คอนเฟิร์ม ศุกร์นี้ 22 พ.ย. 9 ตุลาการศาลรธน.นัดประชุมวาระพิเศษ หลังงดมาสองรอบ เตรียมนำหนังสือ-ความเห็นอัยการสูงสุด กางบนโต๊ะประชุม ก่อนลุ้นโหวตลงมติ "รับ-ไม่รับคำร้อง" คดีทักษิณ-เพื่อไทย โดนร้องล้มล้างการปกครองฯ
21 พ.ย.2567 - มีรายงานจากสำนักงานเลขาธิการศาลรัฐธรรมนูญ เปิดเผยว่า ศ.ดร.นครินทร์ เมฆไตรรัตน์ ประธานศาลรัฐธรรมนูญ ได้นัดประชุมตุลาการศาลรธน.ประจำสัปดาห์ในวันศุกร์ที่ 22 พ.ย.นี้เวลา 09.30 น. หลังจากที่ตุลาการศาลรธน.ไม่ได้ประชุมกันมาสองครั้งคือเมื่อวันพุธที่ 13 พ.ย. และวันพุธที่ 20 พ.ย.ที่ผ่านมา เพราะตุลาการศาลรธน.บางคนติดภารกิจต่างๆ จึงเลื่อนจากที่ต้องประชุมทุกวันพุธของแต่ละสัปดาห์ มาเป็นวันศุกร์นี้ 22 พ.ย. โดยตอนนี้ ตุลาการศาลรธน.บางคน ที่เดินทางไปราชการที่ต่างประเทศ เช่น ประเทศฟิลิปปินส์ ก็จะทยอยกลับมาบ้างแล้ว
“สำหรับวาระคำร้องของนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ที่มีนายทักษิณ ชินวัตร เป็นผู้ถูกร้องที่หนึ่ง และพรรคเพื่อไทยเป็นผู้ถูกร้องที่สอง คงต้องรอติดตามว่า จะมีการพิจารณาลงมติกันเลยหรือไม่ว่าจะรับหรือไม่รับคำร้องดังกล่าวไว้วินิจฉัย แต่ตอนนี้ อัยการสูงสุดได้ส่งหนังสือและข้อมูลต่างๆ ที่สำคัญมายังสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ครบหมดแล้วก็ทำให้คาดว่าน่าจะมีการหารือกันวันศุกร์นี้”รายงานข่าวจากสำนักงานศาลรธน.ระบุ
อนึ่งคำร้องของนายธีรยุทธดังกล่าว ที่ร้องต่อศาลรธน.มีด้วยกันทั้งสิ้น หกประเด็น ดังนี้
กรณีที่ 1. ผู้ถูกร้องที่ 1 ได้รับพระราชทานพระมหากรุณาอภัยลดโทษให้นักโทษเด็ดขาดชาย ทักษิณ ชินวัตร เหลือโทษจำคุกต่อไปอีก 1 ปี โดยพบว่าผู้ถูกร้องที่ 1 ใช้พรรคผู้ถูกร้องที่ 2 เป็นเครื่องมือควบคุม การบริหารรราชการแผ่นดินสั่งการรัฐบาลผ่านกระทรวงยุติธรรม กรมราชทัณฑ์ โรงพยาบาลตำรวจ ให้เอื้อประโยชน์แก่ผู้ถูกร้องที่ 1 ให้เอื้อประโยชน์แก่ผู้ถูกร้องที่ 1 ระหว่างต้องโทษจำคุกได้พักอาศัยอยู่ห้องพัก ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อไม่ต้องรับโทษอยู่ในเรือนจำแม้แต่วันเดียว เป็นการฝ่าฝืนไม่น้อมรับโทษจำคุกในเรือนจำตามพระบรมราชโองการ การกระทำของผู้ถูกร้องที่ 1 เป็นการกระทำที่ไม่บังควรอย่างยิ่งทำให้ระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาทและหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ส่งผลให้เกิดการเซาะกร่อน บ่อนทำลายพระเกียรติยศของสถาบันพระมหากษัตริย์ในที่สุด
กรณีที่ 2. ผู้ถูกร้องที่ 1 มีพฤติกรรมฝักใฝ่คบหาร่วมคิดกับสมเด็จฯฮุน เซน ซึ่งเป็นผู้นำทางการเมืองประเทศกัมพูชา ซึ่งมีระบบการปกครองที่ฝ่ายการเมืองมีอำนาจเหนือสถาบันพระมหากษัตริย์ และผู้ถูกร้องที่ 1 มีพฤติการณ์เป็นเจ้าของ ผู้ครอบครอง ผู้ครอบงำ และ เป็นผู้สั่งการ ผู้ถูกร้องที่ 2 เป็นเครื่องมือควบคุมการบริหารราชการแผ่นดินสั่งการรัฐบาลให้เอื้อประโยชน์กับสมเด็จฯฮุน เซน ให้ประเทศกัมพูชาละเมิดอธิปไตยทางทะเลของไทย โดยให้มีการเจรจาพื้นที่ที่ฝ่ายกัมพูชาอ้างว่าเป็นเขตพื้นที่ทับซ้อนทางทะเล (MOU 2544) เพื่อแบ่งผลประโยชน์ก๊าซธรรมชาติ และทรัพยากรใต้ทะเลในเขตอธิปไตยทางทะเลของไทยให้แก่ประเทศกัมพูชา
กรณีที่ 3. ผู้ถูกร้องที่ 1 สั่งการให้ผู้ถูกร้องที่ 2 ร่วมมือเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญกับพรรคประชาชนซึ่งเป็นพรรคที่ก่อตั้งโดยกลุ่มการเมือง (พรรคก้าวไกลเดิม) ที่ต้องคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ 3/2567 ว่ามีพฤติการณ์ล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และผู้ถูกร้องที่ 1 มีพฤติการณ์เป็นเจ้าของ ผู้ครอบครอง ผู้ครอบงำ และ เป็นผู้สั่งการ ให้ผู้ถูกร้องที่ 2 เสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อเอื้อประโยชน์ต่อผู้ถูกร้องที่ 1 และพวก
