แฟ้มภาพ
"กลาโหม" วางกรอบ "เหล่าทัพ" หักเงินเดือนทหารเกณฑ์ จำแนก หักได้-ห้ามหัก-สมัครใจ ย้ำ ทหารยุคใหม่ ความสง่าเป็นรอง ให้เงินเหลือใช้มากสุด ล้วงเงินสวัสดิการเชิงธุรกิจ จ่ายค่าประกันพลทหาร ด้าน "สุทิน" ไฟเขียว พร้อมส่งจเรทหารสุ่มตรวจ
20 มิ.ย.2567 - จากกรณีมีการเผยแพร่เอกสารรายการค่าใช้จ่ายของทหารกองประจำการหลายรายการ โดยเฉพาะค่าดูดส้วม จนถูกวิพากษ์วิจารณ์จากสังคมเป็นวงกว้าง
และต่อมาคณะรัฐมนตรีอนุมัติเพิ่มค่าเบี้ยยังชีพให้ทหารกองประจำการทั่วประเทศประมาณ 140,000 นาย ให้รับเงินเดือนถึง 11,000 บาทต่อเดือน นั้น
ล่าสุด กระทรวงกลาโหม ได้กำหนดแนวทางการปฏิบัติเกี่ยวกับการหักเบี้ยเลี้ยงและเงินเดือนของทหารกองประจำการในส่วนราชการ สังกัดกระทรวงกลาโหม เป็นไปด้วยความเรียบร้อยโดยหน่วยที่รับผิดชอบ กำกับดูแล รวมถึงให้การสนับสนุนการฝึกทหารใหม่ สามารถใช้เป็นแนวทางในการปฏิบัติได้อย่างเหมาะสม เป็นไปในรูปแบบเดียวกัน ตรงตามนโยบายของกระทรวงกลาโหม จึงกำหนด กลุ่มค่าใช้จ่ายต่าง ๆ โดยจำแนกออกเป็น 4 กลุ่ม ดังนี้
กลุ่มที่ 1 ค่าใช้จ่ายที่จำเป็นต้องหักจากเงินเดือนพลทหาร คือ การหักค่าประกอบเลี้ยง ประมาณ 2,100 บาทต่อเดือน หรือวันละประมาณ 70บาท (หรือมื้อละ 23 บาท) ซึ่งเป็นไปตามวัตถุประสงค์ การใช้จ่ายงบประมาณของรายการค่าเบี้ยเลี้ยง
กลุ่มที่ 2 ค่าใช้จ่ายสิ่งของที่ควรดำเนินการจัดหาให้เป็นภาพรวมโดยหักจากเงินเดือนทหาร คือ สิ่งของแรกรับ เช่น ของใช้ส่วนตัวในรายการที่ไม่สามารถเบิกจ่ายจากงบประมาณได้ เนื่องจากเป็นการอำนวยความสะดวก ให้กับพลทหารที่ไม่สามารถจัดหาของใช้ส่วนตัวได้ครบ และการจัดหาคราวละมาก ๆ จะทำให้จัดหาได้ในราคาที่ถูกลง หากตาวจพบจัดหาแพงกว่าราคาในตลาด ผู้เกี่ยวข้องต้องจะถูกลงโทษ
กลุ่มที่ 3 ค่าใช้จ่ายที่หักจากเงินเดือนทหารตามความสมัครใจ คือ รายการที่พลทหาร สามารถเลือกได้ว่าจะให้หักเงินเดือนหรือจะไม่ให้หัก เช่น ค่าบริการต่าง ๆ การซักรีด การตัดเย็บแก้เครื่องแบบ การใช้บริการในร้านค้าสวัสดิการ
สำหรับประเด็นมีปัญหาคือ การจัดหาชุดฝึก ชุดวอร์มเพิ่มเติมนอกเหนือจากที่ได้รับแจกจ่าย 3 ชุด เนื่องจากหลายหน่วยมองว่าชุดที่แจกไม่พอดีตัว จึงให้ไปตัดเพิ่มให้พอดีตัว และหักเงินจากทหารกองประจำการ เพื่อความสง่างาม
