
19 ส.ค. 2567 – ผู้สื่อข่าวจังหวัดพิษณุโลกรายงานว่า เมื่อเวลา 20.30 น. วันที่ 18 ส.ค. ที่ผ่านมา หลังจากเวลา 17.00 น. ได้ทำการปิดหีบการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) พิษณุโลก ที่มีหน่วยเลือกตั้งจำนวนทั้งสิ้น 1,283 หน่วย ทั้ง 9 อำเภอ มีผู้มีสิทธิในการเลือกตั้ง จำนวนทั้งสิ้น 671,170 คน ได้เริ่มนับคะแนน มีผู้ลงสมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก จำนวน 3 คน เบอร์ 1 ได้แก่ นายมนต์ชัย วิวัฒน์ธนาฒย์ เบอร์ 2 ได้แก่ นายเศรษฐา กิตติจารุรัตน์ และเบอร์ 3 ได้แก่ นางสิริพรรณ คุณประจักษ์นุกูล หรือหนูนา ซึ่งนายปดิพัทธ์ สินติภาดา อดีตรองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 และอดีต สส.พิษณุโลก
โดยในช่วงเวลา 19.00 น.พบว่าเบอร์ 1 นายมนต์ชัย ผู้สมัครหมายเลข 1 และแชมป์เก่าอดีตนายก อบจ.พิษณุโลก กับนางสิริพรรณ ผู้สมัครเบอร์ 3 มีคะแนนสูสีกัน ต่อมาเวลา 19.30 น. ผลการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการ ซึ่งนับได้ที่ร้อยละ 59% ปรากฎว่า นายมนต์ชัย มีคะแนนนำ 114,635 คะแนน ส่วนสิริพรรณ 51,611 ส่วนนายเศรษฐา 6,333 คะแนน
หลังจากผ่านการนับคะแนน 100% ผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการ นายมนต์ชัย วิวัฒน์ธนาฒย์ มีคะแนนนำโด่ง อยู่ที่ 214,519 คะแนน เบอร์ 2 ได้แก่ นายเศรษฐา กิตติจารุรัตน์ 13,579 คะแนน และเบอร์ 3 ได้แก่ นางสิริพรรณ คุณประจักษ์นุกูล หรือหนูนา 104,163 คะแนน แต่ที่น่าสนใจไม่น้อยในการเลือกตั้งครั้งนี้ มีบัตรเสียถึง 13,768 ใบ ผู้ไม่ประสงค์ลงคะแนน 15,613 คะแนน
นายพงษ์ศักดิ์ รัตนมณเฑียร ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดพิษณุโลก กล่าวว่าขณะนี้ทราบผลการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการ สำหรับการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก ในวันนี้ จากรายงาน 1283 หน่วยทั้งจังหวัด สถานการณ์เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่มีเหตุใดที่ต้องทำให้การเลือกตั้งชะงัก ทุกอย่างเรียบร้อยดี ซึ่งรอประกาศผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการอีกครั้ง คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 1-2 วัน

ด้านนายมนต์ชัย วิวัฒน์ธนาฒย์ ผู้สมัครเบอร์ 1 ว่าที่นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก ได้ให้สัมภาษณ์ ว่า รู้สึกดีใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสกลับเข้ามาทำงานอีกครั้ง ต้องขอขอบคุณทุกคะแนนเสียงที่มอบให้ และพร้อมที่จะเดินตามนโยบายที่ได้แจ้งไว้กับพี่น้องประชาชน อย่างเต็มที่ และจะเพิ่มหลายๆ สิ่ง หลายๆ อย่าง ตามนโยบายดังกล่าวให้มากขึ้น เพื่อจะดูแลพี่น้องประชาชน สำหรับการเลือกตั้งครั้งนี้คะแนนตนเองใกล้เคียงกับการเลือกตั้งสมัยที่ผ่านมา ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องยอมรับว่าผู้ออกมาใช้สิทธิ์น้อยลง บางหน่วยรอบนอกพี่น้องให้ความสนใจในเลือกการเมืองมากขึ้น ต้องขอบคุณทุกคะแนนเสียง ขอบคุณและรอการประกาศอย่างเป็นทางการของ องค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลกอีกครั้ง.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
กกต.คุมเข้ม ‘ประชานิยม’ ส้มปรับกทม./ฟ้าเปิดปาร์ตี้ลิสต์
“กกต.” ออกกฎเหล็กตรวจสอบนโยบายประชานิยม พรรคการเมืองจะใช้หาเสียง
เปิดชื่อผู้สมัคร สส.กทม. พรรคประชาชน ครบ 33 เขต
เปิดชื่อว่าที่ผู้สมัคร สส. กทม. พรรคประชาชน ครบ 33 เขต ส่วนใหญ่หน้าเดิม พบ 10 เขต เปลี่ยนตัว คาด ‘ณัฐชา-รักชนก-ปิยรัฐ’ ขยับลง สส. บัญชีรายชื่อ พร้อมส่ง ‘ชุลพล หลักคำ’ ลงลาดกระบังซ้ำ หวังแก้มือ ‘ธีรรัตน์’ ด้าน ‘เฉลิมชัย-พงศ์พันธ์’ หลุดโผ
นายกฯ เรียกประชุม ครม.นัดพิเศษ หลัง กกต. ตีกลับคำถามประชามติ
นายกฯอนุทิน เรียกถก "ครม.นัดพิเศษ" พรุ่งนี้ เคาะคำถามประชามติ หลัง กกต.ตีกลับ ให้เลือกมาเลยคำถามเดียว
กกต. เตรียมใช้วิธีเลือกตั้งแบบพิเศษ 16 เขตเลือกตั้งใน 7 จังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา
สำนักงานกกต.ได้สำรวจพื้นที่ที่มีสถานการณ์สู้รบไทย-กัมพูชาและกกต.เตรียมใช้วิธีบริหารจัดการเลือกตั้งแบบพิเศษในวันเลือกตั้งที่ 8 ก.พ.69 เพื่อให้ไม่ต้องเลื่อนวันเลือกตั้งออกไปพบว่า อยู่ใน 7 จังหวัดรวม 16 เขตเลือกตั้ง ประกอบด้วย 1.จ.จันทบุรี จากที่มีทั้งหมด 3 เขตเลือกตั้ง กระทบ 1 เขตเลือกตั้ง คือเขตเลือกตั้งที่ 3
ดร.สติธร ประเมินเลือกตั้ง “น้ำเงิน-ส้ม” สู้กันเดือด ก่อน ภูมิใจไทย โกย 150 ที่นั่ง นั่งแกนนำตั้งรัฐบาล สดใส
ดร.สติธร ธนานิธิโชติ อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ประเมินภาพรวมสนามเลือกตั้งครั้งใหม่ว่า แม้จะเห็นภาพ 3 สี 3 ขั้ว แต่ในทางปฏิบัติ คู่ชิงตัวจริงมีเพียง 2 พรรค คือ พรรคประชาชน และพรรคภูมิใจไทย
มาถูกทาง! 'หมอสุภัทร' เปิดใจลงสมัคร สส. ในนามพรรคประชาชน
"หมอสุภัทร" เผยตัดสินใจสวมเสื้อพรรคส้ม ถึงเวลาที่ต้องก้าวออกจากเซฟโซน ลาออกราชการรับใช้บ้านเกิด มั่นใจหาดใหญ่ต้องดีกว่านี้

