แฉ 'เทมส์ วัลลีย์' ที่เขาใหญ่ เป็นของชินวัตร ซัด 'นายกฯอิ๊งค์' เอาเปรียบสังคม

"ธีรัจชัย" เปิดหลักฐานโรงแรมเทมส์ วัลลีย์ เขาใหญ่ เป็นของครอบครัวชินวัตร ตั้งอยู่ข้าง "แรนโช" ชาญวีร์ ของ อนุทิน อยู่ในเขตพื้นที่นิคมสร้างตนเอง-ต้นน้ำลำธาร ห้ามออกโฉนด-ทำธุรกิจ ซัด "แพทองธาร" ตรวจสอบคนอื่น แต่จงใจละเว้นตรวจสอบตัวเอง

24 มีนาคม 2568 - เวลา 21.55 น. นายธีรัจชัย พันธุมาศ สส.กทม.พรรคประชาชน(ปชน.) อภิปรายเรื่องที่ดินของโรงแรม เทมส์ วัลลีย์ ว่า ก่อนหน้านี้มีมีลูกน้องของนักการเมืองท่านหนึ่งออกมาเปิดเผยว่า ที่ดินสนามกอล์ฟ แรนโช ชาญวีร์ รีสอร์ต แอนด์ คันทรี คลับ (Rancho Charnvee Resort & Country Club) ของครอบครัวนายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย อาจรุกล้ำที่ ส.ป.ก. โดยผิดกฎหมาย ถึงขั้นที่นายอนุทินพูดแรงออกสื่อว่า มีใบสั่งทางการเมืองแน่นอน

หลังจากนั้น ตนได้ค้นข้อมูลพบโรงแรมใกล้สนามกอล์ฟดังกล่าวชื่อว่า เทมส์ วัลลีย์ (THAMES VALLEY) ที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและครอบครัวเป็นเจ้าของตามที่ได้ชี้แจงในบัญชีทรัพย์สินว่า นายกรัฐมนตรีถือหุ้นใหญ่เกือบ 20 ล้านหุ้น บริหารมา 10 กว่าปีก่อนที่จะลาออกจากเพื่อมาเป็นนายกรัฐมนตรี

นายธีรัจชัย มองว่า ที่ดินดังกล่าวกลิ่นไม่ปกติ จึงได้ตรวจสอบ และพบว่า โฉนดที่ดินของโรงแรมดังกล่าว แบ่งออกเป็น 4 แปลง แต่ตรวจสอบย้อนหลังพบว่า พื้นที่ตรงนี้เดิมเป็นของนิคมสร้างตนเองลำตะคอง ที่ทางรัฐบาลในสมัยนั้น จัดสรรในประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ก่อสร้างเขื่อนลำตะคองมาอาศัยอยู่ ไม่เกิน 50 ไร่ โดยพระราชบัญญัติจัดที่ดินเพื่อการครองชีพ พ.ศ. 2511 บัญญัติว่าถ้าสมาชิกนิคมที่ได้สิทธิถือครองที่ดิน ถือครองทำกินในที่ดินอยู่ครบ 5 ปี จะสามารถออกเอกสารสิทธิที่เรียกว่า “หนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตนิคมสร้างตนเอง” หรือ น.ค.3 แล้วถ้าปฏิบัติตามเงื่อนไขอื่นที่กฎหมายกำหนดครบถ้วน ก็สามารถ เอา น.ค.3 ไปเปลี่ยนเป็น นส.3 หรือโฉนดที่ดินได้ต่อไป แต่หลักการนี้มีข้อยกเว้นตามกฎหมาย

“ผมนำเลขที่โฉนดแปลงดังกล่าวใส่ลงไปในระบบแลนด์แมพของกรมที่ดิน แล้วเอาพิกัดนั้นไปเทียบกับแผนที่อิเล็กโทรนิกส์ของกรมพัฒนาที่ดิน ซึ่งเป็นเอกสารราชการที่น่าเชื่อถือ โดยใช้ระบบ GIS ระบบคอมพิวเตอร์มีความแม่นยำสูง จะเห็นว่าที่ดินแปลงนี้ที่เป็นที่ตั้งของโรงแรมเทมส์ วัลลีย์ ของท่านนายกฯตั้งอยู่ในพื้นที่ต้นน้ำลำธาร ซึ่งตามกฎหมายแล้วเข้าใช้ประโยชน์ไม่ได้ และออกโฉนดไม่ได้“นายธีรัจชัยกล่าว

