่นอีกเหรอ แสดงถึงการเอาแต่ได้อย่างเดียว ซึ่งเป็นความกระจอกของมือไอโอพรรคเพื่อไทย
นายจตุพร กล่าวว่า คนที่มีหน้าที่ในบ้านเมืองไม่ยอมแก้ปัญหา แต่ยอมจะโง่แล้ว หากจุดเริ่มต้นไม่สามารถสร้างความถูกต้องชอบธรรมได้ ก็จะเรียงลำดับสิ่งที่ถูกต่อไม่ได้ ดังนั้นบ้านเมืองจะยิ่งเสียหายมากขึ้น ถ้าไม่มีใครรับผิดชอบ ถึงที่สุดบ้านเมืองทนไม่ไหวแล้วจะพลิกเปลี่ยนเป็นอีกแบบหนึ่ง
“หลักสำคัญที่ต้องพิจารณาคือ ความเสียหายของบ้านเมือง การขออนุญาติกลับมาเลี้ยงหลาน โดยขออนุญาติใคร และการขออนุญาติไว้ก็ไม่ทำตาม จึงเป็นจุดเริ่มความผิด พร้อมทั้งทำลายพระบรมราชโองการลดโทษให้ด้วย โดยไม่ยอมติดคุกสักวัน กระทั่งถึงขณะนี้ บ้านเมืองเกิดความเสียหายตามมาอีกหลายกรณี แล้วคนโง่ยังจะเชื่อกันอีกไหวเหรอ นอกจากนี้ อ้างกลับมาสกัดพรรคก้าวไกล แต่ยิ่งทำให้ก้าวไกลมีเสียงนิยมเพิ่มขึ้น ดังนั้น หลักคิดนี้ผิดโดยสิ้นเชิง”.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'อิ๊งค์' โพสต์ภาพคู่ 'ทักษิณ' สุขสันต์วันพ่อ อดทนไว้ เราจะได้ไปเที่ยวรอบโลกด้วยกัน
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย โพสต์ภาพถ่ายร่วมกับนายทักษิณ ชินวัตร พร้อมระบุข้อความผ่านอินสตาแกรมว่า
'จตุพร' แนะ 'อนุทิน' อย่ามัวแต่พูดอธิบายภาพ 'เบน สมิธ' ต้องรุกกลับปราบสแกมเมอร์ให้สิ้นซาก
'จตุพร' แนะ 'อนุทิน' อย่าพะวงกับรูปถ่ายร่วมเฟรม 'เบน สมิธ' อย่ามัวแต่พูดอธิบายภาพ อ้างไม่สนิท จี้ปฏิบัติให้จริง รุกกลับปราบ'แก๊งสแกมเมอร์' ให้ราบคาบจากไทย ลั่นรู้นะ คนปล่อยรูปหวังทำลายการเมือง
หยิกเล็บเจ็บเนื้อ! 'ภท.-พท.' โต้เดือดพัวพัน 'เบน สมิธ'
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า กรณีเบน สมิธ : ภูมิใจไทย-เพื่อไทย หยิกเล็บเจ็บเนื้อ
รู้จักน้อยไปจริง! กระทุ้ง 'อนุทิน' เผยตัวตนให้มากขึ้น
นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต สส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า หรือเรารู้จักท่านนายกรัฐมนตรีน้อยไปจริงๆ
'ทักษิณ' ร่วมเวที 'เสก โลโซ' ร้องเพลงใจสั่งมา ในเรือนจำกลางคลองเปรม
"ทักษิณ" ขึ้นเวทีเรือนจำฯ ควงไมโครโฟนร้องเพลง "ใจสั่งมา" บรรยากาศอบอุ่นมวลความสุข เพื่อนผู้ต้องขังกว่า 1,000 คน ต่างลุกโชว์สเต็ปแด๊นซ์
เพจดังงัดภาพใหม่กว่า ตบหน้าแฟนคลับพรรคแดง ขว้างงูไม่พ้นคอ ทักษิณก็รู้จัก 'เบน สมิธ'
จากกระแสวิพากษ์วิจารณ์ หลังปรากฏภาพนายเบน สมิธ ถ่ายร่วมเฟรมกับบุคคลระดับสูงในแวดวงการเมืองไทย ได้แก่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี, นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง


