
รัฐบาล-สภาฯ ตื่นแล้ว กมธ.ฯงบ 69 หนุนกองทัพเสริมเขี้ยวเล็บเต็มสูบ แนะทัพเรือเร่งรัดจัดหาเรือฟริเกตดำเนินการในคลาสเดียวกันอย่างน้อย 2ลำขึ้นไป ดันทอ.จัดหาเครื่องบินลำเลียงทดแทนของเก่า เสนอเหล่าทัพซื้ออาวุธที่ไทยผลิตได้เองมากขึ้น ชูไอเดียทหารเกณฑ์“เช้าไปเย็นกลับ”จูงใจคนสมัครเป็นทหาร
10 ส.ค. 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในสัปดาห์นี้ ช่วงวันที่ 13-15 ส.ค. สภาผู้แทนราษฎร จะมีการประชุมเพื่อพิจารณาร่างพรบ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ในวาระสองและวาระสาม
โดยร่างพรบ.งบฯ 2569 มีวงเงินทั้งสิ้น 3,780,600,000,000 บาท มีการปรับลดทั้งสิ้นตามมติของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯจำนวน 8,920,781,300 บาท และให้จัดสรรให้ส่วนราชการตามที่ครม.เสนอตามความเหมาะสมและจำเป็นจำนวน 8,690,545,700 บาท -จัดสรรให้หน่วยงานของรัฐสภา ศาล องค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญและองค์กรอัยการ 230,235,600 บาท
ซึ่งในรายงานของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพรบ.งบฯ 2569 ที่มีนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯและรมว.คลังเป็นประธานกมธ.ฯ มีการจัดทำข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการฯ ไว้ในเอกสารร่างพรบ.งบฯ 2569 ที่เสนอต่อสภาฯ ไว้ครบทุกหน่วยงาน
โดยที่น่าสนใจก็เช่น งบกองทัพ-งบทหาร ที่หลังเกิดเหตุปะทะระหว่างไทย-กัมพูชา ทำให้งบทหารถูกจับมองมากขึ้น ซึ่งพบว่า ในข้อสังเกตของกมธ.ฯ ที่มีต่อหน่วยงานต่างๆ ในสังกัดกระทรวงกลาโหม มีรายละเอียดที่น่าสนใจเช่น
-สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม
กมธ.ฯมีข้อสังเกตุ-ข้อเสนอแนะว่า หน่วยงานควรสำรวจอัตรากำลังและบทบาทหน้าที่ของนายพล และพิจารณาปรับอัตรากำลังพลให้เหมาะสมตามภารกิจหน้าที่ และไม่บรรจุทดแทนอัตราที่ไม่จำเป็นรวมทั้งเร่งผลักดันโครงการเกษียณอายุก่อนกำหนด (Early Retirement)เพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์อย่างแท้จริง โดยการปรับปรุงสิทธิประโยชน์ให้มีความเหมาะสมและเพียงพอที่จะจูงใจให้ข้าราชการสมัครเข้าร่วมโครงการ โดยต้องประเมินเปรียบเทียบงบประมาณอย่างรอบด้านว่าการให้ข้าราชการนายทหารบางส่วนเกษียณก่อนกำหนด มีความคุ้มค่า และช่วยลดภาระงบประมาณมากกว่าการปล่อยให้ดำรงตำแหน่งอยู่จนครบอายุราชการ
-ควรส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมป้องกันประเทศของไทยอย่างเป็นระบบและยั่งยืน โดยส่งเสริมความร่วมมือกับภาคเอกชนไทย เพื่อขับเคลื่อนให้เกิดการพัฒนาอุตสาหกรรมป้องกันประเทศในเชิงรูปธรรม ควบคู่กับการใช้งบประมาณด้านความมั่นคงให้เป็นกลไกในการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ
-ควรกำหนดระเบียบเพื่อระบุสัดส่วนการจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์และเทคโนโลยีป้องกันประเทศจากผู้ผลิตภายในประเทศอย่างชัดเจน พร้อมทั้งกำหนดแนวทางการปรับเพิ่มสัดส่วนดังกล่าวแบบขั้นบันไดในระยะยาว ควบคู่กับการดำเนินนโยบายสนับสนุนทางภาษี และศุลกากรสำหรับผู้ประกอบการไทยที่มีความจำเป็นต้องนำเข้าชิ้นส่วนหรือวัสดุเพื่อการผลิตหรือประกอบภายในประเทศ
