
'นักเศรษฐศาสตร์' ชี้หลุมดำ-จุดอันตราย ทำ'พนันออนไลน์' ถูกกฎหมาย จะเปลี่ยนทัศนคติ ค่านิยม พฤติกรรมของประชาชน ให้เห็นกงจักรเป็นดอกบัว เสี่ยงพาสังคมไทยสู่หายนะ ยกผลวิจัย-สถิติ 'เยอรมัน-ออสเตรเลีย-นอร์เวย์' ทำปชช.เป็นผีพนันมากขึ้น-ครอบครัวแตกแยก
22 ม.ค.2568- รศ.ดร.ชิดตะวัน ชนะกุล อาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ -นักวิชาการที่ติดตามเรื่องเศรษฐกิจนอกกฎหมายมาอย่างต่อเนื่อง กล่าวถึงกรณี รัฐบาลกำลังจะลักหลับนำพนันออนไลน์เป็นกิจกรรมถูกกฎหมาย โดยมีรายงานว่าจะออกเป็นพระราชกำหนด คือ ประกาศให้พนันออนไลน์ถูกกฎหมายก่อน แล้วค่อยส่งให้สภา "ประทับตรายาง" เป็น พ.ร.บ.ทีหลังอาจารย์มีมุมมองเรื่องนี้เช่นใด โดยกล่าวว่า เป็นเรื่องที่อันตรายอย่างยิ่งสำหรับประเทศไทย เพราะนอกจากการพนันก่อให้เกิดผลเสียทั้งต่อตัวผู้พนันเองแล้ว ยังก่อให้เกิดความเสียหายต่อสังคมและเศรษฐกิจอย่างร้ายแรง การกำหนดนโยบายสาธารณะเกี่ยวกับอบายมุข จึงต้องมีการศึกษาผลกระทบอย่างถี่ถ้วนในทุกมิติ ไม่สามารถเร่งรีบ รวบรัดได้ ซึ่งโดยปกติแล้วรัฐบาลประชาธิปไตย เริ่มต้นจะมีการทำ referendum เพื่อให้ประชาชนได้ลงมติว่า จะเอากาสิโน/พนันออนไลน์ถูกกฎหมายหรือไม่ เช่น กรณีมลรัฐนิวเจอร์ชีย์ ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้จัดให้มีการลงประชามติถึง 2 ครั้ง ก่อน Atlantic City จะกลายเป็นเมืองคาสิโนรีสอร์ท ในปี ค.ศ. 1976
รศ.ดร.ชิดตะวัน กล่าวต่อว่า การผลักดัน Entertainment complex ซึ่งมีกาสิโนถูกกฎหมายรวมอยู่ด้วย อาจสามารถอ้างได้ว่า เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว แต่การที่รัฐบาลแก้กฎหมายเพื่อให้การพนันออนไลน์ถูกกฎหมาย บ่งชี้ชัดว่า กลุ่มเป้าหมายคือประชาชนในประเทศ เมื่อพิจารณาผลการศึกษาในต่างประเทศพบว่า การพนันออนไลน์ถูกกฎหมาย จะทำให้เกิดการแพร่หลายของการพนัน รวมถึงมีจำนวนคนติดการพนันเพิ่มขึ้น เพราะนอกจากประชาชนจะสามารถเข้าถึงได้อย่างเปิดเผย ไม่ต้องหลบ ๆ ซ่อน ๆ เล่นเหมือนในอดีต ความชอบธรรมโดยกฎหมายจะทำให้เกิดการปรับเปลี่ยนทัศนคติ และค่านิยมของคนในสังคม โดยเฉพาะเยาวชนว่า การพนันเป็นสิ่งที่โอเค ไม่ใช่เรื่องน่าอับอายอีกต่อไป
