
8 ก.ค. 2568- พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. สั่งการให้ พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ พล.ต.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ รอง ผบช.สอท. พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผบก.สอท.1 สนธิกำลังปิดล้อมตรวจค้น 19 จุด ในพื้นที่กทม.สมุทรปราการ ชลบุรี ตามยุทธการปิดตึกบัญชีม้า ล่านายทุนเขมร
จุดที่น่าสนใจเป็นการตรวจค้นบ้านพักในหมู่บ้านแห่งหนึ่งย่านบางพลี จ.สมุทรปราการ ก่อนนำหมายค้นของศาลอาญาตรวจค้นเพื่อ หาเพื่อหลักฐานและจับกุมนายก๊กอาน หรือMR. Kok An เจ้าของ เครือ crown casino resort ตึก 25 ชั้น ตึก 18 ชั้น ซึ่งเป็น ฐานปฏิบัติ แก๊งคอลเซนเตอร์ขนาดใหญ่ เมืองปอยเปต ที่หลอกลวงคนไทย ประเทศกัมพูชา คนสนิทฮุน เซน ในข้อหามีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ แหล่งฟอกเงิน และอีกจุดย่านประเวศซึ่งเป็นบ้านของลูกสาวก๊กอาน ใช้เป็นที่รับรองแขกวีไอพีจากแก๊งจีนเทา ขณะที่ก๊กอาน เดินทางมาไทยก็เข้าพักที่บ้านหลังดังกล่าวด้วย ซึ่งมีรายงานว่าแขกวีไอพีที่เดินทางมาพักบ้านหลังดังกล่าวจะถ่ายภาพติดพนังไว้ด้วยหลายคน
สำหรับการตรวจค้นครั้งนี้ สืบเนื่องจากวันที่ 26 มิถุนายน 2568 บช.สอท. ได้มีคำสั่งที่ 172/2568 เรื่องแต่งตั้งคณะพนักงานสืบสวน เพื่อทำการสืบสวนคดีที่เกี่ยวเนื่องกับ คดีอาญา บก.สอท.1 ที่ 22/2567, คดีที่ 287/2567 และคดีอาญา บก.สอท.4 ที่ 243/2568 ซึ่งมีความเกี่ยวโยงกัน โดยมีการกระทำความผิดอันมีลักษณะขององค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่ประกอบด้วยบุคคลหลายสัญชาติ มีการแบ่งหน้าที่กันทำเป็นขบวนการ มีการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการอยู่ ณ สถานที่หลายแห่งในเมืองปอยเปต ประเทศกัมพูชา อาทิ อาคาร 25 ชั้น, อาคาร 18 ชั้น, อาคาร HISO และอาคาร Crown Casino โดยกลุ่มคนร้ายใช้สถานที่ทำการหลอกลวงทางออนไลน์ในรูปแบบต่างๆ เช่น Hybrid Scam, Call Center และการฟอกเงินผ่านบัญชีม้าและสกุลเงินดิจิทัล มีการใช้แรงงานคนไทยจำนวนมากที่ถูกหลอกไปทำงานในลักษณะบัญชีม้า พร้อมบังคับให้สแกนใบหน้าเพื่อยืนยันธุรกรรม และมีพฤติกรรมกักขังหน่วงเหนี่ยวบุคคลในต่างประเทศ
จากการสืบสวนสอบสวนพบว่า ผู้ต้องหาบุคคลสัญชาติกัมพูชา เป็นเจ้าของสถานที่อาคารให้ขบวนการกลุ่มคนร้ายอาชญากรรมข้ามชาติใช้ในการก่อเหตุ อันมีส่วนร่วมกระทำการใด ๆ ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อมในกิจกรรมหรือการดำเนินการขององค์กรอาชญากรรมข้ามชาติดังกล่าว โดยรู้ถึงวัตถุประสงค์ และการดำเนินกิจกรรมหรือโดยรู้ถึงเจตนาที่จะกระทำความผิดร้ายแรงขององค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ อันเป็นการจัดการ สั่งการ ช่วยเหลือ ยุยง อำนวยความสะดวก