ปตท. ผงาดบนเวที Fortune Southeast Asia 500 คว้าอันดับ 2 ของอาเซียนสองปีซ้อน พิสูจน์ความมุ่งมั่นท่ามกลางความท้าทายระดับโลก

สร้างประวัติศาสตร์แห่งความสำเร็จอีกครั้ง จาก บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ด้วยการรักษาตำแหน่ง บริษัทอันดับ 1 ในประเทศไทย และอันดับ 2 ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อย่างต่อเนื่องเป็นปีที่สอง ด้วยการได้รับการจัดอันดับให้เป็น บริษัทอันดับ 1 ของประเทศไทย และ อันดับ 2 ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จากการจัดอันดับ Fortune Southeast Asia 500 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 สะท้อนบทบาทความเป็นผู้นำในภาคพลังงาน และการดำเนินงานบนหลัก "ความยั่งยืนอย่างสมดุล"

การจัดอันดับดังกล่าวจัดทำโดยนิตยสาร Fortune ซึ่งเป็นนิตยสารเศรษฐกิจระดับโลกที่ได้รับความเชื่อถือสูงสุด เริ่มจัดอันดับในปี 2498 ภายใต้รายการ Fortune Global 500 และเพิ่งขยายมาสู่เวที Southeast Asia 500 ในปี 2567 เพื่อชี้วัดศักยภาพองค์กรในภูมิภาคที่เติบโตเร็วที่สุดแห่งหนึ่งของโลก

ดร.คงกระพัน อินทรแจ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ปตท. เปิดเผยว่า "แม้ว่าจะอยู่ในสภาวะพลังงานผันผวนและเศรษฐกิจโลกถดถอย แต่กลยุทธ์ของ ปตท. ได้พิสูจน์แล้วว่าเดินมาถูกทาง เราสามารถปรับตัว รับมือ และสร้างการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง พร้อมคงไว้ซึ่งความมั่นคงทางพลังงานและความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจัง" ภายใต้วิสัยทัศน์ "TOGETHER FOR SUSTAINABLE THAILAND, SUSTAINABLE WORLD" หรือ “ปตท. แข็งแรงร่วมกับสังคมไทยและเติบโตในระดับโลกอย่างยั่งยืน” โดยมีพันธกิจในการ “สร้างความมั่นคงทางพลังงานให้กับประเทศไทย สร้างการเติบโตควบคู่กับการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก

ปตท. มีกลยุทธ์มุ่งเน้นธุรกิจหลัก Hydrocarbon สร้างความมั่นคงทางพลังงานให้แก่ประเทศ สร้างการเติบโตควบคู่กับการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก อาทิ การแสวงหาแหล่งพลังงานในกับประเทศผ่านธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียม ซึ่งมีการเติบโตที่ดีในต่างประเทศด้วยการสร้างมูลค่าเพิ่มในธุรกิจ LNG ให้เกิดประโยชน์สูงสุด มุ่งสู่การเป็นศูนย์กลางการซื้อขาย LNG ในภูมิภาค การเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของธุรกิจปิโตรเคมีและการกลั่น

ปรับพอร์ตธุรกิจ Non-Hydrocarbon โดยธุรกิจต้องมีความน่าสนใจ (Attractiveness) และ ปตท. มี Right to Play หรือมีจุดแข็ง และมี Partner ที่แข็งแรง หลีกเลี่ยงความเสี่ยงจากอุตสาหกรรมที่มีการแข่งขันสูง อีกทั้งกลุ่ม ปตท. ให้ความสำคัญกับการดำเนินงานด้านความยั่งยืนเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก มุ่งสู่เป้าหมาย Net Zero ในปี 2050 โดยดำเนินการอย่างบูรณาการร่วมกันทั้งกลุ่ม ปตท. ศึกษาความเป็นไปได้ในการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดักจับและกักเก็บก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (Carbon Capture and Storage: CCS) 