“ทั้งหมดนี้บั่นทอนความเจริญทางเศรษฐกิจอย่างรุนแรง เนื่องจากการเสพติดการพนัน ส่งผลทางลบต่อผลิตภาพของกำลังแรงงาน เช่น ขาดงาน การมาทำงานอย่างไม่มีประสิทธิภาพ และการตกงาน อีกทั้งส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ที่ดีของผู้เล่นและครอบครัว เพราะการใช้จ่ายด้านนี้ หมายถึง ค่าเสียโอกาสในการนำเงินไปใช้ในสิ่งจำเป็น จึงมักส่งผลต่อเนื่องถึงปัญหาสังคมอื่น ๆ อาทิ ปัญหาสุขภาพจิต ปัญหาหนี้ครัวเรือน ปัญหาความรุนแรงในครอบครัว ปัญหาอาชญากรรม ซึ่งท้ายที่สุดต้องได้รับการแก้ไขเยียวยาโดยงบประมาณภาครัฐ เป็นค่าเสียโอกาสในการนำงบประมาณจำนวนนี้ไปใช้ในการพัฒนาประเทศ”นักเศรษฐศาสตร์ผู้นี้ ระบุ
รศ.ดร.ชิดตะวัน จากคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ให้ข้อมูลว่า จากการวิจัยในต่างประเทศพบประเด็นสำคัญตรงกันอีกว่า การพนันออนไลน์ก่อให้เกิดการเสพติดมากกว่าการพนันออฟไลน์ เนื่องจากการเข้าถึงที่ง่าย ทั้งในแง่เวลาและสถานที่ การไม่ต้องเปิดเผยตัวตนในที่สาธารณะ ความง่ายในการเดิมพัน และการพนันออนไลน์ยังมีค่าใช้จ่ายถูกกว่าเมื่อเทียบกับการพนันแบบออฟไลน์ ส่งผลให้บุคคลติดการพนันมากขึ้น อาทิ การศึกษาของเยอรมนีพบว่า การที่บุคคลเปลี่ยนจากการเล่นพนันแบบออฟไลน์ไปเป็นแบบออนไลน์ จะเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นนักพนันที่มีปัญหารวมถึง ผลการศึกษาของประเทศออสเตรเลียพบว่า การเล่นพนันทั้งในรูปแบบออนไลน์และแบบออฟไลน์ ส่งผลต่อปัญหาการเงิน ความแตกแยกของครอบครัว สุขภาพจิต ทั้งของผู้เล่นและคนใกล้ชิด แต่การพนันออนไลน์จะมีผลเสียหายร้ายแรงกว่า เช่นเดียวกัน การศึกษาล่าสุดเกี่ยวกับนักพนันระหว่างปี 2013-2019 ของประเทศนอร์เวย์พบว่า นักพนันออนไลน์ส่วนใหญ่เป็นผู้ชาย อายุน้อย ไม่ทำงานหรือเรียนหนังสือ เล่นการพนันหลายเกมและมีปัญหาเรื่องการพนัน ดังนั้น รัฐบาลไทยจึงควรตระหนักว่า การนำพนันออนไลน์ขึ้นมาเป็นกิจกรรมที่ชอบด้วยกฎหมาย จะเป็นการทำลายเยาวชนซึ่งเป็นอนาคตของชาติ จนไม่สามารถเติบโตเป็นทรัพยากรมนุษย์ที่ทรงคุณค่า ที่จะขับเคลื่อนสังคมและเศรษฐกิจให้เปลี่ยนผ่านเป็นประเทศที่เจริญแล้วได้เลย
รศ.ดร.ชิดตะวัน กล่าวฝากไปถึงรัฐบาลว่า อย่างที่เคยให้สัมภาษณ์ไปแล้วว่า พรรคการเมืองไม่ได้ชูนโยบายพนันออนไลน์ถูกกฎหมายและกาสิโนถูกกฎหมายในการหาเสียงเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา รวมถึงไม่ได้รายงานนโยบายดังกล่าวต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตามมาตรา 57 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 