8 ส.ค.2567 - นายแก้วสรร อติโพธิ เผยแพร่บทความเรื่อง "ทำไม...ยุบก้าวไกล" ในรูปแบบถาม-ตอบ มีเนื้อหาดังนี้
ถาม เห็นพวกทูตฝรั่ง และประธานกรรมาธิการวุฒิสภาสหรัฐ ดาหน้าออกมาท้วงติงไม่ให้ยุบพรรคก้าวไกลแล้ว อาจารย์รับได้ไหมครับ ?
ตอบ ฝรั่งตะวันตกถือตนเองเป็นจ้าวจักรวาล มีอเมริกาเป็นรัฐดวงอาทิตย์มีฝูงรัฐดาวเทียมในยุโรปเป็นบริวาร ร่วมกันถือประชาธิปไตยเป็นบัตรเสือก เข้ามาก้าวก่ายแทรกแซงประเทศเล็กๆที่เป็นรัฐอุกกาบาตล่องลอยเคว้งคว้างอยู่ทั่วไป ถ้ารัฐบาลรัฐอุกาบาตใดขืนมือขืนเท้า เขาก็เปลี่ยนเอาได้ง่ายๆ
ใครจะรับรัฐฝรั่งเหล่านี้ได้หรือไม่ได้ก็ไม่มีความหมาย มันเป็นเช่นนี้มานานแล้ว มันสำคัญที่คนไทยเราเองต่างหากว่า เราเข้าใจและรับได้ในคำพิพากษานี้หรือไม่ สำหรับผม..ผมรับได้ครับ
กษัตริย์แตะต้องไม่ได้ ?
ถาม ฝรั่งมันว่า เสนอกฎหมายลดความคุ้มครองกษัตริย์ มันจะเป็นการล้มล้างการปกครองไปได้อย่างไร?
ตอบ ต้องบอกเขาเลยว่า ร่างกฎหมายก้าวไกล ไม่ได้ลดความคุ้มครองนะครับ แต่เลิกการคุ้มครองสถาบันกษัตริย์ไปเลย ใครไปด่าว่าในหลวง ก็ต้องให้ในวังไปแจ้งความกล่าวโทษเอาเอง กษัตริย์เลยกลายเป็นแค่ชาวบ้าน ไม่ใช่สถาบันที่รัฐต้องคุ้มครองอีกต่อไป
อำนาจปกป้องรัฐธรรมนูญ!
ถาม ถ้าร่างกฎหมายก้าวไกลขัดรัฐธรรมนูญ ก็ให้ศาลรัฐธรรมนูญตัดสินสิครับ ว่ากฎหมายอย่างนี้ขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ ใช้บังคับได้หรือเปล่า ไปสั่งปิดปากเขาก่อน แล้วฝังกลบยุบพรรคเขาเลยได้อย่างไร
ตอบ สิ่งที่ศาลเห็นว่าผิดคือ “ความเคลื่อนไหว” ไม่ใช่ “ความคิด ” ตอนฮิตเลอร์สถาปนาพรรคนาซี เขาก็มีร่างกฎหมายชาตินิยมเสนอขึ้นมามากมาย แต่อันตรายต่อรัฐธรรมนูญมันอยู่ที่ความเคลื่อนไหวทั้งหมดของขบวนการนาซี ทั้งความคิด ทั้งการชุมนุม ทั้งการปลุกระดมมวลชนให้เกลียดชังฮึกเหิม ที่มุ่งปฏิวัติกร่อนเซาะระบอบประชาธิปไตยเยอรมันทั้งระบอบเลย
พอหลังสงครามโลกครั้งที่สอง ประเทศฝรั่งก็สร้างกฎหมายขึ้นมาป้องปรามความเคลื่อนไหวมวลชนปฏิวัติแบบนี้ขึ้นหลายแนวทาง ไทยเราก็คิดขึ้นมาใช้เหมือนกันในรัฐธรรมนูญ ๒๕๔๓ เกิดเป็น “สิทธิปกป้องรัฐธรรมนูญ ”ขึ้นมา แล้วมันผิดจากมาตรฐานโลกที่ตรงไหน