รวมถึงพัฒนา CCS Hub Model เพื่อสนับสนุนการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการดำเนินธุรกิจของกลุ่ม ปตท. และอุตสาหกรรมในประเทศ รวมถึงโอกาสขยายผลสู่ระดับภูมิภาคในอนาคตต่อไป พร้อมแสวงหาโอกาสในธุรกิจไฮโดรเจนสำหรับภาคอุตสาหกรรม จัดหาไฮโดรเจนและแอมโมเนียคาร์บอนต่ำ และการประยุกต์ใช้ในภาคการผลิตไฟฟ้าเพื่อเป็นต้นแบบในการขยายผลเชิงธุรกิจ

นอกจากนี้กลุ่ม ปตท. พร้อมเร่งสร้างความแข็งแรงภายใน สร้างมูลค่าเพิ่มจากความร่วมมือภายในกลุ่ม ปตท. ผ่านโครงการสำคัญต่างๆ ยกระดับ Operational Excellence เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน มีแผนงานและเป้าหมายเป็นรูปธรรม นำเทคโนโลยีดิจิทัลและ AI มาเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน ซึ่งสามารถยกระดับผลกำไรได้

รวมทั้งเสริมความแข็งแกร่งด้วยการรักษาวินัยทางการเงินและการลงทุนอย่างเคร่งครัด ตลอดจนบริหารสภาพคล่องกระแสเงินสดภายในกลุ่มอย่างมีประสิทธิภาพ ยึดหลักการดำเนินธุรกิจด้วยความโปร่งใสและมีธรรมาภิบาล (Good Governance) ดูแลผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วนอย่างสมดุล สร้างผลตอบแทนที่เหมาะสม พัฒนาคุณภาพชีวิตของสังคมไทย เพื่อสร้างคุณค่าให้กับสังคมและผู้ถือหุ้นอย่างยั่งยืน

ความสำเร็จของ ปตท. ในการครองอันดับ 1 ในไทยและอันดับ 2 ในอาเซียนจาก Fortune Southeast Asia 500 สองปีซ้อน ไม่ใช่เพียงแค่ตัวเลขทางธุรกิจ แต่เป็นบทพิสูจน์ถึงความมุ่งมั่นใน วิสัยทัศน์ ขององค์กรในการสร้างสมดุลระหว่างการดำเนินธุรกิจที่แข็งแกร่งกับการรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

“อินโนบิก” กลุ่มธุรกิจใหม่ ในเครือ ปตท. ตั้งเป้ามุ่งสู่การเป็นผู้นำ Life Science ในภูมิภาคอาเซียน โดยเน้นการเติบโตร่วมกับพันธมิตร

เมื่อเทรนด์สุขภาพ กลายเป็นโอกาส ที่ไม่ใช่แค่เม็ดเงินในการลงทุน แต่เป็นการก้าวไปอีกขั้นของวงการวิทยาศาสตร์เพื่อชีวิต (Life Science) บริษัท อินโนบิก (เอเซีย) จำกัด บริษัทในเครือ ปตท. จำกัด (มหาชน) จึงได้จัดงาน Innobic Life Science Business Excellent Move Forum งานสัมมนาครั้งใหญ่ เพื่อประกาศจุดยืนทางธุรกิจ

โออาร์ มอบบัตรน้ำมัน 200,000 บาท หนุนภารกิจช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย หาดใหญ่-สงขลา

พลอากาศเอก เสกสรร คันธา ผู้บัญชาการทหารอากาศ รับมอบบัตรน้ำมัน มูลค่า 200,000 บาท จาก หม่อมหลวงปีกทอง ทองใหญ่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และนายพิมาน พูลศรี รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านธุรกิจค้าปลีกน้ำมัน บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ โออาร์ เพื่อสนับสนุนการจัดหาน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับภารกิจลงพื้นที่ช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ผู้ประสบภัยในพื้นที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา

ปตท.เร่งช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้

ปตท. เร่งส่งความช่วยเหลือ เปิดศูนย์อำนวยการสถานการณ์อุทกภัยภาคใต้ พร้อมส่งหน่วยปฏิบัติการ PTT Group SEALs ผนึกกำลังร่วมกับส่วนปฏิบัติการระบบท่อเขต 7 ปตท. เข้าบรรเทาทุกข์ผู้ประสบอุทกภัยในจังหวัด