คณะอนุกรรมการฯ มีมติให้คดีฮั้วเลือกสว. 67 เข้าข่ายเป็น ‘คดีพิเศษ’ หลังพบพฤติการณ์ผิดกฎหมายหลายมาตรา รวมถึงอั้งยี่ ม.116 และฟอกเงิน เตรียมชง ‘บอร์ดคดีพิเศษ’ เคาะ 6 มีนาฯ ขณะที่เอกสารรายชื่อพยาน 1,200 คน คาดเป็นข้อมูลจากวันคัดเลือก สว. รอบสุดท้าย ยันไม่ใช่ข้อมูลหลุดจากดีเอสไอ
3 มีนาคม 2568- ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) คณะอนุกรรมการกลั่นกรองด้านอาชญากรรมระหว่างประเทศและอาชญากรรมพิเศษ ได้ประชุมเพื่อพิจารณากรณีคัดเลือกสมาชิกวุฒิสภา ปี 2567 ซึ่งมีพฤติการณ์อาจเข้าข่ายความผิดตามกฎหมาย ประกอบด้วย ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 209 (อั้งยี่) มาตรา 116 (ยุยงปลุกปั่น) มาตรา 77 (1) แห่ง พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา และ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 โดยที่ประชุมมีความเห็นร่วมกันว่าสมควรเสนอให้บอร์ดคณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) พิจารณารับเป็นคดีพิเศษในวันที่ 6 มีนาคมนี้
ร.ต.อ.สุรวุฒิ รังไสย์ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ในฐานะประธานอนุกรรมการฯ เปิดเผยว่า การประชุมครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อกลั่นกรองและพิจารณาในประเด็นอำนาจหน้าที่ของดีเอสไอ โดยที่ประชุมเห็นตรงกันว่าคดีดังกล่าวมีลักษณะเข้าข่ายเป็นคดีพิเศษตามมาตรา 21 แห่ง พ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษ เนื่องจากเป็นความผิดอาญาที่มีผลกระทบเป็นวงกว้างและขัดต่อความสงบเรียบร้อยของประชาชน
หากบอร์ด กคพ. มีมติรับเป็นคดีพิเศษ การสอบสวนจะอยู่ภายใต้คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษร่วมกับพนักงานอัยการ แต่หากมีมติไม่รับเป็นคดีพิเศษ ก็ต้องพิจารณาว่าจะส่งต่อให้หน่วยงานใดดำเนินการแทน
ร.ต.อ.สุรวุฒิ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในที่ประชุมยังได้มีการหารือเกี่ยวกับอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โดยยืนยันว่า ดีเอสไอไม่ได้ทำเรื่องการเลือกตั้ง แต่ดูเฉพาะความผิดทางอาญาเท่านั้น ทั้งนี้ คณะอนุกรรมการฯ มีหน้าที่เพียงกลั่นกรองเรื่องเพื่อเสนอต่อบอร์ดคณะกรรมการคดีพิเศษ ส่วนบอร์ดฯ จะมีความเห็นอย่างไรเป็นอำนาจพิจารณาของที่ประชุม ซึ่งการจะรับเป็นคดีพิเศษหรือไม่ต้องใช้มติ 2 ใน 3 ของบอร์ดฯ
สำหรับประเด็นเอกสารรายชื่อพยาน 1,200 คน ที่ถูกเผยแพร่ก่อนหน้านี้ ร.ต.อ.สุรวุฒิ ระบุว่า รายชื่อนี้ไม่ได้หลุดออกมาจากดีเอสไอ แต่คาดว่าอาจเป็นข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการคัดเลือก สว.รอบสุดท้ายที่มีผู้เข้าสู่รอบ 800 คน
ขณะที่ นายนาเคนทร์ ทองไพรวัลย์ พนักงานอัยการซึ่งได้รับมอบหมายจากอัยการสูงสุด เปิดเผยว่า การพิจารณาคดีนี้อิงตามพยานหลักฐานที่รวบรวมโดยดีเอสไอ ซึ่งพบข้อบ่งชี้ว่ามีความผิดอาญาเกิดขึ้นจริง โดยความเห็นของคณะอนุกรรมการฯ ในวันนี้จะถูกนำเสนอให้บอร์ดคณะกรรมการคดีพิเศษพิจารณาต่อไป.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
DSIประเดิมเชือด8ราย ส่งอัยการฟ้องคดีฮั้วสว.
"ดีเอสไอ" สรุปสำนวน "คดีอั้งยี่-ฟอกเงิน สว." ให้อัยการคดีพิเศษเชือดล็อตแรก 8 ราย
เชือดล็อตแรก 8 ราย 'อั้งยี่-ฟอกเงิน' คดีฮั้ว สว. ดีเอสไอสรุปสำนวนส่งอัยการแล้ว
"ดีเอสไอ" สรุปสำนวน "คดีอั้งยี่-ฟอกเงิน สว." ให้อัยการคดีพิเศษเชือดล็อตแรก "8 ผู้ต้องหา" ประกอบด้วย 2 สว.ตัวจริง และ 6 เครือข่ายพรรคใหญ่ หลังสอบสวนนาน 9 เดือน เหตุคำชี้แจงแก้กล่าวหาไม่สามารถหักล้างพยานหลักฐานได้
ดีเอสไอส่งฟันแก๊งคุกVIP ‘ปปช.’เร่งสอบล่าตัวการ
“ดีเอสไอ" สรุปสำนวนสืบสวน “คดีคุกวีไอพีจีนเทา” ส่ง ป.ป.ช.ดำเนินคดี ม.157
ป.ป.ช. ขยายผล 'กลุ่มคนนอก' คดีคุกวีไอพีจีนเทา ยันไม่จบแค่ ผบ.เรือนจำ-เลขาฯ
ผู้ช่วยเลขา ป.ป.ช. ยืนยันพร้อมตรวจสอบ-ขยายผล "กลุ่มคนนอก" ในคดีคุกวีไอพีจีนเทา มีพฤติการณ์สนับสนุนเจ้าหน้าที่รัฐกระทำผิดหรือไม่ หลัง "ดีเอสไอ" สรุปสำนวนสืบสวนส่ง ป.ป.ช. เชือดก่อน 2 ราย อดีต ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ - เลขา ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ระบุ อำนาจของ ป.ป.ช.
ดีเอสไอ สรุปสำนวนคดีคุกวีไอพีจีนเทา ส่ง ป.ป.ช. เชือด ’ผบ.เรือนจำ’ ม.157 - ค้าประเวณี
จากกรณีเมื่อวันที่ 24 พ.ย. เจ้าหน้าที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ กองคดีความมั่นคง คณะกรรมการตรวจสอบข้
ปปง.-ปปช. ลุยสอบจนท.รัฐ-นักการเมือง เอี่ยวสแกมเมอร์ โยงภาพ 'เบน สมิธ' ลงนาม MOU ดีอี-บ.สิงคโปร์
นักการเมืองไทย-เจ้าหน้าที่รัฐมีหนาว! ภาพคู่ "เบน สมิธ" พ่นพิษ หลัง ปปง. - ป.ป.ช. เดินหน้าลุยตรวจสอบเส้นทางเงิน-ธุรกรรม-โครงการโยง "เบน สมิธ และบริษัทฯ"