ถาม ศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยถึง “ความเคลื่อนไหว” อันเป็นภัยนี้ ไว้ที่ตรงไหน ผมไม่เห็น
ตอบ ต้องดูในคำวินิจฉัยแรกที่ศาลได้สั่งให้ก้าวไกลหยุดความเคลื่อนไหวทั้งปวงเลย
“เป็นการใช้นโยบายพรรคการเมือง นำสถาบันพระมหากษัตริย์ลงมาเพื่อหวังคะแนนเสียงและประโยชน์ในการชนะการเลือกตั้ง มุ่งหมายให้สถาบันพระมหากษัตริย์อยู่ในสถานะเป็นคู่ขัดแย้งของประชาชน ทำให้สถาบันต้องเข้าไปเป็นฝักฝ่าย ต่อสู้แข่งขันรณรงค์ทางการเมือง อันอาจนำมาซึ่งการโจมตี ติเตียน โดยไม่คำนึงถึงหลักการปกครองที่สำคัญว่าพระมหากษัตริย์ต้องดำรงฐานะอยู่เหนือการเมืองและความเป็นกลางทางการเมือง ”
“ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า การกระทำของผู้ถูกร้องทั้งสองมีพฤติการณ์ในการใช้สิทธิหรือเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นเพื่อทำลายการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข โดย ซ่อนเร้นหรือผ่านการนำเสนอร่างกฎหมาย แก้ไขเพิ่มเติม ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และใช้เป็นนโยบายพรรค รวมทั้ง มีการรณรงค์ ให้มีการยกเลิก หรือแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มีลักษณะดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องเป็นขบวนการ ใช้หลายพฤติการณ์ประกอบกัน ทั้งการชุมนุม การจัดกิจการ การรณรงค์ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ การเสนอร่างแก้ไขกฎหมายเข้าสู่สภา และการใช้เป็นนโยบายหาเสียงเลือกตั้ง ”
“ศาลรัฐธรรมนูญโดยมติเอกฉันท์ วินิจฉัยว่า สั่งการให้ผู้ถูกร้องทั้งสองเลิกการแสดงความคิดเห็น การพูด การเขียน การพิมพ์ การโฆษณา และการสื่อความหมายโดยวิธีอื่นเพื่อให้มีการยกเลิกประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 อีกทั้ง ไม่ให้มีการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ด้วยวิธีการซึ่งไม่ใช่กระบวนการทางนิติบัญญัติโดยชอบ ที่จะเกิดขึ้นต่อไปในอนาคตด้วย”
ถาม อาจารย์ว่าพรรค “อนาคตใหม่ ๓” จะยอมเลิกเคลื่อนไหวกร่อนเซาะสถาบันหรือไม่ ?