-ควรพิจารณาทบทวนรูปแบบการปฏิบัติงานของพลทหาร ภายหลังเสร็จสิ้นระยะการฝึกขั้นพื้นฐาน โดยเปิดให้สามารถปฏิบัติงานในลักษณะ “เช้าไปเย็นกลับ” หรือจัดระบบการปฏิบัติงานเป็นกะที่มีวันหยุดพักผ่อนถี่ขึ้นตามความเหมาะสม เพื่อให้เกิดความสมดุลระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ และชีวิตส่วนตัว แนวทางดังกล่าวจะช่วยเสริมสร้างแรงจูงใจในการสมัครเข้ารับราชการทหารในระบบสมัครใจ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
-กองบัญชาการกองทัพไทย
ในการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์โดยอาศัยมาตรการ “ตัดไฟ ตัดอินเทอร์เน็ต และตัดน้ำมันเชื้อเพลิง” ศูนย์อำนวยการขับเคลื่อนการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยคุกคามที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงในพื้นที่ชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน หรือศอ.ปชด. ควรบูรณาการร่วมกับหน่วยงานอื่น ๆ อาทิ ศ.ปอท. กสทช. และธปท. เพื่อเร่งรัดขั้นตอนการจับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้รวดเร็วขึ้น และเพิ่มประสิทธิผลของมาตรการเพื่อสกัดกั้นการกระทำความผิดและมุ่งเน้นให้สามารถสร้างแรงกดดันและผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อเครือข่ายอาชญากรไซเบอร์ในพื้นที่เป้าหมาย
-กองทัพบก
หน่วยงานควรขับเคลื่อนนโยบายการจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ที่สามารถผลิตได้ภายในประเทศในสัดส่วนที่เหมาะสมอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อส่งเสริมการพึ่งพาตนเองด้านการป้องกันประเทศ และสนับสนุนการเติบโตของอุตสาหกรรมป้องกันประเทศในประเทศ อันจะเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของชาติในระยะยาว ควรกำหนดแนวทางดังกล่าวให้เป็นระเบียบหรือเกณฑ์ที่ชัดเจน พร้อมทั้งมีการปรับเพิ่มสัดส่วนการจัดซื้อจากผู้ผลิตภายในประเทศอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างแรงจูงใจให้ภาคเอกชนพัฒนาขีดความสามารถในการผลิต และยกระดับอุตสาหกรรมป้องกันประเทศของไทยให้สามารถแข่งขันได้ในระดับสากล
-กองทัพเรือ
หน่วยงานควรกำหนดนโยบายที่ชัดเจนในการส่งเสริมการต่อเรือรบภายในประเทศ และเร่งรัดการจัดหาเรือฟริเกตให้เป็นไปตามแผนที่กำหนดไว้ในสมุดปกขาว รวมถึงเพื่อทดแทนเรือฟริเกตที่ใกล้ครบอายุการใช้งานและเตรียมปลดประจำการในอนาคต การจัดหาเรือฟริเกตควรดำเนินการในคลาสเดียวกันอย่างน้อย 2ลำขึ้นไป เพื่อให้เกิดความคุ้มค่าทางงบประมาณตามหลักการประหยัดจากขนาด(Economy of Scale) ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนต่อหน่วยลดภาระค่าใช้จ่ายด้านการบำรุงรักษา การจัดหาอะไหล่และการฝึกอบรมกำลังพลเนื่องจากระบบอาวุธและระบบอำนวยการรบมีความเหมือนกัน ส่งผลให้การปฏิบัติงานมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และเอื้อต่อการวางกำลังทางยุทธวิธีในระยะยาว ที่ผ่านมาหน่วยงานประสบปัญหาจากการมีเรือในคลาสเดียวกันเพียงลำเดียวเช่น กรณีเรือหลวงภูมิพล ซึ่งแบกรับภาระการใช้งานจนเกินขีดจำกัด ส่งผลให้เครื่องยนต์เสียหายทั้งสองเครื่อง และต้องใช้เวลาซ่อมแซมยาวนาน โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2571
