
25 พ.ย. 2567 – รศ.หริรักษ์ สูตะบุตร อดีตรองอธิการบดีฝ่ายบริหารบุคคล มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า หน้าแตกกันไปตามๆ กัน เมื่อได้ทราบผลการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญว่าไม่รับวินิจฉัยคำร้องของนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร เพราะดูเหมือนนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่จะฟันธงกันว่า จะอย่างไรศาลรัฐธรรมนูญจะต้องรับวินิจฉัย ส่วนผลการวินิจฉัยจะออกมาอย่างไรนั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง
แรกทีเดียวผมเองก็คาดว่าศาลรัฐธรรมนูยจะต้องรับวินิจฉัยคำร้องนี้ แต่ต่อมามีเสียงพรายกระซิบมาบอกว่า ศาลรัฐธรรมนูญอาจจะไม่รับเพราะพยานหลักฐานยังไม่ชัดพอ ดังนั้นจึงไม่ได้แปลกใจเท่าใดนักที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเช่นนี้
เมื่อพิจาณาในภาพรวมด้วยใจเป็นธรรมแล้วต้องยอมรับว่า ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญชุดนี้ ได้พิจารณาวินิจฉัยด้วยความเที่ยงธรรมโดยปราศอคติอย่างแท้จริง อย่าลืมว่า นายธีรยุทธขอให้ศาลสั่งให้ผู้ถูกร้องเลิกการกระทำต่างๆ อันเป็นการนำไปสู่การล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 49 แต่การกระทำเช่นกรณี “ชั้น 14” แม้คนทั้งประเทศจะเชื่อว่านายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ไม่ได้ติดคุกจริงแม้วันเดียว แต่ผลการพิจารณาของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตามที่คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนก็ยังไม่เสร็จสิ้น กรณีเข้าไปรับประทานมาม่ากันในบ้านจันทร์ส่องหล้าก็ยังอยู่ในระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พยานหลักฐานเท่าที่มีจึงยังไม่ชัดและมีน้ำหนักพอที่จะชี้ว่าการกระทำดังกล่าวจะนำไปสู่การล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ศาลรัฐธรรมนูญจึงไม่รับวินิจฉัย
กรณี MOU 44 แม้การเดินหน้าของรัฐบาลต่อเรื่องนี้จะเริ่มขึ้นหลังจากที่นายทักษิณไปแสดงปาฐกถาในงาน Dinner Talk ว่าไทยควรจะเจรจากับกัมพูชาเพื่อแบ่งผลประโยชน์กัน 50:50 โดยไม่ต้องรอให้มีข้อยุติในเรื่องการอ้างสิทธิในพื้นที่ทางทะเลที่ไม่ตรงกัน แต่ศาลก็ยังเห็นว่ายังไม่ใช่ข้อพิสูจน์ที่มีน้ำหนักพอ
ด้วยเหตุนี้ ผู้ที่มีความหวังอยากให้รัฐบาลนี้หมดอำนาจลงเสียที ก็อย่าเพิ่งหมดหวังจนจะยกประเทศไปให้นายทักษิณไปเสีย ผู้ที่เชียร์นายทักษิณและพรรคเพื่อไทยก็อย่างเพิ่งตีปีกดีใจจนมั่นใจว่ารัฐบาลจะอยู่ได้จนครบเทอม อย่าลืมว่าคำร้องต่างๆ ยังอยู่ที่ กกต. ยังมีอีกหลายคำร้อง เมื่อใดที่คำร้องเรื่องการครอบงำพรรคเพื่อไทยของนายทักษิณ และการยอมถูกครอบงำของพรรคเพื่อไทย กรณีไปรับประทานมาม่ากันที่บ้านจันทร์ส่องหล้า เรื่องนี้หากกรรมการ กกต. มีมติให้ยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญเมื่อใด ก็นับถอยหลังถึงวันยุบพรรคเพื่อไทยกันได้เลย
