การเมืองไทยร้อนระอุอีกครั้ง เมื่อ “วันมูหะมัดนอร์ มะทา” ประธานสภาผู้แทนราษฎร มีหนังสือแจ้งถึง “ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ” ผู้นำฝ่ายค้าน ให้ถอดชื่อ “ทักษิณ ชินวัตร” ออกจากญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ
โดยอ้างข้อบังคับทางกฎหมายและความเสี่ยงในการฟ้องร้องหากมีการพาดพิงถึง “บุคคลภายนอก” ที่ไม่ใช่สมาชิกรัฐสภา
แม้ฝ่ายค้าน โดยเฉพาะ “พรรคประชาชน” จะพยายามโต้แย้งคำตัดสิน แต่ประธานสภาฯ ยืนกรานชัดเจนว่า “ถ้าอยากอภิปราย ต้องแก้ญัตติ ไม่แก้ก็ไม่บรรจุ”
การตัดสินใจที่แข็งกร้าวของประธานสภาฯ ทำให้การแก้ไขญัตติ เพื่อถอดชื่อทักษิณออกไป กลายเป็นทางเลือกเดียวที่ฝ่ายค้านไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ หากต้องการให้การอภิปรายไม่ไว้วางใจเดินหน้าต่อไป
หากฝ่ายค้านดื้อดึงไม่แก้ญัตติ อาจทำให้กระบวนการซักฟอกลากยาวออกไป ยิ่งหากล่วงเลยไปถึงเดือนเมษายน ซึ่งมีช่วงวันหยุดยาวและการปิดประชุมรัฐสภาฯวันที่ 11 เมษายน จะทำให้ “ฝ่ายค้านหมดแรงส่งทางการเมือง” เพราะกระแสความสนใจจากประชาชนอาจลดลง
เมื่อกระแสสังคมเริ่มแผ่วลง ผลกระทบจะตกอยู่ที่ฝ่ายค้าน โดยเฉพาะ “พรรคประชาชน” ซึ่งวางแผนใช้ “ศึกซักฟอก” เป็นเครื่องมือ “ชิงมวลชนและสร้างแต้มต่อทางการเมือง” หากจังหวะนี้พลาดไป การเดินเกมต่อในระยะยาวก็จะยากขึ้น
ปรากฏการณ์ที่ฝ่ายรัฐบาล โดยเฉพาะ พรรคเพื่อไทยที่ “บีบ” ให้ฝ่ายค้านถอดชื่อ“ทักษิณ” ออกจากญัตติด้วยการอ้างข้อบังคับห้ามพูดถึง “บุคคลภายนอก” เป็นเพียงเหตุผลที่กลบเกลื่อนเหตุผลที่แท้จริง
ซึ่งก็คือการหลีกเลี่ยงการตรวจสอบ ปิดบังการแทรกแซงและครอบงำ โดยไม่ให้อภิปรายเชื่อมโยงไปถึง ทักษิณ ชินวัตร" ผู้ซึ่งเป็น “อำนาจที่แท้จริง” ที่อยู่เบื้องหลังการชักใยรัฐบาลโดยเฉพาะ “แพทองธาร” นายกรัฐมนตรี
ทางสังคมการเมือง แม้จะถอดชื่อ “ทักษิณ” ออกจากญัตติ แต่ข้อเท็จจริงที่สังคมรับรู้ยังคงไม่เปลี่ยนแปลงว่า “รัฐบาลแพทองธาร” เป็นเงาของทักษิณ ซึ่งคอยชี้นำการบริหารประเทศจากเบื้องหลัง
และหลายแนวทางของรัฐบาลยังสะท้อนถึงแนวคิดและการตัดสินใจของทักษิณที่ถูกนำไปใช้ในรัฐบาลแพทองธาร
“คนมีตำแหน่งแต่ไม่มีอำนาจ คนมีอำนาจแต่ไม่มีตำแหน่ง” - แม้ “แพทองธาร” จะเป็นนายกรัฐมนตรี แต่หลายคนยังมองว่าเธอไม่ได้เป็นผู้กำหนดทิศทางรัฐบาล ขณะที่ “ทักษิณ” แม้ไม่มีตำแหน่งในรัฐสภาหรือคณะรัฐมนตรี แต่กลับถูกมองว่าเป็นผู้มีอำนาจเบื้องหลังที่แท้จริง
การถอดชื่อทักษิณออกจากญัตติเป็นเพียง “รูปแบบทางเทคนิค” ที่ฝ่ายค้านต้องทำเพื่อให้ญัตติผ่านเกณฑ์ แต่ก็ไม่ได้เปลี่ยน “ข้อเท็จจริง” ที่สังคมรับรู้ว่าทักษิณยังคงมีบทบาทสำคัญในเบื้องหลังรัฐบาล
ยิ่งไปกว่านั้น การไม่มีชื่อทักษิณในญัตติ “อาจเป็นแต้มต่อให้ฝ่ายค้าน” เพราะไม่ต้องเผชิญการประท้วงจาก “องครักษ์พิทักษ์ทักษิณ-แพทองธาร” ที่อาจทำให้การอภิปรายเสียเวลาไปกับการโต้แย้งที่ไม่เกี่ยวข้อง
หากฝ่ายค้านหลีกเลี่ยงการเสียเวลากับทักษิณ ก็สามารถมุ่งเน้นไปที่สาระสำคัญของการบริหารงานของรัฐบาลแพทองธาร ทั้งการทุจริต การแต่งตั้งบุคคลที่ไม่เหมาะสม หรือข้อกล่าวหาเรื่องไร้ประสิทธิภาพในหลายด้าน
