4 ก.พ.2568 - นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นายกรัฐมนตรีมีข้อสั่งการเรื่องการเยือนจีนอย่างเป็นทางการจะมีการผลักดัน และติดตามความร่วมมือสำคัญ ได้แก่
ด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน ให้เร่งส่งเสริมความเป็นหุ้นส่วนด้านการลงทุนระยะยาว โดยเฉพาะในสาขาแห่งอนาคตที่สำคัญต่อการเปลี่ยนผ่านสีเขียวและดิจิทัล เช่น EV, Semiconductor, Data Centre ขอให้คณะรัฐมนตรีให้ความสำคัญกับมาตรการกำกับดูแล มาตรฐาน คุณภาพ และความปลอดภัยของสินค้าอย่างเข้มงวดโดยเฉพาะสินค้าเกษตรและอาหาร ขอให้เดินหน้าพัฒนาโครงการ LandBridge และพร้อมเปิดรับการลงทุนจากประเทศจีน หากนักลงทุนจีนให้ความสนใจ และครม. ได้มีการอนุมัติโครงการรถไฟไทย-จีน ระยะที่ 2 เพื่อเชื่อมต่อเส้นทางจากจังหวัดนครราชสีมา-หนองคาย ขอให้ติดตามการดำเนินการอย่างใกล้ชิด
นายจิรายุ กล่าวว่า นายกฯมีข้อสังการเรื่องที่ 2. ด้านความปลอดภัย และการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาตินั้น ขอให้รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องบริหารจัดการเรื่องความปลอดภัยสำหรับนักท่องเที่ยว และยกระดับมาตรการต่างๆ โดยไม่ยอมให้ขบวนการอาชญากรรมข้ามชาติใช้ไทยเป็นทางผ่าน โดยเฉพาะแก๊งค์ call center อย่างใกล้ชิด
และ 3. เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนทั้ง 2 ประเทศให้ดำเนินการดังนี้ ให้เร่งการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ให้มีความพร้อมต่ออนาคต
ให้สนับสนุนการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม soft power และการเตรียมความพร้อมในการรับแพนด้ายักษ์คู่ใหม่จากจีน ในฐานะทูตสันถวไมตรีในปีนี้
นายจิรายุ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี ยังมีข้อสั่งการกรณีเรื่องของปัญหาที่มีอยู่ในเรื่องการตัดน้ำ หรือไฟ ไปยังประเทศเพื่อนบ้านนั้น การกำกับเรื่องมาตรการการตัดน้ำตัดไฟในพื้นที่ชายแดนของ สมช. หากมีข้อมูลของการกระทำผิด ขอให้นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี เรียกประชุมกับทาง สมช. เพื่อพิจารณาในมาตรการต่อไปอย่างชัดเจน โดยให้คำนึงถึงประโยชน์ และความปลอดภัยของประชาชนคนไทย และประเทศไทยที่ได้รับผลกระทบอย่างเต็มที่ หากต้องตัดก็ให้ดำเนินการ
นายจิรายุ กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังมีข้อสั่งการเพิ่มเติมเรื่องการเร่งรัดการเบิกจ่ายงบลงทุนของแต่ละกระทรวง โดยกล่าวว่า วันจันทร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ ได้มีการประชุมเร่งรัดติดตามเรื่องงบการลงทุนของแต่ละกระทรวง ทั้งกระทรวงคมนาคม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงกลาโหม และจะมีการประชุมเพื่อติดตามความคืบหน้าในช่วงปลายเดือนมีนาคมนี้ โดยที่ทางอธิบดีกรมบัญชีกลางจะช่วยเร่งรัดการเบิกจ่ายให้เป็นไปตามกำหนด โดยขอให้รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เร่งติดตามให้ทุกกระทรวงดำเนินการตามเป้าหมาย เพราะถือว่าเป็นปัจจัยหลักในการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ภาพเก่าถูกยกมาปั่น! เกมเบี่ยงศึกสแกมเมอร์หมื่นล้านในยุคอนุทิน
วันที่ภาพเก่าหลายเฟรมของ “เบน สมิธ” ถูกดันกลับขึ้นมาในโซเชียล คือวันเดียวกับที่ ปปง. แถลง ยึด-อายัดทรัพย์ 289 รายการ มูลค่ากว่า 10,165 ล้านบา
ตม.เชียงใหม่จับแก๊งคอลเซ็นเตอร์จีน ยึดโทรศัพท์ 174 เครื่อง-บัญชีม้าเพียบ
ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองเชียงใหม่ร่วมกับ บก.ปอท. ทลายเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์ชาวจีนเช่าบ้านหรูกลางเมืองสารภี ยึดโทรศัพท์-บัต
'อดีตรมว.การคลัง' แพร่บทความเตือน 'ไทยอาจต้องบรรลัยด้วยไทยเทา'
วันที่เศรษฐกิจสีเทาของไทยเรากำลังถูกแซะถูกเจาะ แล้วก็ถูกแฉออกมาอย่างมากมาย อันเนื่องมาจากพฤติกรรมการดำเนินธุรกิจสีแดงและสีเทาของประเทศเพื่อนบ้าน
‘นันทิวัฒน์’ เตือนรัฐบาลอย่าตกขบวน ขุดเองก่อนต่างชาติแฉคดีฟอกเงินเขมร
อดีตรองผอ.สำนักข่าวกรองฯ ชี้สหรัฐฯ เปิดปฏิบัติการยึดทรัพย์เครือปริ้นส์กว่า 5 แสนล้าน ลามสู่การคว่ำบาตร 40 รายชื่อ เตือนไทยอย่ารอให้ต่างชาติขุดชื่อคนไทย–นักการเมืองเอี่ยวเอ
'อนุทิน' ย้ำ กอ.รมน. ยกระดับป้องกัน 'สแกมเมอร์' เคาะ 4 แผนดับไฟใต้
'อนุทิน' ย้ำที่ประชุม กอ.รมน. ยกระดับกลไกป้องกัน 'สแกมเมอร์-คอลเซ็นเตอร์' สั่งทุกภาคส่วนบูรณาการร่วมกัน พร้อมเดินหน้า 4 แผนขับเคลื่อนแก้ปัญหาชายแดนใต้


