จับตา 'สว.สีน้ำเงิน' โหวต 3 ป.ป.ช. เสียงไม่ถึง 130 ส่อแพแตก ชิ่งคดีฮั้ว

ลุ้น ‘สว.สีน้ำเงิน’ ลงมติ 3 ป.ป.ช. คาดสภาสูงถกเครียด เลื่อน-ไม่เลื่อน กลุ่มอิสระขู่วอล์กเอาต์หากแพ้โหวต ปูดให้จับตา หากเสียงไม่ถึง 130 ส่งสัญญาณเริ่มแพแตก-ชิ่งออก หลังโดนไล่บี้คดีฮั้ว

30 พ.ค. 2568 – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ ที่ประชุมวุฒิสภา จะมีการประชุมวาระสำคัญ คือการโหวตให้ความเห็นชอบหรือไม่ให้ความเห็นชอบรายชื่อบุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อเป็นกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช.ใหม่สามคน ที่คณะกรรมการสรรหาฯ ซึ่งมีประธานศาลฎีกาเป็นประธาน ได้คัดเลือกและส่งชื่อมาให้สว.โหวต ซึ่งจะเป็นการประชุมลับ

แต่ก่อนที่จะมีการประชุมวาระสำคัญดังกล่าว ที่ประชุมจะมีการโหวตตั้งคณะกรรมาธิการสามัญ เพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบประวัติ ความประพฤติ และพฤติกรรมทางจริยธรรมของบุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) คือ นายณรงค์ กลั่นวารินทร์ ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา

รวมถึงการตั้ง กมธ.สอบประวัติฯ บุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อเป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญใหม่สองคนคือ ศาสตราจารย์ ร.ต.อ.สุธรรม เชื้อประกอบกิจ และนายสราวุธ ทรงศิวิไล อดีตอธิบดีกรมทางหลวง สมัยนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ อดีตเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย เป็น รมว.คมนาคม และตั้งกมธ.สอบประวัติฯ ผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็นอัยการสูงสุดคนใหม่คือ นายอิทธิพร แก้วทิพย์

อย่างไรก็ตาม ก่อนที่จะมีการพิจารณาวาระดังกล่าวทั้งหมดข้างต้น ที่ประชุมจะมีการพิจารณาญัตติด่วน เรื่องขอให้ชะลอการตั้งคณะกรรมาธิการสามัญเพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบประวัติความประพฤติ และพฤติกรรมทางจริยธรรมของบุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งกรรมการการเลือกตั้งและตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ รวมทั้งให้ชะลอการให้ความเห็นชอบ ป.ป.ช. จนกว่ามีคำตัดสินในคดีที่สมาชิกวุฒิสภาจำนวนมากตกเป็นผู้ถูกร้องและผู้ร้องขณะนี้ ซึ่งเป็นญัตติที่เสนอโดยนายเทวฤทธิ์ มณีฉาย สว. กลุ่มอิสระ ที่เสนอให้วุฒิสภาชะลอหรือเลื่อนการพิจารณาระเบียบวาระดังกล่าวข้างต้นทั้งหมดออกไปก่อน

โดยเมื่อเริ่มการประชุมวุฒิสภา เมื่อนายเทวฤทธิ์อภิปรายเหตุผลการเสนอญัตติดังกล่าวแล้ว จากนั้น คาดว่าจะมีสว.อิสระบางส่วน ลุกขึ้นอภิปรายสนับสนุนให้ สว. เลื่อนการโหวตเห็นชอบ ป.ป.ช. และการตั้ง กมธ.สอบประวัติฯ สามคณะออกไปก่อนจนกว่าจะมีความชัดเจนว่า กกต. และกรมสอบสวนพิเศษ (ดีเอสไอ) จะมีการพิจารณายื่นคำร้องเอาผิด สว. รายใดบ้างในคดีฮั้ว สว. และจะมี สว. กี่คนที่อาจถูกศาลฎีกาฯสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่การเป็น สว.