ตอบ โลกนี้มันมีความฝัน ความคิด ให้นำมาปรุงแต่งเป็นธงนำได้หลายประการ เรื่องโลกแห่งความเสมอภาคนั้น คอมมูนิสต์ก็พยายามชี้นำ อธิบายเหมาโลกมาแล้วว่าปัญหาอยู่ที่ชนชั้นนายทุน มาวันนี้ธงชี้นำนี้ก็เก่าไปแล้ว
พอมาช่วงไล่ คสช. ก็มีผู้นำ “สถาบันกษัตริย์” มาเหมาให้เป็นจำเลยใหม่อีก แถมเอาไปโยงเชื่อมต่อกับปฏิวัติ ๒๔๗๕ ให้ดูขลังขึ้นอีกด้วย จากนั้นก็ปรุงแต่งเพิ่มความเสมอภาคของเพศ,ของเด็ก,ของผู้ใช้แรงงาน และของผู้อพยพเข้าไปอีก “ความใหม่” มันก็ก่อตัวจนดูดี มีแรงดึงดูดขึ้นมาได้
เมื่อผนวกกับฝ่ายผู้บริโภคคือคนรุ่นใหม่ ที่กำลังหลงเริงอยู่ในยุคแห่งอิสระภาพ จากพ่อแม่ จากสังคมชาติ จากวัฒนธรรม พวกเขาก็เลยสมาทานความใหม่เหล่านี้ผ่านโลกโซเชียล เข้าไปในตัวตนได้ในที่สุด
ถาม “อนาคตใหม่ ๓” จะไม่ยอมเปลี่ยน “ความใหม่ ”ข้างต้นนี้หรือครับ
ตอบ เราได้แต่หวังเท่านั้นว่าเขาจะเปลี่ยน คิดใหม่แล้วชูธงใหม่ไปในทางสร้างสรรค์ มุ่งแก้ปัญหาจริงในบ้านเมืองอย่างจริงจัง แล้วชักนำพลังคนรุ่นใหม่ไปสร้างบ้านเมืองใหม่ของเขาได้ต่อไป คนดีที่รู้จักคิดอ่านผมก็เห็นว่าพอมีอยู่บ้างเหมือนกัน
เฉพาะวันนี้วิกฤตโลกาภิวัฒน์เกิดชัดเจนแล้วทั้งสงครามและเศรษฐกิจ
“อนาคตเก่า” อยู่ไม่ได้แล้วล่ะครับ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ศาลรับคำร้อง ให้สว.สมชาย หยุดทำหน้าที่
ศาลรัฐธรรมนูญสั่ง “สมชาย เล่งหลัก” หยุดปฏิบัติหน้าที่ สว.
มติเอกฉันท์! ศาลรธน. ตีตก 7 คำร้อง ขอให้วินิจฉัยเลือก สว. ไม่ชอบ
ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเป็นเอกฉันท์ไม่รับ 7 คำร้องที่มีการร้องขอให้วินิจฉัยเกี่ยวกับการเลือกสมาชิกวุฒิสภา ประกอบด้วยคำร้องของนายสมบูรณ์ ทองบุราณ,นายวัฒนา ชมเชย ,ว่าที่ร.ต.วิชชุกร คำจันทร์ นายจิรัฎฐ์ แจ่มสว่าง,นายปรีชา เดชาเลิศ,นางฤติมา กันใจมา,
'สนธิญา' ยื่นหลักฐานเพิ่ม ร้องศาลรธน. สั่ง 'อิ๊งค์' หยุดปฏิบัติหน้าที่ แจกเงินหมื่นไม่ตรงปก
นายสนธิญา สวัสดี นำเอกสารหลักฐานไปยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยรัฐบาลดำเนินโครงการแจกเงินหมื่นแตกต่างจากนโยบายดิจิตอลวอลเล็ต 10,000 บาท
ปลุกรุมบี้ 'รัฐบาลอิ๊งค์' ส่งศาล รธน. ชี้ขาด 'MOU 44'
รศ.หริรักษ์ สูตะบุตร อดีตรองอธิการบดีฝ่ายบริหารบุคคล มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า ท่านที่ได้อ่านโพสต์ที่แล้วของผม คงจะมีความเข้าใจเกี่ยวกับที่มาที่ไป
'เทพมนตรี' ชี้รัฐบาลไม่กล้านำ 'MOU44-JC44' ให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย!
นายเทพมนตรี ลิมปพยอม นักวิชาการอิสระด้านประวัติศาสตร์และนักเทววิทยา
'แก้วสรร' แพร่บทความ คดีที่ดินเขากระโดง : กระโดงใคร?
นายแก้วสรร อติโพธิ เผยแพร่บทความในรูปแบบถาม-ตอบ เรื่อง "คดี “ที่ดินเขากระโดง”: กระโดงใคร? มีเนื้อหาดังนี้