ท่ามกลางกระแสการเมืองที่กำลังเชี่ยวกรากในขณะนี้ “พรรคภูมิใจไทย” ภายใต้การนำของ “อนุทิน ชาญวีรกูล” กำลังเผชิญกับจุดหัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญ ไม่เพียงในฐานะพรรคร่วมรัฐบาลที่ถือครองกระทรวงหลักหลายแห่ง แต่ยังเป็นตัวแปรสำคัญในการกำหนดสมดุลอำนาจทางการเมือง ซึ่งอาจกำหนดทิศทางอนาคตของพรรคไปอีกหลายปีข้างหน้า
แม้ “เพื่อไทย” และ “ภูมิใจไทย” จะเป็นสองพรรคหลักของรัฐบาลปัจจุบัน แต่ความสัมพันธ์ภายในกลับเต็มไปด้วยปัญหาความขัดแย้งที่สะสมขึ้นเรื่อยๆ และกำลังปะทุจากหลายประเด็นสำคัญ ตั้งแต่การฮั้วเลือก สว. ที่มีข่าวว่าเครือข่ายภูมิใจไทยเข้าไปเกี่ยวข้อง, กรณีที่ดินเขากระโดง-สนามกอล์ฟนครราชสีมา ที่กระทบต่อฐานอำนาจของพรรค, รวมถึง MotoGP ที่สะท้อนถึงการช่วงชิงผลประโยชน์ระหว่างภูมิใจไทยกับเพื่อไทย
การที่ประเด็นเหล่านี้ถูกขุดขึ้นมาในเวลานี้ ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นสัญญาณว่ามี “มือที่มองไม่เห็น” กำลังบีบให้ “ภูมิใจไทย” ต้องเลือกเส้นทางสำคัญ ว่าจะเป็นแค่ “พรรคตัวแปร” ที่เล่นตาม “เกมดีลอำนาจ” หรือจะก้าวขึ้นมาเป็น “พรรคหลัก” ที่มีบทบาทชี้นำอนาคตประเทศ
แรงกระเพื่อมเหล่านี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาเดียวกับที่ “ทักษิณ ชินวัตร” กลับมามีบทบาทในรัฐบาลภายใต้การนำของลูกสาว “แพทองธาร ชินวัตร” อย่างเต็มตัว ซึ่งมีข่าวลือว่าทักษิณกำลังเดินเกมผ่านนักการเมืองที่มีประสบการณ์ด้านยุทธศาสตร์การเมืองไม่ต่างจาก “เนวิน ชิดชอบ” ในยุครัฐบาลไทยรักไทย
แต่ครั้งนี้ “เนวินและภูมิใจไทย” กลับต้องเป็นฝ่ายตั้งรับ แทนที่จะเป็นฝ่ายรุก เนื่องจากพรรคเพื่อไทยกำลังใช้กลยุทธ์ “แทรกซึม-เจาะฐานอำนาจ” ของภูมิใจไทยอย่างเป็นระบบ
ไม่ว่าจะยอมรับหรือไม่ นี่คือช่วงเวลาที่พรรคภูมิใจไทยต้องเผชิญกับแรงกดดันทั้งจากภายในและภายนอก และหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่พรรคจะต้องตัดสินใจว่าจะ “ประคองตัว” หรือ “เดินเกมรุก” เพื่อสร้างพื้นที่อำนาจของตัวเอง
อีกหนึ่งระลอกคลื่นใหญ่ที่กำลังซัดกระแทกรัฐบาล คือ “ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) สถานบันเทิงครบวงจร หรือ "กาสิโนถูกกฎหมาย" ที่กำลังจะเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีในเร็วๆ นี้
ย้อนกลับไปเมื่อครั้งรัฐบาล “เศรษฐา ทวีสิน” พรรคภูมิใจไทยเคยประกาศจุดยืนคัดค้านกาสิโนอย่างชัดเจน ด้วย 4 ข้อกังวลหลัก ได้แก่
1.อาจไม่ช่วยแก้ปัญหาการพนันผิดกฎหมาย แต่กลับทำให้มันแพร่กระจายมากขึ้น
2.ผลประโยชน์ที่รัฐและประชาชนจะได้รับจากกาสิโนยังไม่มีความชัดเจน
3.ไม่มีหลักประกันว่ากาสิโนจะกระตุ้นเศรษฐกิจไทยได้จริง
4.ขาดมาตรการรองรับแรงงานไทยในอุตสาหกรรมนี้
ทว่าเมื่อเข้าสู่ยุครัฐบาล “แพทองธาร ชินวัตร” ท่าทีของพรรคภูมิใจไทยกลับเงียบผิดปกติ ไม่มีการออกมาตั้งหลักคัดค้านเหมือนในอดีต นี่อาจเป็นผลมาจาก “ดีลการเมือง” หรืออาจเป็นเพราะ “กระทรวงมหาดไทย” ซึ่งอยู่ในการดูแลของพรรคภูมิใจไทย มีบทบาทสำคัญในร่างกฎหมายนี้?
