ขยับเกมหรือพึ่งพาดีล? อนุทิน-ภูมิใจไทยในศึกการเมืองเชี่ยวกราก!

ท่ามกลางกระแสการเมืองที่กำลังเชี่ยวกรากในขณะนี้ “พรรคภูมิใจไทย” ภายใต้การนำของ “อนุทิน ชาญวีรกูล” กำลังเผชิญกับจุดหัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญ ไม่เพียงในฐานะพรรคร่วมรัฐบาลที่ถือครองกระทรวงหลักหลายแห่ง แต่ยังเป็นตัวแปรสำคัญในการกำหนดสมดุลอำนาจทางการเมือง ซึ่งอาจกำหนดทิศทางอนาคตของพรรคไปอีกหลายปีข้างหน้า

แม้ “เพื่อไทย” และ “ภูมิใจไทย” จะเป็นสองพรรคหลักของรัฐบาลปัจจุบัน แต่ความสัมพันธ์ภายในกลับเต็มไปด้วยปัญหาความขัดแย้งที่สะสมขึ้นเรื่อยๆ และกำลังปะทุจากหลายประเด็นสำคัญ ตั้งแต่การฮั้วเลือก สว. ที่มีข่าวว่าเครือข่ายภูมิใจไทยเข้าไปเกี่ยวข้อง, กรณีที่ดินเขากระโดง-สนามกอล์ฟนครราชสีมา ที่กระทบต่อฐานอำนาจของพรรค, รวมถึง MotoGP ที่สะท้อนถึงการช่วงชิงผลประโยชน์ระหว่างภูมิใจไทยกับเพื่อไทย

การที่ประเด็นเหล่านี้ถูกขุดขึ้นมาในเวลานี้ ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นสัญญาณว่ามี “มือที่มองไม่เห็น” กำลังบีบให้ “ภูมิใจไทย” ต้องเลือกเส้นทางสำคัญ ว่าจะเป็นแค่ “พรรคตัวแปร” ที่เล่นตาม “เกมดีลอำนาจ” หรือจะก้าวขึ้นมาเป็น “พรรคหลัก” ที่มีบทบาทชี้นำอนาคตประเทศ

แรงกระเพื่อมเหล่านี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาเดียวกับที่ “ทักษิณ ชินวัตร” กลับมามีบทบาทในรัฐบาลภายใต้การนำของลูกสาว “แพทองธาร ชินวัตร” อย่างเต็มตัว ซึ่งมีข่าวลือว่าทักษิณกำลังเดินเกมผ่านนักการเมืองที่มีประสบการณ์ด้านยุทธศาสตร์การเมืองไม่ต่างจาก “เนวิน ชิดชอบ” ในยุครัฐบาลไทยรักไทย

แต่ครั้งนี้ “เนวินและภูมิใจไทย” กลับต้องเป็นฝ่ายตั้งรับ แทนที่จะเป็นฝ่ายรุก เนื่องจากพรรคเพื่อไทยกำลังใช้กลยุทธ์ “แทรกซึม-เจาะฐานอำนาจ” ของภูมิใจไทยอย่างเป็นระบบ

ไม่ว่าจะยอมรับหรือไม่ นี่คือช่วงเวลาที่พรรคภูมิใจไทยต้องเผชิญกับแรงกดดันทั้งจากภายในและภายนอก และหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่พรรคจะต้องตัดสินใจว่าจะ “ประคองตัว” หรือ “เดินเกมรุก” เพื่อสร้างพื้นที่อำนาจของตัวเอง

อีกหนึ่งระลอกคลื่นใหญ่ที่กำลังซัดกระแทกรัฐบาล คือ “ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) สถานบันเทิงครบวงจร หรือ "กาสิโนถูกกฎหมาย" ที่กำลังจะเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีในเร็วๆ นี้

ย้อนกลับไปเมื่อครั้งรัฐบาล “เศรษฐา ทวีสิน” พรรคภูมิใจไทยเคยประกาศจุดยืนคัดค้านกาสิโนอย่างชัดเจน ด้วย 4 ข้อกังวลหลัก ได้แก่

1.อาจไม่ช่วยแก้ปัญหาการพนันผิดกฎหมาย แต่กลับทำให้มันแพร่กระจายมากขึ้น

2.ผลประโยชน์ที่รัฐและประชาชนจะได้รับจากกาสิโนยังไม่มีความชัดเจน

3.ไม่มีหลักประกันว่ากาสิโนจะกระตุ้นเศรษฐกิจไทยได้จริง

4.ขาดมาตรการรองรับแรงงานไทยในอุตสาหกรรมนี้

ทว่าเมื่อเข้าสู่ยุครัฐบาล “แพทองธาร ชินวัตร” ท่าทีของพรรคภูมิใจไทยกลับเงียบผิดปกติ ไม่มีการออกมาตั้งหลักคัดค้านเหมือนในอดีต นี่อาจเป็นผลมาจาก “ดีลการเมือง” หรืออาจเป็นเพราะ “กระทรวงมหาดไทย” ซึ่งอยู่ในการดูแลของพรรคภูมิใจไทย มีบทบาทสำคัญในร่างกฎหมายนี้?

