'เสี่ยหนู' รับเป็นธรรมดา รัฐบาลผสมไม่ทันใจ 'ทักษิณ' คงไม่ชินไม่อยู่ประเทศ 17 ปี

'อนุทิน' ชี้ เป็นธรรมดา รัฐบาลผสมไม่ทันใจ 'ทักษิณ' คงไม่ชินไม่อยู่ประเทศ 17 ปีการเมืองเปลี่ยนแปลง รับมีโอกาสเป็นรัฐบาลพรรคเดียว แต่จะอยู่ได้นานหรือไม่ ขึ้นอยู่กับสภาวการณ์ทางการเมือง

31 ม.ค. 2568- ที่กระทรวงมหาดไทย นายอนุทิน​ ชาญวีรกูล​ รอง​​นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ขึ้นปราศรัยบนเวทีหาเสียง นายก อบจ.เชียงใหม่ ที่ระบุว่าการทำงานของรัฐบาลขณะนี้ล่าช้าและยากเพราะมีพรรคร่วมหลายพรรค ว่า เป็นธรรมดาของรัฐบาลผสม ซึ่งนายทักษิณได้พูดปราศรัยว่า ถ้าจะให้การขับเคลื่อนได้รวดเร็วต้องเลือกพรรคเพื่อไทยเยอะๆ ถ้าหากประชาชนเลือกพรรคเพื่อไทยเยอะ การเมืองก็จะเป็นอีกรูปแบบหนึ่ง ซึ่งในสมัยที่นายทักษิณเป็นนายกรัฐมนตรีตั้งแต่พรรคไทยรักไทย , พรรคพลังประชาชน จนถึงพรรคเพื่อไทย ซึ่งขณะนั้นมีคะแนนเสียงเกินกึ่งหนึ่งคือ 251 เสียง การทำอะไรมันก็เร็ว แต่ตอนนี้มันไม่ใช่

"ตอนนี้เป็นรัฐบาลผสม ที่มีคะแนนเสียงรวมกัน 320 เสียง ซึ่งแบ่งเป็นส่วนของพรรคเพื่อไทย 140 เสียง และพรรคร่วมรัฐบาลอีก 180 เสียง จะให้เป็นเหมือนตอนที่มีคะแนนเสียง 251 เสียงก็คงเป็นไปไม่ได้ เรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ นายทักษิณคงอยากให้การทำงานของรัฐบาลเป็นเช่นเดิมเหมือนสมัยที่ท่านเป็นนายกรัฐมนตรี ที่ท่านกำด้ามไว้หมด แต่วันนี้มันไม่ใช่ ก็ต้องแข่งขันกันทำงาน หากทำงานให้ดีก็อาจจะเกิดเหตุการณ์รัฐบาลพรรคเดียวเกิดขึ้นอีกก็ได้ ซึ่งเราไม่มีปัญหาอะไรก็ว่าไปตามสถานการณ์"

เมื่อถามว่า ส่วนตัวนายทักษิณมีโอกาสจะกลับมาเป็นรัฐบาลพรรคเดียวหรือไม่ หากประเมินสถานการณ์ต่างๆ นายอนุทิน กล่าวว่า ใครก็มีโอกาสเป็น สมัยนี้กับเมื่อ 25 ปีก่อน ก่อนที่นายทักษิณจะเป็นนายกรัฐมนตรี ก่อนจะมีพรรคไทยรักไทย จะมีใครเคยคิดว่าประเทศไทยจะมีรัฐบาลพรรคเดียว ซึ่งนายทักษิณก็ทำให้เห็นมาแล้ว แต่ที่สำคัญคือจะอยู่ได้นานหรือเปล่า ดังนั้นอะไรที่อยู่ในจุดที่สมดุล อะไรที่ไปด้วยกันแล้วเกิดความสามัคคีปรองดอง ไม่ทำให้เกิดความแตกแยก เอาช้อยส์นั้นดีกว่า ตนคิดว่าทุกวันนี้รัฐบาลปัจจุบัน ความสัมพันธ์ ความสามัคคี การยอมรับในตัวของนายกรัฐมนตรีก็มีอยู่แล้ว ให้ความร่วมมือกันอย่างเต็มที่อยู่แล้ว ไม่ช้าหรอกครับ ไม่มีอะไรช้า แต่ตอนนี้การตรวจสอบเยอะ และฝ่ายค้านเข้มแข็ง