และเนื่องจากเป็นนโยบายที่มีความเสี่ยงและผลกระทบต่อสังคมอย่างร้ายแรง การผลักดันนโยบายเหล่านี้จึงเป็นการไม่ชอบด้วยกฎหมาย ทั้งนี้ การหวังพัฒนาเศรษฐกิจด้วยอบายมุข เป็นแนวนโยบายสาธารณะที่ผู้แทนปวงชนและรัฐบาลประเทศกำลังพัฒนาไม่พึงกระทำ เพราะนอกจากจะทำลายความเข้มแข็งของเศรษฐกิจในระยะยาวแล้ว นโยบายดังกล่าวจะเปลี่ยนแปลงบรรทัดฐานทางความคิด รวมถึงพฤติกรรมของประชาชน ให้เห็นกงจักรเป็นดอกบัว จนนำมาซึ่งหายนะทางสังคมในรูปแบบต่างๆ และความเสียหายทั้งหมดนี้ไม่สามารถย้อนคืนกลับมาแก้ไขได้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'บวรศักดิ์' นำทีมถก 'กกต.' ขอใช้งบ 'คนละครึ่งเฟส 2' ปัดหาเสียงล่วงหน้า
'บวรศักดิ์' นำทีมหารือ 'กกต.' ขอใช้งบประมาณโครงการคนละครึ่งเฟส 2 - ครม.สัญจร ยันเป็นไปตามนโยบายที่แถลงไม่ใช่หาเสียงล่วงหน้า เตรียมพิจารณาคำถามประชามติอังคารนี้
ดร.ณัฏฐ์ เตือนกฎเหล็กเลือกตั้ง ยุบสภาแล้วผู้สมัคร-พรรคการเมือง ‘ห้ามแจก’ ทันที
นักกฎหมายมหาชนชี้ กฎหมายเลือกตั้งใหม่กำหนดชัด กรณียุบสภาให้นับข้อห้ามหาเสียงตั้งแต่วันยุบสภา ไม่ต้องรอ กกต.ประกาศวันเลือกตั้ง ฝ่าฝืนเสี่ยงคุก-ตัดสิทธิการเมืองยาว 20 ปี
'4 อดีต สส.งูเห่า' สลัดคราบเพื่อไทย ซบรังน้ำเงินเสาร์นี้
'ภูมินทร์-กิตติ-ประเสริฐ-นุชนาถ' 4 อดีต สส.อีสาน ไขก๊อกเพื่อไทย ยื่นสมัครสมาชิก 'ภท.' วันเสาร์ ชี้พื้นที่ชายแดนศรีสะเกษ จัดเลือกตั้งหน้าที่ กกต.
ส่อยื้อเลือกตั้ง! 'โสภณ' โยน กกต. เหตุคนชายแดนยังอพยพ
'โสภณ' ชี้หากคนชายแดนยังอพยพอยู่ ไม่น่าเลือกตั้งได้ เหตุต้องเลือกพร้อมกันทั่วประเทศ ถ้าไม่สงบเป็นหน้าที่ กกต. พิจารณา
เปิดผลทางกฎหมายยุบสภา 'ครม.' ถูก รธน. จำกัดอำนาจ 4 เรื่อง
'ดร.ธนกฤต' เปิดผลทางกฎหมายยุบสภา 'ครม' ถูก รธน. จำกัดอำนาจ 4 เรื่อง ห้ามแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการฯ เว้นแต่ กกต.เห็นชอบ ห้ามใช้งบฉุกเฉิน หรือ อนุมัติโครงการผูกพัน ครม.ชุดใหม่ ชี้วันเลือกตั้งคาดเป็น 1 หรือ 8 ก.พ. 69
รัฐบาลนัด กกต. 15 ธ.ค. คุยเลือกตั้ง ขอไฟเขียว 'คนละครึ่งพลัส' เฟส 2
'บวรศักดิ์' แจงหลังยุบสภา รัฐบาลยังมีอำนาจเต็ม ยกเว้นอนุมัติโครงการใหม่-แต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการ นัดถก กกต.คุยเลือกตั้ง 15 ธ.ค. พร้อมถาม 'คนละครึ่งเฟส 2 - ครม.สัญจรหาดใหญ่' เป็นเรื่องเดิมทำได้หรือไม่