ทั้งนี้ คาดว่า อาจจะมี สว. สีน้ำเงินอีกบางส่วน ลุกขึ้นอภิปรายไม่เห็นด้วยกับการเสนอเลื่อนดังกล่าว และอภิปรายขอให้ที่ประชุมเดินหน้าพิจารณาวาระทั้งหมดต่อไป ที่ต้องดูว่าเสียงส่วนใหญ่ใน สว. จะโหวตอย่างไร โดยเฉพาะกลุ่ม สว.สีน้ำเงินที่คุมเสียงข้างมากใน สว. เวลานี้ และหลายคนมีชื่อถูกอนุ กกต. เรียกไปชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาคดีฮั้ว สว. โดยหากเสียงข้างมากโหวตให้มีการเดินหน้าพิจารณาตามระเบียบวาระ จะทำให้มีการโหวตเรื่อง ป.ป.ช. ในช่วงท้ายๆ การประชุมวันนี้ ที่คาดว่าจะใช้เวลาหลายชั่วโมง

ด้าน นาวาตรีวุฒิพงศ์ พงศ์สุวรรณ สว. กลุ่มอิสระ กล่าวว่า สว. ควรเลื่อนการโหวต ป.ป.ช. และการตั้ง กมธ.สอบประวัติฯ ทั้งหมดออกไป เพื่อรอให้กระบวนการไต่สวนสอบสวนขอ งกกต. และดีเอสไอในคดีฮั้ว สว. เสร็จสิ้นก่อน ไม่ควรจะมีการโหวตในวันนี้ โดยการประชุมวันนี้ จะมีสว.อิสระบางส่วนลุกขึ้นอภิปรายเรื่องนี้ด้วยหลักการและเหตุผลว่าเพราะเหตุใดจึงควรเลื่อน ซึ่งหากสุดท้าย จะมีการใช้เสียงข้างมาก ให้ สว. ต้องโหวต ป.ป.ช. และตั้งกมธ.ฯสามคณะให้ได้ ทาง สว.อิสระ ก็อาจมีการวอล์กเอาต์เดินออกจากห้องประชุม แล้วไปแถลงข่าวกับสื่อมวลชนเพื่อฟ้องประชาชนว่าเกิดอะไรขึ้นในห้องประชุม

“การโหวต ป.ป.ช. และตั้ง กมธ.สอบประวัติฯ ที่จะมีขึ้น หากรอไปถึงตอนเปิดประชุมสมัยสามัญเดือน ก.ค. ก็น่าจะทันอยู่ เพราะถึงตอนนั้นคงมีความชัดเจนจาก กกต. และดีเอสไอแล้ว เช่น กกต. จะส่งคำร้องไปยังศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งหรือไม่ และหากส่งไปจะมี สว. ถูกส่งชื่อไปกี่คน ก็ควรรอไปก่อน เพราะตอนนี้ การสอบของ กกต. ก็คืบหน้าไปมากแล้ว อีกไม่นานก็คงรู้ผล ไม่ควรดันทุรัง เพราะไม่อย่างนั้น ภาพที่ออกมา จะกลายเป็นว่าเกิดการแตกหักกันในกลุ่ม สว.” นาวาตรีวุฒิพงศ์ ระบุ

ด้าน สว. อีกคนหนึ่งให้ข้อมูลว่า การโหวต ป.ป.ช. ใหม่สามชื่อในวันนี้ พบว่า สว.สีน้ำเงิน มีการเคลื่อนไหวแบบปิดลับ ไม่ให้ สว. นอกกลุ่มรู้ความเคลื่อนไหวว่าจะโหวตเห็นชอบทั้งสามรายชื่อหรือไม่ โดยตลอดการประชุมวุฒิสภาเมื่อวันที่ 29 พ.ค. ที่ผ่านมา สว.สีน้ำเงิน มีการจับกลุ่มพูดคุยกันเอง โดยเมื่อ สว. กลุ่มอื่น ไปถาม สว.สีน้ำเงินว่าจะเลื่อนการโหวต ป.ป.ช. และการตั้งกมธ.ฯ สอบประวัติ ตามญัตติที่ สว.กลุ่มเอิสระเสนอมาหรือไม่ และหากไม่เลื่อน จะโหวตเห็นชอบ ป.ป.ช. ให้ผ่านหมดทั้งสามชื่อหรือไม่ หรือจะมีบางคนไม่ผ่าน ก็ปรากฏว่า สว.สีน้ำเงิน พยายามเลี่ยงที่จะแสดงความคิดเห็น เมื่อพบว่าคนที่มาถามเป็น สว.กลุ่มอื่น เพื่อไม่ให้ความลับรั่วไหล โดยเฉพาะเพื่อไม่ให้มีการโยงไปถึงซอยรางน้ำ ที่กำลังถูกจับตามองอยู่