โดยกระทรวงกลาโหมมอบหลักการไปว่า ในยุคนี้ต้องคิดใหม่ ทำใหม่ ทหารไม่จำเป็นต้องดูดีหรือสง่างามให้เป็นเรื่องรอง แต่ต้องทำให้เงินเดือนเหลือใช้ให้มากที่สุด จึงให้หลักการไปว่า ชุดแจกไป 3 ชุด ใช้การฝึก 2 ชุด ส่วนอีก1ชุด เก็บไว้ใส่กลับบ้าน ยกเว้นทหารสมัครใจไปตัดกันเอง เพราะบางคนเป็นแค่ 6 เดือน ไปให้เขาตัดชุดเพิ่ม กลับไปอยู่บ้านไม่ได้ใช้ และหากมองว่า 2 ชุดไม่เพียงพอต่อการฝึก หากอีก 1 ชุดเก็บไว้ใส่กลับบ้าน ในอนาคตให้เพิ่มแจกเป็น 4 ชุด ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่ทหารกองประจำการต้องมารับผิดชอบ
กระเป๋าเป้ สำหรับใส่ของประกอบชุดฝึก เวลาเดินทางเข้า - ออกจากหน่วยฝึก เป็นต้น (ในกรณีที่หน่วยพิจารณาว่าสิ่งอุปกรณ์ รายการใดมีประโยชน์และมีความจำเป็นแต่ทางราชการยังไม่ได้แจกจ่าย ให้พิจารณาสนับสนุนงบประมาณในการ ดำเนินการแจกจ่ายต่อไป มิให้หักจากเงินเดือนทหารเป็นส่วนรวม)
กลุ่มที่ 4 ค่าใช้จ่ายที่ไม่ควรหักจากเงินเดือนทหาร คือ รายการที่หน่วยฝึกทหารใหม่ควรเป็น ผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายนั้น ๆ เช่น ค่าเครื่องช่วยฝึก ค่าเครื่องสนาม เช่น กระติกน้ำ ค่าสาธารณูปโภคต่าง ๆ ค่าดูดส้วม wifi เป็นต้น ยอกจากนี้อุปกรณ์ตรวจยาเสพติด ชุดตรวจโควิด หน้ากากอนามัย แอลกอฮอล์ทำความสะอาด
ส่วนค่าประกันชีวิต พบว่า มีการเก็บในบางเหล่าทัพ กระทรวงกลาโหม ให้แนวทางไปว่า ให้นำรายได้จากสวัสดิการเชิงธุรกิจ มาดูแลค่าใช้จ่ายส่วนนี้ โดย สุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม ก็เห็นชอบด้วย
นอกจากนี้ กระทรวงกลาโหม ได้เน้นย้ำเพิ่มเติม 1.ในห้วงการฝึกทหารใหม่ ไม่ควรมีการจัดหาเครื่องแต่งกายและหรือของใช้ส่วนตัวเพิ่มเติม นอกเหนือจากรายการที่ได้รับการแจกจ่ายจากทางราชการ
2.กรณีที่จำเป็นต้องจัดหาสิ่งของเพิ่มเติมโดยใช้เงินเดือนของทหารกองประจำการ จะต้องชี้แจงให้ทหารกองประจำการรับทราบและเข้าใจประโยชน์และความจำเป็น และควรดำเนินการโดยความสมัครใจของทหารกองประจำการ
3.การจัดหาสิ่งของเพิ่มเติมให้แก่ทหารกองประจำการ ต้องอยู่ในการพิจารณาและอนุมัติของ ผบ.หน่วยทหารระดับ ผบ.พัน หรือเทียบเท่าขึ้นไป
4. การชำระค่าใช้จ่ายใดๆ เพิ่มเติมจากเงินเดือนของทหารกองประจำการ ในกรณีที่มีวงเงินค่อนข้างสูงให้พิจารณาหักเงินเดือนทหารกองประจำการให้น้อยที่สุด โดยใช้วิธีการผ่อนชำระเป็นรายเดือน