-ควรเสนอแผนการจัดหายุทโธปกรณ์ให้คณะรัฐมนตรีเห็นชอบตามแนวทางเดียวกับการจัดหาเครื่องบินโจมตีขับไล่เป็นฝูงบินขอกองทัพอากาศ แนวทางดังกล่าวจะช่วยให้หน่วยงานสามารถดำเนินการจัดหาเรือฟริเกตได้อย่างครบถ้วนตามจำนวนที่จำเป็นทางยุทธวิธีตามที่กำหนดไว้ในสมุดปกขาว โดยไม่ก่อให้เกิดภาระงบประมาณเกินความจำเป็น และสอดคล้องกับการบริหารงบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพ
– การจัดหายุทโธปกรณ์ของหน่วยงานเช่น เรือฟริเกต ถือว่าเป็นก้าวสำคัญในการส่งเสริมการพึ่งพาตนเองและสร้างระบบนิเวศทางความมั่นคงอย่างยั่งยืนทั้งนี้ กองทัพเรือ และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง ควรร่วมกันสร้างมาตรการสนับสนุนอุตสาหกรรมต่อเรือและอิเล็กทรอนิกส์ทางทหารในประเทศ เช่น การลดภาษีนำเข้าวัตถุดิบ การให้เงินทุนหมุนเวียน หรือการให้สิทธิประโยชน์กับบริษัทที่ผ่านการรับรองจากกองทัพ
-กองทัพอากาศ
ควรพิจารณาการจัดหาเครื่องบินลำเลียงทดแทนเครื่องบินที่มีอายุการใช้งานยาวนานและควรปลดระวาง เนื่องจากไม่คุ้มค่าต่อการซ่อมบำรุงในระยะยาว โดยการจัดหาควรคำนึงถึงภารกิจที่สามารถใช้งานร่วมกับภาคพลเรือนได้ ทั้งในด้านการทหารและการช่วยเหลือประชาชน เพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถของประเทศในการรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินต่าง ๆอย่างมีประสิทธิภาพ โดยต้องพิจารณาความคุ้มค่าและความเหมาะสมในการใช้งาน รวมถึงบริบทด้านภูมิรัฐศาสตร์ ในแนวทางที่ส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศมหาอำนาจอย่างสมดุลในเชิงยุทธศาสตร์ เป็นต้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ส่งทีม สธ. SRRT–SehRT 52 ชุด ลงศูนย์พักพิง เคลื่อนย้ายผู้ป่วยออกนอกพื้นที่ชายแดน
รัฐบาล ตรียมพร้อมแผนการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยออกนอกพื้นที่ชายแดน มอบหมาย สธ. ส่งทีม SRRT–SehRT จำนวน 52 ทีม
รู้แล้วฝีมือใคร! จุดเริ่มต้นดรามา 'ซีเกมส์ 2025'
รศ.หริรักษ์ สูตะบุตร อดีตรองอธิการบดีฝ่ายบริหารบุคคล มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า วิพากษ์วิจารณ์กันจนเป็นดรามา คือเรื่องพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ครั้งที่ 33 ที่ไทยเป็นเจ้าภาพ
รัฐบาล สั่งปิดเส้นทางเสี่ยงชายแดนไทย–กัมพูชา แนะ ปชช. เลี่ยงการเดินทางพื้นที่ปะทะ
จากสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา รัฐบาล ติดตามสถานการณ์ความไม่สงบตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชาอย่างใกล้ชิด
เร่งเกม'เลือกตั้ง-จบศึกชายแดน' เมื่อทุกแนวรบกำลังได้เปรียบ
เรียกได้ว่าเกือบจะเป็นฉันทามติของสังคมที่ต้องการให้กองทัพดำเนินกลยุทธ์ในการนำพื้นที่ตามเส้นปฏิบัติการของไทยคืนจากกัมพูชาให้เบ็ดเสร็จเด็ดขาดในการสู้รบระลอกที่ 2
นายกฯ คุย 'ทรัมป์' ค่ำนี้ อัปเดตชายแดน ปัดหลิ่วตา 'ฮุนเซน'
'อนุทิน' อัปเดตชายแดนกับ 'ทรัมป์' ค่ำนี้ หลังคุย 'อันวาร์' ช่วงเย็น ปัดหลิ่วตา 'ฮุนเซน' ย้อนถามหยุดยิงเมื่อไหร่ ยันรัฐบาลมีอำนาจเต็มดูแลชายแดน
'อนุทิน' เปิดใจเหตุยุบสภา ปัดหักหลัง ปชน. หนุนประชามติแก้รธน.
'อนุทิน' เปิดใจเหตุยุบสภา 'เท้ง' บอกไม่ให้ไปต่อ ปัดหักหลังยังยึดตามเอ็มโอเอ แต่คงอำนาจ สว. ไม่ได้อยู่ในข้อตกลง แย้มพร้อมหนุนประชามติแก้รธน.คำถามแรก