นายธีรัจชัย กล่าวว่า ที่ดินโรงแรมของนายกรัฐมนตรีนั้น อยู่ในพื้นที่ต้นน้ำลำธาร ไม่ควรจะมีใครเข้าไปทำประโยชน์ได้ และไม่ควรจะมีใครสามารถนำที่ดินตรงนั้นไปออก นส.3 หรือโฉนดได้ แล้วโฉนดที่ดินทั้งสี่แปลง มันออกมาได้อย่างไร หากระบวนการออกโฉนดที่ดินเป็นไปตามกระบวนการปกติ และถ้าเจ้าหน้าที่ดำเนินการโดยสุจริต ยากที่จะออกโฉนดที่ดินคลาดเคลื่อนผิดกฎหมายได้ แต่ถ้ายังมีการออกโฉนดที่ดินไปทับป่า ทับพื้นที่หวงห้าม ทับพื้นที่ต้นน้ำลำธาร ก็สามารถสันนิษฐานได้เบื้องต้นว่า กระบวนการการออกโฉนดที่ดินนั้น น่าจะมิชอบด้วยกฎหมาย

“ขนาดท่านอนุทิน เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย มีอำนาจเหนือกรมที่ดิน แต่ที่ดินบางแปลงของสนามกอล์ฟ แรนโช ชาญวีร์ ยังเป็น นส.3 ก อยู่เลย ครอบครัวท่านอนุทินยังไม่ได้นำไปรังวัดปักหมุดออกโฉนดเลย เพราะมันอาจจะเสี่ยง เวลาไปออก นส.3 ก ถึงจะมีภาพถ่ายทางอากาศ แต่ก็ไม่มีการปักหมุดหรือหลักเขต และไม่ได้ตรวจสอบอย่างละเอียดเหมือนกับโฉนด ไม่ต้องมีเจ้าพนักงานที่ดินกับเจ้าหน้าที่กรมพัฒนาที่ดินมาตรวจจำแนกก่อนว่า ไปทับที่ดินหวงห้ามต่างๆ หรือไม่หากดูแผนที่ตรงแรนโช ชาญวีร์ ไม่ไกลจากโรงแรมเทมส์ วัลลีย์ จะเห็นว่าที่ดินสนามกอล์ฟดังกล่าว อาจเข้าไปทับกับพื้นที่ ส.ป.ก. ตามที่ลูกน้องของนักการเมืองหนึ่งเปิดประเด็นจริงก็ได้" นายธีรัจชัย กล่าว

ดังนั้น หากมีการนำ นส. 3 ก. ของแรนโช ชาญวีร์ไปขอออกโฉนด แล้วคอมพิวเตอร์ตรวจเจอว่ามีส่วนหนึ่งส่วนใดของสนามกอล์ฟไปทับกับพื้นที่ ส.ป.ก. เดี๋ยวจะยุ่งเอา

นายธีรัจชัย กล่าวว่า โรงแรมของนายกรัฐมนตรี มีประเด็นนี้ก็คล้ายๆ กับแรนโช ชาญวีร์ คือตอนแรกยังไม่ได้เป็นโฉนด แต่มีการเอาที่ดินตรงนั้นไปออก นส.3ก ก่อน เพราะมันแค่รังวัดด้วยการเดินชี้ไม่ต้องรังวัดโดยละเอียด คงไม่มีใครไปตรวจสอบว่ามันไปทับกับพื้นที่หวงห้ามอะไรบ้างหรือไม่ และจากหลักฐานพบว่า ปี 2537 บุคคลในครอบครัวของนายกรัฐมนตรี ได้ไปซื้อที่ดินแปลงนี้มา

