'พริษฐ์' ข้องใจแก้รัฐธรรมนูญแลกกาสิโน 'ประเสริฐ' โต้ไม่มีต่อรองแค่เห็นต่างเรื่องกระบวนการ

'พริษฐ์' ตั้งกระทู้ถาม ข้องใจจุดยืนพรรคร่วมรัฐบาลเห็นต่างแก้รัฐธรรมนูญ ห่วงต่อรองหลังเวทีเอาเงื่อนไขแก้รัฐธรรมนูญแลกตั้งกาสิโน ด้าน 'ประเสริฐ' แจงแค่เห็นต่างเรื่องกระบวนการ ปัดไม่มีเงื่อนไขต่อรอง

20 ก.พ.2568 - ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามสดของนายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน สอบถามนายกรัฐมนตรีถึงแนวทางแก้ไขรัฐธรรมนูญที่มีความเห็นต่างระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล โดนนายกฯมอบหมายให้นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ตอบกระทู้ชี้แจงแทน

โดยนายพริษฐ์ กล่าวว่า แม้รัฐบาลยืนยันการแก้รัฐธรรมนูญ แต่ยังไม่เห็นพรรคร่วมรัฐบาล และสว.หัวใจเดียวกันสนับสนุนการแก้รัฐธรรมนูญ อ้างข้อกังวลด้านข้อกฎหมายที่ยังไม่มีความชัดเจนจากศาลรัฐธรรมนูญ จึงอยากทราบเหตุผลที่พรรคร่วมรัฐบาลและสว.ไม่ร่วมมือแก้รัฐธรรมนูญ เป็นเพราะความกังวลข้อกฎหมาย ไม่ใช่ปัญหาจุดยืนทางการเมืองที่ไม่อยากแก้รัฐธรรมนูญ แม้นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย บอกภายหลังว่า พร้อมสนับสนุนการแก้รัฐธรรมนูญ หากสิ้นข้อสงสัยด้านข้อกฎหมาย แต่หากสว.ไม่ร่วมแก้ไขด้วย ก็ไม่มีอะไรเป็นหลักประกันจะสนับสนุนการแก้รัฐธรรมนูญ อีกทั้งคำพูดของนายกรัฐมนตรีระบุว่า ได้หารือร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญกับพรรคร่วมรัฐบาลแล้ว แต่นายอนุทินบอกนายกฯไม่เคยมาคุยเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญ ดังนั้นคำพูดใครควรเชื่อถือกว่ากัน

นายพริษฐ์ กล่าวว่า ความเห็นต่างระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลอีกเรื่องคือ สถานบันเทิงครบวงจร ที่ล่าสุดร่างพ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจร ที่รัฐบาลรับหลักการ ไม่ได้แก้ไขข้อกังวลของพรรคร่วมรัฐบาลก่อนหน้านี้ได้แก่ 1.ไม่ได้แก้ปัญหาการพนันผิดกฎหมาย 2.การเปิดประมูลแข่งขันการทำสถานบันเทิงครบวงจร และการเปิดรับฟังความเห็นประชาชน 3.ไม่ตอบโจทย์การท่องเที่ยวในเมืองที่ตั้งสถานบันเทิงครบวงจร 4.การสร้างงานแก่แรงงานไทย 4ข้อกังวลที่พรรคร่วมรัฐบาลเคยทักท้วง ปรากฏว่าในร่างกฎหมายที่ครม.รับหลักการมาไม่มีการแก้ไขข้อกังวลเหล่านี้เลย อยากถามนายกฯว่า จะทำอย่างไรให้พรรคร่วมรัฐบาลมาสนับสนุนร่างพ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจร โดยไม่ต้องไปตกลงหลังห้อง เรื่องสถานที่ตั้งกาสิโน หรือการนำเรื่องแก้รัฐธรรมนูญ เรื่องกัญชาไปแลกกับเรื่องกาสิโน