หรือให้คำปรึกษาในการกระทำความผิดร้ายแรงขององค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ โดยรู้ถึงวัตถุประสงค์ของการดำเนินกิจกรรมหรือโดยรู้ถึงเจตนา ที่จะกระทำความผิดร้ายแรงขององค์กรอาชญากรรมข้ามชาติด้วย อันมีพยานหลักฐานเพียงพอว่าผู้ต้องหาน่าจะได้กระทำความผิดตามข้อกล่าวหา พนักงานสอบสวนได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลอาญาออกหมายจับผู้ต้องหา ศาลอาญาอนุญาตให้ออกหมายจับผู้ต้องหา ตามคำร้องหมายจับที่ 3924/2568 ลง 7 ก.ค.68 เพื่อให้สืบสวนจับกุมผู้ต้องหามาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
มีรายงานว่าจากการตรวจค้นทั้งหมด 19 จุดโดยในเบื้องต้นสามารถตรวจยึดรถยนต์รู้จำนวนหลายคันพร้อมกับยึดอายัดเงินจำนวน 27 ล้านบาท และอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดอย่างละเอียดอีกครั้ง.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ซวยแล้ว! อสส. รับคดีพ่อลูกตระกูลฮุนสั่งยิง เป็นคดีนอกราชอาณาจักร
อัยการสูงสุดรับคดี พ่อลูกตระกูลฮุนฯ สั่งยิงระเบิดตกในไทยรอบเเรกเป็นคดีนอกราชอาณาจักรเเล้ว “วัชรินทร์”อธ.อัยการสอบสวน จัดคณะอัยการลงพื้นที่ภาค 3 ร่วมสอบคดี
ทภ.2 เผยแนวรบยังตึงเครียด ‘ศึกตาควาย’ ยังไม่จบ
ทภ.2 เผยแนวรบยังตึงเครียด “ศึกตาควาย”ยังไม่จบ-ต้องรบต่อ “กัมพูชา”โจมตีด้วยปืนใหญ่, BM-21 โดรนพลีชีพ อย่างหนัก ไทยตอบโต้ด้วยอาวุธวิถีโค้ง และเครื่องบินทิ้งระเบิด
เร่งเกม'เลือกตั้ง-จบศึกชายแดน' เมื่อทุกแนวรบกำลังได้เปรียบ
เรียกได้ว่าเกือบจะเป็นฉันทามติของสังคมที่ต้องการให้กองทัพดำเนินกลยุทธ์ในการนำพื้นที่ตามเส้นปฏิบัติการของไทยคืนจากกัมพูชาให้เบ็ดเสร็จเด็ดขาดในการสู้รบระลอกที่ 2
ยั่วยุไม่หยุด! 'ฮุนเซน' ปล่อยเฟกนิวส์ ป้ายสีไทยสังหารชาวกัมพูชาไม่เลือกหน้า สั่งปิดพรมแดนไม่ให้คนไทยกลับ
นายฮุนเซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก Samdech Hun Sen of Cambodia ว่า “พี่น้องประชาชนร่วมชาติที่เคารพรักทุกท่าน
'แก้วสรร' แพร่บทความด่วน 'ศึกเขมร..จะจบอย่างไร?'
นายแก้วสรร อติโพธิ เผยแพร่บทความเรื่อง “ศึกเขมร..จะจบอย่างไร?” มีเนื้อหาดังนี้
'ประเสริฐ' แจง 'MOUดีอี-บ.สิงคโปร์' หน่วยงานกลั่นกรองตามขั้นตอน ย้ำไม่รู้จัก 'เบน สมิธ'
'ประเสริฐ' แจงตรวจสอบ ‘MOU ดีอี-บ.สิงคโปร์ Prime Opportunity Fund’ แล้ว หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกลั่นกรองตามขั้นตอนโดยละเอียด ทั้งกระทรวงดีอี-กระทรวงการต่างประเทศ-กฤษฎีกา-อัยการสูงสุด’ มั่นใจไร้สิทธิพิเศษและไม่เปิดช่องเอื้อประโยชน์ใคร ชี้เนื้อหาระบุ ‘ทุกอย่างต้องเป็นไปภายใต้กฎหมายไทย-สิ่งใดไม่มีกฎหมายรองรับจะกระทำไม่ได้ ย้ำไม่รู้จัก ‘เบน สมิท’ เป็นการส่วนตัว ร่วมเฟลมถ่ายรูปเพราะได้รับเชิญเป็นสักขีพยานเท่านั้น