กรณีที่ 4.ผู้ถูกร้องที่ 1 มีพฤติการณ์เป็นเจ้าของ ผู้ครอบครอง ผู้ครอบงำ และ เป็นผู้สั่งการแทน ผู้ถูกร้องที่ 2 ในการเจรจากับแกนนำของพรรคการเมืองอื่นที่ร่วมรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี เพื่อหารือการเสนอบุคคลผู้สมควรเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ เหตุเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2567 ที่บ้านพักส่วนตัวของผู้ถูกร้องที่ 1 (บ้านจันทร์ส่องหล้า)
กรณีที่ 5. ผู้ถูกร้องที่ 1 มีพฤติการณ์เป็นเจ้าของ ผู้ครอบครอง ผู้ครอบงำ และ เป็นผู้สั่งการ ให้ผู้ถูกร้องที่ 2 มีมติขับพรรคพลังประชารัฐออกจากพรรคร่วมรัฐบาลโดยผู้ถูกร้องที่ 2 ยินยอมกระทำการตามที่ ผู้ถูกร้องที่ 1 สั่งการ
กรณีที่ 6. ผู้ถูกร้องที่ 1 มีพฤติการณ์เป็นเจ้าของ ผู้ครอบครอง ผู้ครอบงำ และ เป็นผู้สั่งการให้ผู้ถูกร้องที่ 2 ซึ่งเป็นพรรคแกนนำรัฐบาล ให้นำนโยบายของผู้ถูกร้องที่ 1 ที่แสดงวิสัยทัศน์ไว้เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2567 ไปดำเนินการให้เป็นนโยบายคณะรัฐมนตรีที่แถลงต่อรัฐสภาในวันที่ 12 กันยายน 2567
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'โทรโข่งรัฐบาล' อัด 'หัวหน้าเท้ง' หมดสภาพผู้นำฝ่ายค้าน มัวแต่จิก แขวะนายกฯ
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณี นายณัฐพงศ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน ผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯ ออกมาให้ข่าวพิจากษ์วิจารณ์นายกฯ ที่เดินทางไปเชิญชวนนักธุรกิจที่เมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
'ณัฐวุฒิ' มั่นใจกระแสตอบรับ ผู้สมัครนายกอบจ.-ส.อบจ. ของพรรคเพื่อไทย
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้ช่วยหาเสียงผู่สมัครนายกอบจ. ของพรรคเพื่อไทย โพสต์รูปภาพและข้อความในเฟซบุ๊กว่า การลงพื้นที่ปราศรัย 3 วัน 4 จังหวัด รวม 9 เวที ได้รับการตอบรับจากประชาชนเป็นอ
‘จิรพงษ์’ โวยหญิงป่วน ‘ทักษิณ’ หาเสียงช่วย ‘พลพัฒน์’ เล่นการเมืองสกปรก
นายจิรพงษ์ ทรงวัชราภรณ์ ผู้ช่วยหาเสียง นายพลพัฒน์ จรัสเสถียร ผู้สมัครนายก อ
ชดเชยค่าโง่ที่ดิน“อัลไพน์” ครม.-สภาฯกล้าเสี่ยงคุกไหม
ภายหลัง “ชำนาญวิทย์ เตรัตน์” รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เซ็นคำสั่งเพิกถอนที่ดินอัลไพน์ ตั้งแต่วันที่ 16 ม.ค.ที่ผ่านมา
ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติเอกฉันท์ไม่รับคำร้อง ปมกล่าวหา 'กกต.' ชงยุบก้าวไกล
ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ มีมติเอกฉันท์ไม่รับคำร้องกรณีที่ กรณี นายธรณิศ มั่นศรี (ผู้ร้อง) ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัย ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 2
'เด็จพี่' ออกทะเล! หากลุ่มต้านทักษิณ ป่วนหวังผลเลือกตั้งอบจ.
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ อดีตโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึง กรณีกลุ่มต้านทักษิณยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี เพื่อเรียกร้องกรณีการพักรักษาตัวที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจของอดีตนายกฯทักษิณ ผ่านศูนย์รับเรื่อง