คำถามสำคัญคือ “ภูมิใจไทย” จะเลือกเดินเส้นทางไหน? หากพรรคเลือกที่จะเปลี่ยนจุดยืนและสนับสนุนกาสิโน อาจถูกมองว่าขาดความจริงใจทางการเมือง และเป็นพรรคที่ไม่มีหลักการ

แต่หากพรรคยืนยันจุดยืนเดิม ไม่สนับสนุนกาสิโน ก็อาจกระทบเสถียรภาพของรัฐบาล และอาจถูกบีบให้ออกจากวงอำนาจ

นี่ไม่ใช่แค่เรื่องนโยบาย แต่เป็นบททดสอบสำคัญของภูมิใจไทยว่าจะสามารถรักษาความเป็นอิสระของพรรคได้หรือไม่

ทางการเมือง “อนุทิน” มีจุดเด่นในการเป็น “นักประนีประนอม” และสามารถรักษาสมดุลของอำนาจได้ดี แต่จุดอ่อนสำคัญคือ ขาดจุดยืนทางการเมืองที่ชัดเจน

หากยังคงเล่นเกมเดิม คือ “รอจังหวะ-ประคองตัว-พึ่งพาดีลการเมือง” เพื่อรักษาสถานะพรรคร่วมรัฐบาลไปเรื่อยๆ โอกาสของ “อนุทิน” ในการก้าวขึ้นเป็นนายกฯ ก็คงเป็นเพียง “ฝันไกล” ที่ไม่มีวันเป็นจริง

แต่หาก “อนุทิน” เปลี่ยนเกม หันมาเป็นผู้นำที่มีจุดยืนทางการเมืองที่ชัดเจน กล้าตัดสินใจ และใช้โอกาสนี้ในการยกระดับภูมิใจไทยจาก “พรรคตัวแปร” เป็น “พรรคหลัก” ที่กำหนดอนาคตของประเทศ

เขาอาจสร้างแรงสั่นสะเทือนทางการเมืองที่ทำให้พรรคภูมิใจไทยไม่เพียงแค่พรรคร่วมรัฐบาล แต่เป็นพรรคที่มีศักยภาพท้าทายพรรคเพื่อไทย และขึ้นเป็นแกนนำประเทศในอนาคต

ในระยะสั้น “ภูมิใจไทย” อาจยังคงอยู่ในรัฐบาลต่อไป แต่หากต้องการก้าวข้ามจากพรรคตัวแปรไปเป็นพรรคหลัก พรรคต้องเริ่มสร้างจุดยืนที่ชัดเจนในเรื่องที่กระทบกับผลประโยชน์ของประเทศ โดยเฉพาะประเด็นที่กำลังเป็นที่ถกเถียงของสังคม เช่น กาสิโนถูกกฎหมาย

หากยังคงเล่นเกมการเมืองแบบเดิม คือ “พึ่งพาดีล” เพื่อรักษาสถานะพรรคร่วมรัฐบาลไปเรื่อยๆ สุดท้าย “ภูมิใจไทย” ก็จะไม่มีวันเติบโตเป็นแกนนำของประเทศได้

และนี่คือทางเลือกที่พรรคภูมิใจไทยต้องตัดสินใจ จะเป็นแค่พรรคตัวแปรตลอดไป หรือจะก้าวขึ้นมาเป็นพรรคหลักอย่างแท้จริง?

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'อนุทิน' อ้อนชาวนครปฐม ยัน 'คนละครึ่งพลัส' ไม่ใช่ประชานิยม

หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ลงพื้นที่นครปฐมให้กำลังใจผู้สมัคร ส.ส. 6 เขต ย้ำทำงานเพื่อประชาชน ไม่หวังผลตอบแทน พร้อมแจงเหตุไม่เข้าร่วมดีเบต เพราะต้องลงพื้นที่คารวะทหารกล้า และเผยคนชายแดนได้กลับบ้านฉลองปีใหม่

‘อัครนันท์’ ชูหาเสียงไม่รบกวนชุมชน ตั้งหลักคิดคุณภาพชีวิตมาก่อน

“อัครนันท์” ออกแนวทางการหาเสียงไม่กระทบกับชาวบ้านในพื้นที่ ปรับเวลารถแห่ จาก 08.00 น.เป็น 10.00 น. หวังลดผลกระทบด้านเสียง เอาใจ คนในพื้นที่

‘สมศักดิ์’ นำผู้สมัครเพื่อไทย 3 จังหวัด สักการะมหาราชก่อนจับเบอร์

“สมศักดิ์” นำผู้สมัคร สส. เพื่อไทย “ตาก-สุโขทัย-พิษณุโลก” สักการะมหาราชทั้ง 3 พระองค์ “ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช-พระบรมราชานุสาวรีย์พ่อขุนรามคำแหงมหาราช-ศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช” เอาฤกษ์เอาชัย ก่อนลุยจับเบอร์สู้ศึกเลือกตั้ง

สมัคร สส.บุรีรัมย์ 10 เขต วันแรกคึกคัก ภท.-ปชน.ลงครบ

เปิดรับสมัคร สส.บุรีรัมย์ 10 เขต วันแรกบรรยากาศคึกคัก หลายพรรคส่งผู้สมัครครบทุกเขต “ไชยชนก” นำทีมภูมิใจไทย ขณะที่ “ศิริกัญญา” นำทัพพรรคประชาชน ขอปักธงส้มในพื้นที่

‘พิพัฒน์’ นำทัพ ภท. ลุยนครศรีฯ ประกาศทวงโอกาสให้ชาวใต้

“พิพัฒน์ รัชกิจประการ” ประเดิมเดินสายภาคใต้ ให้กำลังใจผู้สมัคร ส.ส.ภูมิใจไทย นครศรีธรรมราช ครบ 9 เขต ปลุกพลังหาเสียง ย้ำขอเป็นตัวแทนทวงสิทธิ์และโอกาส หลังชาวใต้ถูกละเลยมานานหลายสิบปี พร้อมขอคะแนนให้ภูมิใจไทยเข้าไปทำงานดูแลพื้นที่อย่างเต็มที่