ยังไม่ต้องพูดถึงกรณี “ชั้น 14” รายงานของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนอยู่ในมือของ ป.ป.ช. แล้ว และการไต่สวนพยานหลักฐานมีความก้าวหน้าและมีน้ำหนักมากขึ้นเรื่อยๆ แม้กระทรวงยุติธรรมและโรงพยาบาลตำรวจจะโยนกันไปมา เพื่อไม่ยอมส่งเวชระเบียนของผู้ป่วยที่ชื่อ ทักษิณ ชินวัตร ให้กับ ป.ป.ช. โดยอ้างว่าเป็นความลับก็ตาม
พฤติกรรมและการพูดจาของนายทักษิณในช่วงนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการปราศรัยหาเสียงเลือกตั้งนายก อบจ. จังหวัดอุดรธานี เป็นข้อพิสูจน์ที่ชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ จะเรียกว่าครอบงำหรือไม่ก็ตาม แต่นายทักษิณมีอำนาจเหนือพรรคเพื่อไทยอย่างไม่ต้องสงสัย ไม่ว่าคุณทักษิณจะพูดอะไรพรรคเพื่อไทยก็ขานรับไปปฏิบัติโดยไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ ทั้งสิ้น
ดังนั้นจึงมองไม่เห็นเลยว่า นายทักษิณ พรรคเพื่อไทย และรัฐบาลชุดนี้จะรอดได้อย่างไร ปัญหาคือ เมื่อไม่รอดแล้วใครจะมาเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป รัฐบาลชุดต่อไปจะเป็นอย่างไร นี่คือเรื่องที่น่าเป็นห่วงยิ่งกว่า เพราะมองดูนักการเมืองที่อยู่ในบัญชีรายชื่อนายกรัฐมนตรีแต่ละคนแล้ว ขอบอกว่า ยังไม่มีใครเหมาะสมที่จะเป็นความหวังของชาติได้เลยแม้แต่คนเดียว.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'อนุทิน' สวน พท. ใครทำงานห่วย ยุครัฐบาลนิด-อิ๊งค์ ติดโพลอันดับ 2
'อนุทิน' สวนเพื่อไทย ถ้าทำงานห่วย คนตั้งก็แย่สิ ยุครัฐบาล 'อิ๊งค์ - เศรษฐา' ผลโพลชี้ชัดนั่งแท่นอันดับ 2 ทิ้งห่าง พท. หัวเราะให้คะแนนตัวเอง 'เดี๋ยวจะหาว่าคุย'
หยิกเล็บเจ็บเนื้อ! 'ภท.-พท.' โต้เดือดพัวพัน 'เบน สมิธ'
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า กรณีเบน สมิธ : ภูมิใจไทย-เพื่อไทย หยิกเล็บเจ็บเนื้อ
รู้จักน้อยไปจริง! กระทุ้ง 'อนุทิน' เผยตัวตนให้มากขึ้น
นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต สส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า หรือเรารู้จักท่านนายกรัฐมนตรีน้อยไปจริงๆ
'ทักษิณ' ร่วมเวที 'เสก โลโซ' ร้องเพลงใจสั่งมา ในเรือนจำกลางคลองเปรม
"ทักษิณ" ขึ้นเวทีเรือนจำฯ ควงไมโครโฟนร้องเพลง "ใจสั่งมา" บรรยากาศอบอุ่นมวลความสุข เพื่อนผู้ต้องขังกว่า 1,000 คน ต่างลุกโชว์สเต็ปแด๊นซ์
เพจดังงัดภาพใหม่กว่า ตบหน้าแฟนคลับพรรคแดง ขว้างงูไม่พ้นคอ ทักษิณก็รู้จัก 'เบน สมิธ'
จากกระแสวิพากษ์วิจารณ์ หลังปรากฏภาพนายเบน สมิธ ถ่ายร่วมเฟรมกับบุคคลระดับสูงในแวดวงการเมืองไทย ได้แก่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี, นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
‘เอ็ดดี้’ จี้ ‘เพื่อไทย-ส้ม’ อย่าดีแต่ปาก กลัวอะไรอยู่ ยื่นซักฟอกเลย
เอ็ดดี้ อัษฎางค์ ยมนาค นักวิชาการอิสระ โพสต์ข้อความว่า เห็นขู่กันฮึ่มๆ ว่าจะจะยื่นญัตติไม่ไว้วางใจรัฐบาล เพราะรัฐบาลไม่น่าไว้วางใจ