โดยในขณะนั้นเป็น นส.3 ก เลขที่ 2583 เนื้อที่ 33 ไร่ 2 งาน 20 ตารางวา แต่ที่โรงแรมเทมส์ วัลลีย์ สุดยอดกว่าแรนโช ชาญวีร์ คือหลังจากครอบครัวของนายกรัฐมนตรี ไปซื้อ นส.3 ก. มาได้เพียง 2 ปี ในปี 2539 ก็เอาที่ดินในนิคมสร้างตนเองแปลงนี้ ไปออกเป็นโฉนด ได้เป็นโฉนดเลขที่ 22054 แล้วต่อมา ปี 2555 ก็เอาโฉนดแปลงนี้ ไปแบ่งเป็น 4 แปลง ที่ดินแปลงนี้ ไม่ควรออกโฉนดได้แน่นอน เพราะอยู่ในพื้นที่ต้นน้ำลำธารของนิคมสร้างตนเองลำตะคอง เป็นเขตหวงห้าม ครอบครองเข้าทำประโยชน์ไม่ได้ และออกโฉนดไม่ได้

“การที่จะทำอย่างเทมส์ วัลลีย์ เขาใหญ่ ได้ มันไม่ง่าย ถ้าไม่มีอำนาจรัฐ อำนาจทางการเมือง หรืออำนาจอื่นใดมาเกี่ยวข้อง ช่างบังเอิญที่ในช่วงที่มีการออกโฉนดตรงโรงแรมเทมส์ วัลลีย์ครั้งแรกนั้น รองนายกรัฐมนตรีท่านหนึ่ง นามสกุลชินวัตรเอาโฉนดที่มีไปแบ่งเป็น 4 โฉนดในปี 2555 ก็เป็นเวลาที่ประเทศของเรามีนายกรัฐมนตรีที่นามสกุลชินวัตร เหมือนกับนายกแพทองธารพอดี”นายธีรัจชัยกล่าว

นายธีรัจชัย กล่าวด้วยว่า นิคมสร้างตนเองลำตะคอง ที่โรงแรม เทมส์ วัลลีย์ เขาใหญ่ ตั้งอยู่ ยังไม่มีประกาศยกเลิกเขตนิคมสร้างตนเอง นั่นหมายความว่า ยังอยู่ภายใต้พระราชบัญญัติจัดที่ดินเพื่อการครองชีพ พ.ศ. 2511 ที่กำหนดให้ใช้ประโยชน์ที่ดินได้ เฉพาะการอยู่อาศัยและการทำเกษตรกรรมเท่านั้น หมายความว่าต่อให้จะออก นส.3 หรือออกโฉนดไปแล้ว ถ้าต้องการจะเอาที่ดินไปทำอย่างอื่นนอกจากการเกษตรหรืออยู่อาศัย เจ้าของที่ดินต้องได้รับอนุญาตจากอธิบดีกรมพัฒนาสังคมเสียก่อน

นายธีรัจชัย ระบุว่า เรื่องนี้มีทั้งระเบียบ และความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกาชัดเจนว่าต้องได้รับอนุญาตเป็นกรณีๆ ไปถึงจะทำโรงแรม สนามกอล์ฟ หรืออย่างอื่นนอกจากการเกษตร หรืออยู่อาศัยได้ และในปี 2558 เมื่อครั้งรัฐบาล คสช. ไปตรวจโครงการโรงแรมรีสอร์ทสนามกอล์ฟต่างๆ ในพื้นที่นิคมสร้างตนเองลำตะคองตามนโยบายทวงคืนผืนป่า เจ้าหน้าที่ก็พบว่า นอกจากจะไปออกโฉนดทับพื้นที่ต้นน้ำลำธารแล้ว โรงแรมเทมส์ วัลลีย์ ยังไม่เคยได้รับอนุญาตให้ทำกิจการโรงแรมจากอธิบดีกรมพัฒนาสังคมอีกด้วย

“ท่านนายกฯ แพทองธาร ทำธุรกิจไม่ชอบด้วยกฎหมาย ไปเอาพื้นที่ต้นน้ำลำธารในป่าเขาใหญ่ ในนิคมสร้างตนเอง มีการออกโฉนดเป็นของครอบครัวตนเอง แล้วยังเอาไปทำธุรกิจโรงแรมโดยไม่ได้รับอนุญาตอีก เรื่องในลักษณะคล้ายๆ กันนี้ คือกรณีการออกโฉนดในพื้นที่ต้นน้ำลำธาร ป.ป.ช. เพิ่งมีมติชี้มูลความผิดเจ้าหน้าที่กรมที่ดินไป เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2567 เมื่อกลางปีที่แล้วนี่เอง เป็นลักษณะเดียวกับที่ดิน โรงแรม เทมส์ วัลลีย์ เขาใหญ่ ของท่านนายกฯ ตั้งอยู่ใกล้ๆ กันนี่เอง แล้วที่ดินแปลงนี้ แล้วท่านนายกรัฐมนตรี จะรอดไปได้อย่างไร" นายธีรัจชัย กล่าว