5.ให้ควบคุมและกำกับดูแลราคาสินค้าที่จัดหาและจำหน่ายผ่านร้านค้าสวัสดิการ (PX)ให้แก่ทหารกองประจำการให้มีความเหมาะสมและเป็นธรรม ไม่ให้มีราคาสูงกว่าราคาในท้องตลาด
โดยให้ ผบ.หน่วย ทุกระดับ รับผิดชอบกำกับดูแลการปฏิบัติในภาพรวมให้เป็นไปตามนโยบายของกระทรวงกลาโหม พร้อมส่งเจรทหารเหล่าทัพซุ่มตรวจ หากพบไม่ปฏิบัติตามนโยบายของกระทรวงกลาโหมจะต้องลงโทษอย่างจริงจัง ไม่เช่นนั้นจะมีปัญหาเกิดขึ้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เปิดคลิปทหารฮึกเหิม ร้องเพลงชาติสนั่นช่องอานม้า ยึดคืนพื้นที่อธิปไตยไทย
กองทัพบก เปิดคลิปทหารไทยร้องเพลงชาติ ช่องอานม้า อําเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี เสียงดังกึกก้อง ภายหลังควบคุมพื้นที่ไว้ได้ทั้งหมด
ทบ. พร้อมพิสูจน์เชิงลึกจีนส่งอาวุธช่วยกัมพูชา ทหารยังไม่ผ่อนหนุนการทูตเร่งกดดัน
พันเอกริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก กล่าวถึงแนวโน้มสถานการณ์สู้รบอาจลดลงหรือไม่ว่า มีการใช้อาวุธยิงสนับสนุนเข้ามาน้อยลงจริง ซึ่ง อาจเกิดจากการที่กองทัพบก และกองทัพอากาศ ลิดรอนการโจมตีของฝ่ายกัมพูชา
สมช. จ่อเคาะมาตรการสกัดส่งยุทธปัจจัย ช่วยคนไทยในเขมรกลับบ้าน
'ฉัตรชัย' เผยนายกฯ หารือก่อนถก สมช. 16 ธ.ค. เคาะมาตรการสกัดส่งยุทธปัจจัย-ช่วยคนไทยในเขมรกลับประเทศ พร้อมจับตาปมจับสายลับ ยึดขีปนาวุธสัญชาติจีน
'กองทัพภาค 2' แจ้งงดไลฟ์-โพสต์-แชร์ สร้างอันตรายทหาร
เพจ "กองทัพภาคที่ 2" โพสต์ข้อความว่า "งดไลฟ์ งดโพสต์ งดแชร์ ไม่ต้องรีบแจ้งลงสื่อ การปฏิบัติทางทหารยังไม่จบ การบอกลักษณะพื้นที่เฉพาะเจาะจง/พื้นที่จำกัด ยิ่งสร้างอันตรายให้กับผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่".
ผงะ!จรวด‘จีน’โผล่ กองทัพยึดจากเขมร/เคอร์ฟิวตราด5อำเภอ/ชงปิดอ่าวไทย
"กองทัพบก" ลั่นต้องสถาปนาแนวชายแดนที่ถูกรุกล้ำกลับคืนมาให้ได้
เลว! ประณามกัมพูชา ยิงจรวด BM-21 โจมตีพื้นที่ชุมชน ปชช.เสียชีวิต บ้านเรือนเสียหาย
กัมพูชาได้ใช้อาวุธจรวด BM-21 โจมตีเข้าใส่พื้นที่ ตำบลเสาธงชัย อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งอยู่บริเวณใจกลางแหล่งชุมชนและโรงเรียน