"เพราะฉะนั้นการทำงานจะต้องมีความระมัดระวัง เราจึงต้องปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์ด้วย เราอยู่ตรงนี้มา อย่างที่นายทักษิณบอกว่าไม่ได้อยู่ในประเทศไทยมา 17 ปี แต่พวกเราอยู่การเมืองมาโดยตลอด เราจึงมีความรู้สึกชินว่าจะต้องมีการปรับเปลี่ยนตามสภาวการณ์ทางการเมือง แต่นายทักษิณเพิ่งกลับมา อาจจะยังไม่ทันใจ เพราะท่านเป็นคนทำงานเร็ว ตัดสินใจเร็ว อีกสักพักทุกคนก็จะต้องปรับตัว"

เมื่อถามว่า จะมีปัญหาการทำงานระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่มี มีอะไรที่เป็นนโยบายของนายกรัฐมนตรีแล้วไม่เคยได้ ได้ทุกอย่าง ไม่มีอะไรที่พรรคร่วมต้องการแล้วไม่เคยได้ อย่างเช่น เงินเยียวยาน้ำท่วม กว่าหมื่นล้านบาท กระทรวงมหาดไทยเป็นคนขอ นายกรัฐมนตรีก็อนุมัติทันที เพื่อให้พี่น้องประชาชน เพราะฉะนั้นการดำเนินงานเพื่อพี่น้องประชาชนเรามีหน้าที่สนับสนุนการทำงานซึ่งกันและกัน อะไรที่ไม่ถูกต้องก็มีหน้าที่ที่ช่วยกันกระตุกขากันไว้ อย่าให้เลยเถิดไป นี่คือการอยู่รวมกัน

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'อิ๊งค์' โพสต์ภาพคู่ 'ทักษิณ' สุขสันต์วันพ่อ อดทนไว้ เราจะได้ไปเที่ยวรอบโลกด้วยกัน

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย โพสต์ภาพถ่ายร่วมกับนายทักษิณ ชินวัตร พร้อมระบุข้อความผ่านอินสตาแกรมว่า

รู้จักน้อยไปจริง! กระทุ้ง 'อนุทิน' เผยตัวตนให้มากขึ้น

นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต สส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า หรือเรารู้จักท่านนายกรัฐมนตรีน้อยไปจริงๆ

'ทักษิณ' ร่วมเวที 'เสก โลโซ' ร้องเพลงใจสั่งมา ในเรือนจำกลางคลองเปรม

"ทักษิณ" ขึ้นเวทีเรือนจำฯ ควงไมโครโฟนร้องเพลง "ใจสั่งมา" บรรยากาศอบอุ่นมวลความสุข เพื่อนผู้ต้องขังกว่า 1,000 คน ต่างลุกโชว์สเต็ปแด๊นซ์

เพจดังงัดภาพใหม่กว่า ตบหน้าแฟนคลับพรรคแดง ขว้างงูไม่พ้นคอ ทักษิณก็รู้จัก 'เบน สมิธ'

จากกระแสวิพากษ์วิจารณ์ หลังปรากฏภาพนายเบน สมิธ ถ่ายร่วมเฟรมกับบุคคลระดับสูงในแวดวงการเมืองไทย ได้แก่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี, นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง

ศาลรับอุทธรณ์คดี ม.112 ให้ 'ทักษิณ' ยื่นคำแก้อุทธรณ์ภายใน 15 วัน

พนักงานอัยการสำนักงานคดีอาญา 8 ได้ยื่นคำอุทธรณ์คดี ที่ศาลอาญายกฟ้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในความผิดฐานดูหมิ่นสถาบัน ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