ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศ และอดีตเอกอัครราชทูตไทย เผยกรณีส่งตัวชาวอุยกูร์ 40 คนกลับจีน ไทยต้องเผชิญภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ท่ามกลางเสียงวิจารณ์จากนานาชาติที่มีแต่คำพูดสวยหรู แต่ไม่มีใครยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือจริง
1 มี.ค. 2568 - นายรัศม์ ชาลีจันทร์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และอดีตเอกอัครราชทูต โพสต์เฟซบุ๊ก russ charnsongkram ระบุว่า กรณีอุยกูร์ 40 คน เป็นเรื่องน่าเศร้าที่เต็มไปด้วยความยุ่งยากซับซ้อนกว่าที่เห็น และที่ไทยไม่ได้มีทางเลือกมากนัก แค่ 3 ประการ
1.) ไม่ส่งให้ใคร และคุมขังพวกเขาต่อไปเรื่อยๆ
2.) ส่งไปให้ประเทศที่สาม (หากมีประเทศใดที่จะแน่วแน่ช่วยเหลือยอมรับอย่างจริงจัง)
3.) ส่งกลับไปประเทศต้นทาง ซึ่งคือจีน
ทางเลือกที่ 1 ง่ายแต่ก็เป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างรุนแรง เพราะเป็นการกักขังโดยไม่มีความผิดและไม่มีกำหนด (indefinite detention) ซึ่งเข้าข่ายผิดทั้งกฏหมายทั้งของไทยและระหว่างประเทศ และโหดร้ายต่อชะตากรรมพวกเขาอย่างไร้มนุษยธรรมยิ่ง
ทางเลือกที่ 2. ฟังดูดีที่สุดแต่ยากจะเป็นไปได้จริง เพราะเอาเข้าจริงๆก็ไม่ได้มีประเทศไหนมุ่งมั่นอยากรับจริง อาจมีที่เคยแสดงท่าทีบ้างแล้วก็เงียบหาย ไม่ได้จะมาแน่วแน่ช่วยเหลืออย่างจริงจังเต็มที่อะไร แม้แต่ประเทศมหาอำนาจอย่างสหรัฐฯ หรือองค์การระหว่างประเทศเองอย่าง UNHCR ก็ไม่ได้ให้สถานะผู้ลี้ภัยแก่คนเหล่านี้
บางประเทศมาชี้นิ้วห้ามไทยส่งให้จีน แต่ก็ไม่ได้มีข้อเสนอทางเลือกอื่นอะไรให้ ซึ่งจริงๆ ประเทศเหล่านี้ทำไมไม่ไปล้อบบี้ เจรจากับจีนโดยตรงบ้าง ว่าขอให้ยอมส่งไปประเทศที่สามได้ ก็ไม่เห็นมีประเทศไหนทำ รวมทั้งไม่เห็นมีใครมาบอกว่าหากไทยถูกจีนตอบโต้แล้วจะมาช่วยเหลืออะไรเรา
เรื่องมันน่าเศร้าที่ประเทศต่างๆ เอาเข้าจริงก็มักหน้าไหว้หลังหลอก ไม่ได้ตั้งใจช่วยเหลือเราจริงจัง มีแต่คำพูดสวยหรู และเก่งกับชี้นิ้วประเทศเล็กๆอย่างไทยเท่านั้น
ในขณะที่การส่งตัวไปประเทศที่สามไทยอาจต้องเผชิญกับการตอบโต้จากฝ่ายจีนโดยไม่มีประเทศไหนจะยื่นมือมาช่วยเหลือ ที่อาจส่งผลกระทบระดับรุนแรงต่อประชาชนคนไทยจำนวนมากที่ไม่ควรต้องมารับผลด้วย คำถามจึงคือคนไทยพร้อมจะเผชิญสิ่งนี้หรือไม่เพียงใด?