นายธีรัจชัย กล่าวท้ายการอภิปรายว่า "ดังนั้น ผมได้นำข้อมูลความผิดของนางสาวแพทองธาร ตระกูลชินวัตร มาอภิปรายในสภาแห่งนี้ ว่าเธอนั้นไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ มีพฤติการณ์เอาเปรียบประชาชน เอาเปรียบสังคม เห็นแก่ผลประโยชน์ของตนเองและครอบครัว อยู่เหนือผลประโยชน์ของส่วนรวมอย่างไร"

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'วิสุทธิ์' ชี้ปรับครม.อยู่ในมือนายหญิงอิ๊งค์ กาสิโนกระแสดี ปชช.ไม่ขวาง

'วิสุทธิ์' ไม่รู้ มีดีลแลกเก้าอี้ รมต. 'พท.-ภท.' หรือไม่ บอกได้ยินแต่ข่าวจากสื่อ ย้ำ ทุกเรื่องเป็นอำนาจตัดสินใจของ 'นายกฯ อิ๊งค์' เผย วง สส.พท. อยากให้ปรับ ครม. กระทรวงค้าขาย ชี้ หลังฟังเสียง ปชช. ไม่ค้าน 'กม.เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์' 

คนไทยอึ้ง! เพจ 'อันวาร์' โพสต์คลิปเยือน 'แพทองธาร' ใช้เพลง 'อมพระมาพูด' ประกอบ

เพจทางการของ “ดาโตะ เซอรี อันวาร์ อิบราฮิม” นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย โพสต์คลิปสรุปการเยือนไทยเพื่อพบ “แพทองธาร ชินวัตร” นายกฯ ไทยอย่างเป็นทางการ แต่กลับเลือกใช้เพลงดัง “อมพระมาพูดก็ไม่เชื่อ” ของเบิร์ด–เสก เป็นแบ็กกราวด์ ทำชาวเน็ตไทยจับตาแรง เจตนาดีหรือเจตนาลึก?

‘อดีตรองอธิการฯมธ.’ ฟังธง! ‘ลูกชายเนวิน’ ส่งสัญญาณ รัฐบาลจะถึงจุดจบในอีกไม่นาน ‘อิ๊งค์-แม้ว’ ไม่ได้อยู่ในไทย

รศ.หริรักษ์ สูตะบุตร อดีตรองอธิการบดีฝ่ายบริหารบุคคล มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์ข้อความว่า คงไม่ต้องถกเถียงกันแล้วว่า การประกาศกลาง

ปรับ-ถอน-หรือปล่อยตาย: เกมตัดสินรัฐบาลในช่วงปิดสภาหลังสงกรานต์

แม้เทศกาลสงกรานต์จะยังไม่จบลงอย่างเป็นทางการ แต่ สัญญาณทางการเมืองหลังหยุดยาว เริ่มส่งแรงสั่นสะเทือนกลับมาเร็วเกินคาด โดยเฉพาะใน รัฐบาลผสมที่มีพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำ

ชิง2เก้าอี้ตุลาการศาลรธน. สว.สีน้ำเงินตัวปิดเกม

หลังที่ประชุมวุฒิสภาไม่ให้ความเห็นชอบ ศ.ดร.สิริพรรณ นกสวน สวัสดี อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และชาตรี อรรจนานันท์ อดีตเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ เข้าไปเป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ เพราะคะแนนเสียงโหวตเห็นชอบไม่เกินกึ่งหนึ่งของจำนวนเสียง สว.ที่ปฏิบัติหน้าที่เมื่อช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา

พ่อลูกชินวัตร แขวนตุงสืบชะตา สะเดาะเคราะห์

“นายกฯอิ๊งค์” ควง “ทักษิณ” สรงน้ำพระพุทธสิหิงค์ แขวนตุงสืบชะตา ก่อนเปิดสงกรานต์นานาชาติ เล่นน้ำกับชาวเชียงใหม่ บอกใครคิดเลขกี่ตัวก็ขอให้ถูก รวยๆทุกคน พร้อมร่วมฉีดน้ำวัยรุ่นลานห้างเมญ่า