ด้านนายประเสริฐ ชี้แจงว่า นโยบายการเร่งแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น ตั้งแต่รัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี เราให้ความสำคัญการแก้รัฐธรรมนูญมาตลอดจนถึงรัฐบาลน.ส.แพทองธาร ชินวัตร ยืนยันรัฐบาลและพรรคเพื่อไทยยังมีเจตนารมณ์ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญอยู่ ซึ่งพรรคเพื่อไทยก็เตรียมที่จะเสนอเรื่องต่อรัฐสภาเพื่อส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเพื่อให้เกิดความสบายใจของสมาชิกรัฐสภา เชื่อว่าหากสมาชิกมีความสบายใจแล้ว เขาก็พร้อมที่จะโหวต ไม่มีใครขัดขวาง ส่วนคำถามที่ถามว่ารัฐบาลยังไม่พร้อมที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น ต้องเรียนว่าสมาชิกรัฐสภามีความประสงค์ที่จะอยากเห็นรัฐธรรมนูญออกมาเป็นฉบับที่ดีที่สุด ยืนยันว่าพรรคร่วมรัฐบาลไม่มีความขัดแย้งเรื่องแก้รัฐธรรมนูญ แต่อาจมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันบ้างในเรื่องกระบวนการเท่านั้น การแสดงออกความคิดเห็นของสมาชิกรัฐสภาถือเป็นเอกสิทธิ์ ซึ่งเราก็เคารพความคิดเห็นของแต่ละคน แต่เรายังมีจุดมุ่งหมายเดียวกัน อย่างไรก็ตาม ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น เป็นร่างที่เสนอโดยพรรคการเมือง 2 พรรค การจะให้รัฐบาลต้องไปรับผิดชอบในเรื่องนี้นั้น อาจจะเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง

นายประเสริฐ กล่าวอีกว่า ส่วนคำถามเรื่องสถานบันเทิงครบวงจรนั้น แม้ตอนนี้จะผ่านความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ไปแล้ว แต่ก็ยังอยู่ในขั้นตอนที่คณะกรรมการกฤษฎีกาดูในรายละเอียดเพื่อให้มีความชัดเจนมากขึ้น รวมถึงอยู่ในขั้นตอนการทำประชามติครั้งที่3 ซึ่งในส่วนของพรรคการเมืองต่างๆ ก็คงจะมีการพูดคุยกันอยู่ อาจจะไร้ข้อสงสัยแล้ว แต่ขณะนี้ร่างกฎหมายดังกล่าวยังไม่เข้าสู่การพิจารณาในสภาผู้แทนราษฎร เมื่อเข้าสู่การพิจารณาแล้วสมาชิกก็สามารถที่จะแสดงความคิดเห็นได้ตั้งแต่วาระที่ 1 จนถึงวาระที่ 3 จากนั้นก็ต้องเข้าสู่การพิจารณาของสมาชิกวุฒิสภาอีก และกฎหมายทุกฉบับต้องตอบโจทย์ในการทำให้ประชาชนได้ประโยชน์สูงสุดไม่ว่าจะเป็นเศรษฐกิจ การลงทุน และด้านอื่นๆ

นายประเสริฐ กล่าวอีกว่า นายกรัฐมนตรีได้พูดคุยกับหัวหน้าพรรคอื่นๆ ตลอดเวลาไม่ว่าจะเดินทางไปที่ไหน หรือแม้กระทั่งในการประชุมครม. เพื่อสร้างความเข้าใจในเรื่องต่างๆ ไม่ได้มีการแลกเปลี่ยนเรื่องอะไรเลย มีเพียงมุ่งเน้นเรื่องที่ประชาชนและประเทศจะได้รับผลประโยชน์สูงสุดเท่านั้น ซึ่งเจตจำนง 2 นโยบายหลักได้แถลงไว้ต่อสภาฯ นั้น นายกรัฐมนตรีใช้ภาวะผู้นำในการคุยกับหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล ไม่มีเดินอ้อม เช่น การแก้ไขรัฐธรรมนูญเราก็ต้องดำเนินการต่อ ส่วนนโยบายอื่นๆ เช่น กัญชา ค่าแรง ผู้ว่าราชการจังหวัด รัฐบาลให้ความสำคัญ แต่การเรียงลำดับขึ้นอยู่กับจังหวะและโอกาส ซึ่งจะต้องมีการพูดคุยกันเนื่องจากบางเรื่องต้องใช้เวลา แต่ยืนยันว่ารัฐบาลให้ความสำคัญทั้งสิ้น