การอภิปรายครั้งนี้ควรเน้นไปที่ ข้อกล่าวหาการไร้ประสิทธิภาพและการทำลายประชาธิปไตยในระบบรัฐสภา รวมถึงการทุจริตและการแต่งตั้งบุคคลที่ไม่เหมาะสมในตำแหน่งสำคัญ ซึ่งสะท้อนถึงการบริหารงานที่อ่อนแอ และอาจเสี่ยงต่อการเสียหลักในอนาคต
สังคมต้องการเห็นการพิสูจน์ความล้มเหลวของ “รัฐบาลแพทองธาร” มากกว่าการกล่าวหาทักษิณที่ไม่มีตำแหน่ง ซึ่งไม่ช่วยแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน
ดังนั้นแม้จะถอดชื่อทักษิณออกจากญัตติ แต่ก็ไม่สามารถปิดบังความจริงที่สังคมรับรู้ได้ และไม่ว่าพยายามปกปิดมากแค่ไหน “ช้างตายทั้งตัว ใบบัวปิดไม่มิด” ก็ยังคงเป็นข้อเท็จจริงที่ปฏิเสธไม่ได้
โดยเฉพาะในภาพของ “นายกฯ แพทองธาร” ที่ถูกมองว่าเป็นเพียง “หุ่นเชิดของทักษิณ” บนเวทีการเมืองไทย ที่ไม่อาจหลีกหนีความเป็นจริงที่ว่า ผู้มีอำนาจที่แท้จริงในการกำหนดทิศทางรัฐบาล ยังคงเป็นทักษิณนั่นเอง.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เปิดชื่อผู้สมัคร สส.กทม. พรรคประชาชน ครบ 33 เขต
เปิดชื่อว่าที่ผู้สมัคร สส. กทม. พรรคประชาชน ครบ 33 เขต ส่วนใหญ่หน้าเดิม พบ 10 เขต เปลี่ยนตัว คาด ‘ณัฐชา-รักชนก-ปิยรัฐ’ ขยับลง สส. บัญชีรายชื่อ พร้อมส่ง ‘ชุลพล หลักคำ’ ลงลาดกระบังซ้ำ หวังแก้มือ ‘ธีรรัตน์’ ด้าน ‘เฉลิมชัย-พงศ์พันธ์’ หลุดโผ
ดร.สติธร ประเมินเลือกตั้ง “น้ำเงิน-ส้ม” สู้กันเดือด ก่อน ภูมิใจไทย โกย 150 ที่นั่ง นั่งแกนนำตั้งรัฐบาล สดใส
ดร.สติธร ธนานิธิโชติ อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ประเมินภาพรวมสนามเลือกตั้งครั้งใหม่ว่า แม้จะเห็นภาพ 3 สี 3 ขั้ว แต่ในทางปฏิบัติ คู่ชิงตัวจริงมีเพียง 2 พรรค คือ พรรคประชาชน และพรรคภูมิใจไทย
มาถูกทาง! 'หมอสุภัทร' เปิดใจลงสมัคร สส. ในนามพรรคประชาชน
"หมอสุภัทร" เผยตัดสินใจสวมเสื้อพรรคส้ม ถึงเวลาที่ต้องก้าวออกจากเซฟโซน ลาออกราชการรับใช้บ้านเกิด มั่นใจหาดใหญ่ต้องดีกว่านี้
'วิโรจน์ ลักขณาอดิศร' วางมือ ตัดสินใจไม่ลงสมัครเลือกตั้ง 69
"วิโรจน์" ตัดสินใจ ไม่ลงสมัคร สส. อีก 1 ราย ต่อจาก "เท่าพิภพ" ด้าน "โตโต้" ที่ประกาศไม่ลงเขต ล่าสุดลงสมัคร สส.ปาร์ตี้ลิสต์แทน
เพื่อไทยไม่หยุดประชานิยม พร้อมสานต่อดิจิทัลวอลเล็ต ยังค้างประชาชนอีก 20 ล้านคน
นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุมเพื่อวางแผนยุทธศาสตร์ในการเตรียมความพร้อมเลือกตั้ง ว่า เรามีการประชุมกันอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีการหารือเกี่ยวกับเรื่องการเลือกตั้ง รวมถึงมีการประเมินกระแสหลังจากที่มีการเปิดตัวแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคทั้ง 3 คนแล้วว่าเป็นอย่างไร
นับหนึ่งสนามเลือกตั้ง 69 สำรวจบ้านเล็ก-บ้านใหญ่ บนแผนที่ภูมิใจไทย
หลังคณะกรรมการการเลือกตั้งประกาศกำหนดวันเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2569 การเมืองไทยเข้าสู่ช่วงเตรียมพร้อมอย่างเป็นทางการ