การส่งตัวไปประเทศที่สามแม้ฟังดูดีแต่ในความเป็นจริงยากจะเกิดขึ้นได้ ไม่ว่าพรรคไหนจะมาเป็นรัฐบาลไทยก็ตาม นี่คือความเป็นจริง
ทางเลือกที่ 3. แม้อาจฟังดูโหดร้าย แต่โดยที่ทางการจีนได้มีหนังสือรับรองอย่างเป็นทางการต่อความปลอดภัยของคนเหล่านี้ตามที่ไทยขอซึ่งในแง่ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ไทยไม่มีเหตุผลที่จะไม่เชื่อสิ่งที่จีนรับรองอย่างเป็นทางการ
และแม้หลายฝ่ายอาจไม่เชื่อจีน แต่เมื่อเขามีหนังสือรับรองเป็นทางการแล้ว เขาก็มีพันธะที่ต้องปฏิบัติตาม ถ้าไม่ทำตามนั้นก็เท่ากับผิดคำพูดและย่อมเป็นผลเสียต่อจีนเอง ซึ่งผมคิดว่าจีนซึ่งเป็นประเทศมหาอำนาจก็จำเป็นต้องรักษาคำพูดของเขาเช่นกัน
ทางการไทยมีท่าทีตลอดมาว่าจะหาทางออกเรื่องนี้ให้เหมาะสมที่สุด ซึ่งเมื่อไม่มีประเทศใดจริงจังที่จะรับคนพวกนี้ และทางจีนมีหนังสือรับรองความปลอดภัยเป็นทางการทางการแล้ว ไทยย่อมต้องถือตามนั้น จะไปบอกว่าเราไม่เชื่อถือคำพูดของเขาไม่ได้ ไม่งั้นก็ไม่ต้องมีความสัมพันธ์กัน
และโดยที่จีนรับรองความปลอดภัยเป็นทางการแล้ว ประเด็นการส่งตัวไปสู่สภาวะอันตราย ซึ่งไทยมีกฏหมายห้ามและที่อาจขัดหลัก non-refoulement ตามกฏหมายระหว่างประเทศ จึงหมดไป(แต่ซึ่งก็เป็นสิ่งที่ฟ้องศาลได้และแล้วแต่ศาลจะตีความอีกที)
ในแง่หนึ่ง การส่งกลับไปจีนถือเป็นเรื่องมนุษยธรรมได้เช่นกัน เพราะการกักขังเขาโดยไม่มีความผิดและไม่มีกำหนดนั้น ยิ่งเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนและไร้มนุษยธรรมยิ่งกว่า
ไม่งั้นเราอยากจะให้ขังพวกเขาตายจนคาคุกหรือ? เพราะไม่มีประเทศไหนที่ยอมช่วยเหลือจริงจัง (ขอเน้นคำว่าจริงจัง)
เมื่อพิจารณาจากทางเลือกทั้ง 3 ประการ การส่งตัวกลับจีนโดยได้รับการรับรองความปลอดภัยอย่างเป็นทางการ จึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดที่ไทยพอทำได้ และยังดีกว่าขังพวกเขาไปเรื่อยๆ จนตายคาห้องขัง อย่างไร้มนุษยธรรม
มันอาจไม่ถูกใจหลายคน และเป็นเรื่องน่าเศร้า แต่ไทยไม่ได้เป็นผู้ก่อปัญหานี้ขึ้นมาแต่แรก และเรื่องนี้มันเอาแต่พูดสวยหรูโก้ๆไม่ได้เพราะเกี่ยวพันกับชีวิตปากท้องประชาชนคนไทยโดยรวมด้วยเช่นกัน ที่ไม่ได้มีประเทศใดจะยื่นมือมาช่วยเราจริง
ก็ยอมรับว่าจริงๆ มันก็น่าเศร้า และใจผมก็ไม่ได้อยากให้สิ่งนี้เกิดขึ้น แต่นึกไม่ออกว่าแล้วจะให้ทำอย่างไร?

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
นักสิทธิมนุษยชนหายไปไหน! กัมพูชายกเลิกเปิดด่านคลองลึก ไม่ให้คนไทยกลับบ้าน
จากกรณีที่สมเด็จฮุนเซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา เสนอความเห็นต่อนายกรัฐมนตรีและรัฐบาล ให้พิจารณาระงับการเดินทางข้ามพรมแดนทั้งหมดของประชาชนกัมพูชาและประชาชนไทย
กองทัพ ห่วงคนไทยติดค้างปอยเปต แต่ กัมพูชา ยังไม่ให้กลับไทย กต.รับตึงเครียด
กองทัพ ยัน กัมพูชา ยังไม่ให้ คนไทยติดค้างปอยเปต กลับไทย ด้าน กต. รับ ชายแดนตึงเครียด ส่งผลการประสานงาน ย้ำ ก้าวผ่านอุปสรรคไปได้
'ไอซ์' เดือด! ถอนหงอก 'ทูตนอกแถว' ปม 'ลิซ่า' ลงช่วยหาดใหญ่หรือทำคอนเทนต์
“ไอซ์ รักชนก” โดดป้อง “ลิซ่า” หลังถูกหาว่าช่วยน้ำท่วมไม่จริง ซัด เดือด “รัศม์ ชาลีจันทร์” สมชื่อ “ทูตนอกแถว” มองข้ามวิกฤตหาดใหญ่ แต่กลับจับผิดผู้หญิงตัวเล็กที่ลุยน้ำช่วยชาวบ้านทั้งสัปดาห์
การเสด็จฯ เยือนจีนครั้งเดียว กับ 30 สถานการณ์สะท้านโลก
นายอัษฎางค์ ยมนาค หรือ เอ็ดดี้ นักวิชาการอิสระ โพสต์บทความผ่านเฟซบุ๊กว่า การเสด็จเยือนครั้งเดียว กับ 30 สถานการณ์สะท้านโลก (ถ้าไม่ได้อ่านแล้วจะเสียใจ ที่อดภาคภูมิใจไปพร้อมกัน )
ในหลวง ทอดพระเนตรนิทรรศการ ฉลอง 50 ปี สัมพันธ์การทูตไทย-จีน พระราชวังโบราณกรุงปักกิ่ง
ในหลวง พระราชินี เสด็จฯพิพิธภัณฑ์พระราชวังโบราณ กรุงปักกิ่ง ทอดพระเนตรนิทรรศการ “หมื่นมิ่งมงคลไชย สายสัมพันธ์นิรันดร“ ฉลอง 50 ปี ไทย-จีน
นั่นไง! ‘รัศม์‘ ชี้เปรี้ยง ‘อนุทิน’ พูดท้าทายสหรัฐก่อน ทำให้เกิดผลเสียต่อประเทศ
นายรัศม์ ชาลีจันทร์ อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงต่างประเทศในรัฐบาลแพทองธาร โพสต์เฟซบุ๊กว่า