 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เปิดชื่อผู้สมัคร สส.กทม. พรรคประชาชน ครบ 33 เขต

เปิดชื่อว่าที่ผู้สมัคร สส. กทม. พรรคประชาชน ครบ 33 เขต ส่วนใหญ่หน้าเดิม พบ 10 เขต เปลี่ยนตัว คาด ‘ณัฐชา-รักชนก-ปิยรัฐ’ ขยับลง สส. บัญชีรายชื่อ พร้อมส่ง ‘ชุลพล หลักคำ’ ลงลาดกระบังซ้ำ หวังแก้มือ ‘ธีรรัตน์’ ด้าน ‘เฉลิมชัย-พงศ์พันธ์’ หลุดโผ

ดร.สติธร ประเมินเลือกตั้ง “น้ำเงิน-ส้ม” สู้กันเดือด ก่อน ภูมิใจไทย โกย 150 ที่นั่ง นั่งแกนนำตั้งรัฐบาล สดใส

ดร.สติธร ธนานิธิโชติ อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ประเมินภาพรวมสนามเลือกตั้งครั้งใหม่ว่า แม้จะเห็นภาพ 3 สี 3 ขั้ว แต่ในทางปฏิบัติ คู่ชิงตัวจริงมีเพียง 2 พรรค คือ พรรคประชาชน และพรรคภูมิใจไทย

มาถูกทาง! 'หมอสุภัทร' เปิดใจลงสมัคร สส. ในนามพรรคประชาชน

"หมอสุภัทร" เผยตัดสินใจสวมเสื้อพรรคส้ม ถึงเวลาที่ต้องก้าวออกจากเซฟโซน ลาออกราชการรับใช้บ้านเกิด มั่นใจหาดใหญ่ต้องดีกว่านี้

จี้ 'พรรคส้ม' ต้องขอโทษประชาชนด้วย บ้านเมืองมีภัยสงคราม อดีตส.ส.กลับหนีทหาร ดูถูกกองทัพ

นายพิชิต ไชยมงคล แกนนำเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) โพสต์เฟซบุ๊กรณีศาลอาญาอ่านคำพิพากษาลงโทษจำคุก 2 ปีโดยไม่รอลงอาญา นายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ อดีตส.ส.ฉะเชิงเทรา พรรคประชาชน ในคดีปลอมใบสด.43 เพื่อหนีทหาร ว่า

อดีต สส.ปากน้ำ ฉะพรรคส้มเผด็จการ ถูกเขี่ยไม่ให้ลงสมัครเลือกตั้ง ทั้งที่ผ่านมติ กก.บห.แล้ว

ตีกันยับ! 'ตรัยวรรษ' อดีต สส.ปชน. เมืองปากน้ำ มอง ไม่ได้รับความเป็นธรรม ฉะพรรคส้มเผด็จการ 'เลขาพรรค' หักมติ เหตุ ตอนแรกได้ลงสมัครต่อแล้ว แต่ถูกต่อสายขอให้ถอนตัว งง แล้วจะมี กก.บห.เพื่อ ยัน 2 ปี 7 เดือนมุ่งมั่นทำงาน ขอทวงคืนความยุติธรรมให้ตัวเอง