คำถามสำคัญคือ “ภูมิใจไทย” จะเลือกเดินเส้นทางไหน? หากพรรคเลือกที่จะเปลี่ยนจุดยืนและสนับสนุนกาสิโน อาจถูกมองว่าขาดความจริงใจทางการเมือง และเป็นพรรคที่ไม่มีหลักการ
แต่หากพรรคยืนยันจุดยืนเดิม ไม่สนับสนุนกาสิโน ก็อาจกระทบเสถียรภาพของรัฐบาล และอาจถูกบีบให้ออกจากวงอำนาจ
นี่ไม่ใช่แค่เรื่องนโยบาย แต่เป็นบททดสอบสำคัญของภูมิใจไทยว่าจะสามารถรักษาความเป็นอิสระของพรรคได้หรือไม่
ทางการเมือง “อนุทิน” มีจุดเด่นในการเป็น “นักประนีประนอม” และสามารถรักษาสมดุลของอำนาจได้ดี แต่จุดอ่อนสำคัญคือ ขาดจุดยืนทางการเมืองที่ชัดเจน
หากยังคงเล่นเกมเดิม คือ “รอจังหวะ-ประคองตัว-พึ่งพาดีลการเมือง” เพื่อรักษาสถานะพรรคร่วมรัฐบาลไปเรื่อยๆ โอกาสของ “อนุทิน” ในการก้าวขึ้นเป็นนายกฯ ก็คงเป็นเพียง “ฝันไกล” ที่ไม่มีวันเป็นจริง
แต่หาก “อนุทิน” เปลี่ยนเกม หันมาเป็นผู้นำที่มีจุดยืนทางการเมืองที่ชัดเจน กล้าตัดสินใจ และใช้โอกาสนี้ในการยกระดับภูมิใจไทยจาก “พรรคตัวแปร” เป็น “พรรคหลัก” ที่กำหนดอนาคตของประเทศ
เขาอาจสร้างแรงสั่นสะเทือนทางการเมืองที่ทำให้พรรคภูมิใจไทยไม่เพียงแค่พรรคร่วมรัฐบาล แต่เป็นพรรคที่มีศักยภาพท้าทายพรรคเพื่อไทย และขึ้นเป็นแกนนำประเทศในอนาคต
ในระยะสั้น “ภูมิใจไทย” อาจยังคงอยู่ในรัฐบาลต่อไป แต่หากต้องการก้าวข้ามจากพรรคตัวแปรไปเป็นพรรคหลัก พรรคต้องเริ่มสร้างจุดยืนที่ชัดเจนในเรื่องที่กระทบกับผลประโยชน์ของประเทศ โดยเฉพาะประเด็นที่กำลังเป็นที่ถกเถียงของสังคม เช่น กาสิโนถูกกฎหมาย
หากยังคงเล่นเกมการเมืองแบบเดิม คือ “พึ่งพาดีล” เพื่อรักษาสถานะพรรคร่วมรัฐบาลไปเรื่อยๆ สุดท้าย “ภูมิใจไทย” ก็จะไม่มีวันเติบโตเป็นแกนนำของประเทศได้
และนี่คือทางเลือกที่พรรคภูมิใจไทยต้องตัดสินใจ จะเป็นแค่พรรคตัวแปรตลอดไป หรือจะก้าวขึ้นมาเป็นพรรคหลักอย่างแท้จริง?
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
‘อนุทิน’ เซ็นคำสั่งแต่งตั้ง ข้าราชการการเมือง 1 ราย
ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ ๔๔๕/๒๕๖๘ เรื่อง แต่งตั้งข้าราชการการเมือง
หยิกเล็บเจ็บเนื้อ! 'ภท.-พท.' โต้เดือดพัวพัน 'เบน สมิธ'
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า กรณีเบน สมิธ : ภูมิใจไทย-เพื่อไทย หยิกเล็บเจ็บเนื้อ
หนูโต้ไม่ให้สัญชาติเบนสมิธเหตุพ้นมท.1
วงแตก! “อนุทิน” รับรู้จัก “เบน สมิธ” แต่ไม่สนิท ไม่มีธุรกิจร่วมกัน
เพื่อไทยกระอัก! 'อนุทิน' ย้อนเจ็บ มีภาพคู่ทักษิณเยอะ ไม่เห็นมีปัญหา
"อนุทิน" เหน็บ "สุริยะ-โฆษกเพื่อไทย" ไม่รู้เรื่องอะไรเพราะไม่ได้ร่วมวง การสนทนาสำหรับผมต้องระดับสูงขึ้นไป ย้อนเจ็บภาพถ่ายคู่ทักษิณก็มีตั้งเยอะ ไม่เห็นมีปัญหาอะไรเลย
โฆษกภูมิใจไทย โต้เดือด โทรโข่งเพื่อไทยแกล้งตาบอด ไม่เห็นภาพทักษิณกับเบน สมิธ
โฆษกภูมิใจไทย สวนโฆษกเพื่อไทย อย่าแกล้งตาบอด ปีนี้ใครถ่ายรูปกับ "เบน สมิธ" ยัน "อนุทิน" แค่รู้จักแต่ไม่สนิท ผลงานประจักษ์ยึดทรัพย์หมื่นล้านสแกมเมอร์รายใหญ่ บีบพ้น มท.1 เหตุไม่ให้สัญชาติใครหรือไม่ เย้ย 4 เดือนใครบริหารน้ำท่วมเหลว ขณะที่ "2 เดือน" นายกฯอนุทิน" เข้ามาแก้วิกฤติ
เพื่อไทย เปิดตัว 'อดีตปลัด ก.เกษตร' ลงสนามชนบ้านใหญ่ 'ศิลปอาชา'
พท.เปิดตัว “ประยูร อินสกุล” อดีตปลัด ก.เกษตรฯ ลงสนามชนบ้านใหญ่ “ศิลปอาชา” ไม่ฟันจะปักธงเมืองสุพรรณได้หรือไม่ ชี้ขึ้นกับ ปชช. อ้อนกาเพื่อไทยทั้งคนทั้งพรรค


