'ภูมิธรรม' โพสต์แจงมติกคพ. ใช้ข้อกฎหมายตรวจสอบฮั้วสว. ไม่ใช่เรื่องการเมือง ยันมีความโปร่งใส

7 มี.ค.2568 - นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โพสต์เฟซบุ๊ก หัวข้อ "ความโปร่งใสคือหัวใจของความชอบธรรม" มีเนื้อหาดังนี้

เมื่อวานนี้คณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) ได้มีมติให้กรณีการสมคบกันในความผิดฐานฟอกเงินของบุคคลหรือคณะบุคคลที่กระทำผิดเป็นอั้งยี่ ที่เกี่ยวข้องกับการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา (สว.) เมื่อปี 2567 เป็น คดีพิเศษ ตามมาตรา 21 วรรคหนึ่ง (1) แห่ง พระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547

โดยพิจารณาบนฐานข้อเท็จจริงกรณีที่มีผู้เสียหายมาร้องทุกข์กล่าวหากับทาง DSI เป็นการสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของภาครัฐในการตรวจสอบข้อสงสัยเกี่ยวกับความโปร่งใสของกระบวนการเลือกตั้งสว.

การตัดสินใจครั้งนี้ดำเนินการตามหลักกฎหมายและอำนาจหน้าที่ของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) อย่างเคร่งครัด เพื่อให้เกิดการตรวจสอบอย่างรอบด้าน และสร้างความเชื่อมั่นต่อระบบนิติบัญญัติของประเทศ

ใช้ข้อกฎหมายตรวจสอบ ไม่ใช่เรื่องการเมือง
การพิจารณาและมีมติชี้ขาดของบอร์ด DSI ให้กรณีดังกล่าวเป็นคดีพิเศษ เนื่องจากเป็นการกระทำที่เข้าข่ายความผิดทางอาญาที่มีลักษณะซับซ้อน และส่งผลกระทบต่อผลประโยชน์สาธารณะ โดยมิได้ยุ่งเกี่ยวกับอำนาจหน้าที่ของกกต. ซึ่งทำงานตามภารกิจในฐานะผู้ดูแลจัดการการเลือกตั้ง หากแต่เป็นการแยกกันทำหน้าที่ตามกรอบภารกิจที่เป็นข้อกำหนดในกฎหมาย

นี่คือกระบวนการที่เป็นไปตามหลักกฎหมาย ไม่ใช่การใช้ DSI เป็นเครื่องมือทางการเมืองเพื่อโจมตีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง

การสืบสวนของ DSI มีเป้าหมายเพื่อตรวจสอบความถูกต้องและยืนยันความโปร่งใสของกระบวนการเลือกตั้งสว. ซึ่งมีบทบาทสำคัญต่อการใช้อำนาจนิติบัญญัติและการแต่งตั้งคณะกรรมการอิสระในอนาคต

ความสำคัญของการตรวจสอบกระบวนการเลือกตั้ง สว. สมาชิกวุฒิสภา (สว.) มีบทบาทสำคัญในการถ่วงดุลอำนาจและกำกับดูแลการบริหารราชการแผ่นดิน

อีกทั้งยังมีอำนาจในการให้ความเห็นชอบการแต่งตั้งคณะกรรมการอิสระต่างๆ เช่น คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.), คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.), คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน (คตง.) ซึ่งล้วนเป็นกลไกสำคัญในกระบวนการยุติธรรมของประเทศ

หากการได้มาซึ่ง ส.ว. มีข้อกังขา เกี่ยวกับการทุจริตหรือการสมคบกันเพื่อเอื้อประโยชน์ให้กลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ย่อมส่งผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือของระบบนิติบัญญัติและกระบวนการยุติธรรมโดยรวม