“สิ่งที่น่าจับตาก็คือ การโหวตในที่ประชุม สว.วันนี้ ทั้งการโหวตว่าจะเลื่อนหรือไม่เลื่อน การโหวตตั้ง กมธ.สอบประวัติฯ สามคณะ และที่สำคัญการโหวต ป.ป.ช. สามคน ให้จับตาดูว่า เสียงโหวตของ สว.สีน้ำเงิน มีเท่าไหร่ หากพบว่าต่ำกว่า 130 เสียง ในการโหวตแต่ละครั้ง โดยเฉพาะคะแนนตอนโหวต ป.ป.ช. หากไม่มีการเลื่อน แสดงว่า สว.สีน้ำเงินบางคนเริ่มอาจจะเตรียมชิ่งออกแล้ว โดยเฉพาะพวกที่ไม่ใช่น้ำเงินแท้ หลังมีการสอบสวนคดีฮั้ว สว. เพื่อต้องการแสดงให้เห็นว่าไม่ได้อยู่กับ สว.สีน้ำเงิน แล้วจะได้ไม่ถูก กกต. และดีเอสไอเอาผิด” แหล่งข่าวสว. ระบุ

สำหรับทั้งสามรายชื่อผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็น ป.ป.ช. ประกอบด้วย

1.นายประกอบ ลีละเปสนันท์ รองประธานศาลฎีกา อดีตผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา อดีตประธานศาลอุทธรณ์คดีชำนัญพิเศษ ที่ได้รับการคัดเลือกจากคณะกรรมการสรรหาให้ถูกเสนอชื่อเป็น ป.ป.ช. คนใหม่ แทน พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ อดีตประธาน ป.ป.ช. ที่พ้นจากตำแหน่งไปแล้ว โดยพบว่า นายประกอบกว่าจะผ่านเข้ารอบมาได้ คณะกรรมการสรรหาฯ ต้องโหวตถึงสามรอบ นายประกอบ ถึงผ่านเข้ามาได้

2.นายเพียรศักดิ์ สมบัติทอง อธิบดีอัยการภาค 2 อดีตอธิบดีสำนักงานคณะกรรมการอัยการ ที่จะมาแทนนายวิทยา อาคมพิทักษ์ ซึ่งก็ต้องโหวตสามรอบเช่นกันถึงจะผ่านเข้ามาได้

3.นายประจวบ ตันตินนท์ ผู้สอบบัญชีอิสระ และอดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงินบริษัท จัสมิน อินเตอร์ เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) – อดีตกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทีทีแอนด์ที จำกัด (มหาชน) – อดีตผอ.การยาสูบแห่งประเทศไทย – อดีตกรรมการผู้อำนวยการ บริษัทตงฮั้ว โฮลดิ้ง จำกัด(มหาชน)ซึ่งทำธุรกิจสื่อ โดยจะมาแทนนางสุวณา สุวรรณจูฑะ แต่พบว่า นายประจวบ สมัยเป็น ผอ.โรงงานยาสูบ ปี 2551 ในช่วงสมัยรัฐบาลพรรคพลังประชาชน เกิดปัญหาการทำงานกับสหภาพโรงงานยาสูบจนต้องยื่นใบลาออก ในปี 2552.