อย่างไรก็ตาม กระบวนการในวันนี้ ไม่ได้หมายความว่าผู้ถูกล่าวหาเป็นผู้กระทำความผิด
ทางกฎหมายแล้ว แต่ยังต้องมีการสอบสวน รวบรวมข้อเท็จจริง เพื่อนำเข้าสู่การพิจารณาตัดสินของศาล จึงจะถือเป็นข้อสรุปที่สิ้นสุด
"ความโปร่งใสคือรากฐานของประชาธิปไตยที่เข้มแข็ง"

การเลือกตั้งที่บริสุทธิ์ยุติธรรมเป็นหัวใจของระบอบประชาธิปไตย และเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ประชาชนสามารถไว้วางใจในกลไกของรัฐ

การที่ DSI ใช้อำนาจตามกฎหมายเพื่อสืบสวนข้อร้องเรียนเกี่ยวกับการเลือกตั้งสว. เป็นการดำเนินการที่จำเป็น ไม่ใช่เรื่องของเกมการเมือง แต่เป็นเรื่องของ หลักนิติรัฐและความยุติธรรม เพื่อให้มั่นใจได้ว่าสมาชิกวุฒิสภาที่ได้รับเลือกมาปฏิบัติหน้าที่นั้น เป็นตัวแทนที่มาจากกระบวนการที่ถูกต้องและโปร่งใส

รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพร้อมสนับสนุนให้มีการตรวจสอบอย่างตรงไปตรงมา เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมและสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนว่าการเลือกตั้งสว. เป็นไปตามกฎหมาย ไม่มีการเอื้อประโยชน์ให้กลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง

นี่คือ "หลักการสำคัญของการบริหารประเทศภายใต้รัฐธรรมนูญและหลักนิติธรรม" ที่รัฐบาลมุ่งมั่นดำเนินการอย่างจริงจัง.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ลุ้นกันยาวๆ 24 ธ.ค.ศาล รธน.นัดไต่สวนพยานคดี 'ภูมิธรรม-ทวี' จุ้นคดีฮั้ว สว.

ศาล รธน.นัดไต่สวนพยานคดีสถานะ 'ภูมิธรรม-ทวี' จุ้นคดีฮั้วเลือก สว. 24ธ.ค.นี้ พร้อมไม่อนุญาต 'สราวุธ' ถอนตัวจากการพิจารณาคดี

'ชนนพัฒฐ์' ลั่นพร้อมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมทุกขั้นตอน! ผิดจริงวางมือทางการเมือง

'ชนนพัฒฐ์' ลั่นต่อสู้ตามกระบวนการยุติธรรม ชี้หากผิดจริงยอมวางมือทันที มั่นใจพิสูจน์ความบริสุทธิ์ได้ ขอบคุณคำวิจารณ์ที่หวังดีต่อบ้านเมือง ด้าน เลขาฯ กธ.ย้ำ ผิดว่าไปตามผิด

สภาสูงคาดพยานกลับคำให้การคดีฮั้วเพราะการสอบสวนไม่มืออาชีพ!

'ฉัตรวรรษ' เผยพยานกลับคำให้การ 'คดีฮั้ว สว.' หลังอ้างถูกข่มขู่ซัดทอด 'ภท.' ชี้ อยู่ที่ความบริสุทธิ์ใจของผู้สอบสวน หากทำถูกต้องเป็นธรรม-มืออาชีพ ก็ไม่มีแบบนี้

'บิ๊กเล็ก' ยัน 'ภูมิธรรม' ไม่เคยสั่งผ่านตนเองให้ทหารหยุดยิง เหตุปะทะไทย-กัมพูชา

‘บิ๊กเล็ก’ ลั่นไม่เคยสั่งหยุดยิง ‘ไทย-กัมพูชา’ ผบ.ทบ. ก็ยันไม่มีใครสั่ง โต้ปม ‘ภูมิธรรม’ สั่งผ่านตนเอง เผยคำพูด ‘บิ๊กกุ้ง’ ก่อนเกษียณฯ หลังประกาศจะเอาคืน ‘กัมพูชา’ จึงหนุนทำให้เสร็จก่อนเกษียณฯ